แม้ว่าระหว่างที่รออยู่จะมีหนุ่ม ๆ เดินมามองหรือส่งสายตาที่แสดงออกว่าสนใจฉันเป็นพิเศษ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ดีกรีความร้อนในใจมันลดลงได้เลย ปกตินักเรียนแพทย์เขาจะขยันเรียนเข้าคลาสไม่เคยคาดนี่นา แต่อย่างว่าแหละโลกันต์เรียนจิตเวชปี 2 เขาไม่จำเป็นต้องขึ้นวอร์ด
เท่ากับว่าโลกันต์เป็นนักศึกษาปี 7 เขาเป็นพี่ฉันตั้งหลายปีแน่ะ!!!
หลังจากที่ฉันพยายามนั่งรอโลกันต์อย่างใจเย็น จนแล้วจนรอดก็ได้เวลาที่ฉันต้องไปเข้าคลาสนี่ฉันรอมา 4 ชั่วโมงเลยนะ!! ไปบอกใครเขาอายตายเลย แพรลีนนั่งรอผู้ชายได้ตั้งนาน!! หมดกันศักดิ์ศรีบ่นปี้เพราะตานั่นคนเดียว
ฉันเดินหน้าบอกบุญไม่รับกลับมาที่คณะเพื่อเรียนวิชาเดียวของวัน!!
“ทำหน้าแบบนี้รอเก้อชัวร์ ใช่มั้ย” หลังจากที่ฉันเข้ามานั่งในห้องเลคเชอร์มารีนก็รีบถามขึ้นอย่างไว ฉันเพลียเกินกว่าจะตอบเลยพยักหน้าให้อย่างเซ็ง ๆ
“ก็ฉันบอกแล้ว ฮีไม่ค่อยมาเรียนหรอก”เนเน่รีบพูดเสริมขึ้นมาทันทีเหมือนรออยู่นาน
“แกรู้ตารางของพวกรุ่นพี่จิตเวช บ้างมั้ยมารีน?” ฉันหันไปถามด้วยสีหน้าคาดหวังเต็มที่เพราะไม่มีอะไรที่เพื่อนรักฉันไม่รู้ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
“ก็พอรู้จักรุ่นพี่อยู่นะ เดี๋ยวลองไปถามมาให้”
“แหม ถามไปก็เท่านั้นแหละแก ก็บอกแล้วว่าฮีอินดี้” เนเน่ขัดขึ้นมาทันที
“ไม่มาแล้วจะจบได้ไง?”
“แหมหล่อนไม่ทันไรก็เป็นห่วงเขาซะละ”
ห่วง….? ยัยเนเน่สงสัยสติเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ!!
“ห่วงอะไร แค่สงสัยย่ะ” ฉันหันไปบอกยัยเพื่อนจอมแซวก่อนจะหันมาถามมารีนอีกครั้ง “วานแกอีกอย่างสิ ช่วยสืบที่อยู่ตานั่นมาให้หน่อย”
“นี่แกเอาจริงเหรอ?” มารีนถามฉันกลับบ้าง
มาถึงขั้นนี้แล้วต่อให้ไปเจอที่มหาวิทยาลัยฉันก็จะตามไปหลอกหลอนเขาที่บ้านเลย ทุกที่ที่เขาอยู่จะต้องมีฉันวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
“รีบ ๆ สืบเข้าล่ะ ฉันใจร้อน…”
แผนแรกของฉันคือทำให้เขาเห็นฉันให้มากที่สุดไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม นายนั่นจะเกิดความเคยชินที่มีฉันคอยวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ โดยไม่รู้ตัว เขาคงไม่รู้ว่าตอนนี้….นอกจากฉันมั่นหน้าแล้วยังหน้าด้านอีกด้วย!!
หลังจากนั้นไม่กี่วันฉันก็ได้ตารางเรียนของโลกันต์มาไว้ในครอบครองคราวนี้แหละ ซึ่งเป็นวันนี้พอดีฉันเลยไม่รีรอที่จะไปยืนชะเง้อมองอยู่หน้าตึก เป็นตายยังไงวันนี้ฉันก็ต้องเจอนายให้ได้โลกันต์!!
วันนี้ยังไงเขาก็มาเรียนชัวร์ ในตารางบอกวิชาสุดท้าย ก็ราว ๆ เกือบสี่โมงเย็น แต่เพื่อไม่ให้พลาดฉันเลยมารอตั้งแต่บ่ายสองโมง บอกตรง ๆ ว่าเกิดมาไม่เคยรอใครนานขนาดนี้มาก่อน ระหว่างรอก็มองบรรยากาศรอบ ๆ ไปด้วยคณะแพทย์ค่อนข้างเงียบไม่เอะอะมะเทิ่งเหมือนคณะฉันเลย ดูแต่ละคนเป็นผู้ดี๊ผู้ดี
หลาย ๆ คนมองฉันด้วยสายตาสงสัย สาวผมแดงแต่ตัวจี๊ดซะขนาดนี้มานั่งทำอะไรที่คณะแพทย์ แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่ได้มองว่าฉันมาเรียนแพทย์หรอกสไตล์ฉันมันห่างไกลคำนั้นมาก ๆ
เพราะรอนานเกินไปฉันเลยหยิบหนังสือที่เขาลืมไว้ขึ้นมาเปิด ๆ ดู ในนี้บรรยายถึงลักษณะของคนที่เป็นโรคจิตซึ่งก็มีหลายประเภทด้วยกัน จะว่าไปเจ้าหนังสือเล่มนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะสามารถทำให้ฉันเล่นตามบทได้แนบเนียนขึ้น ก็จะอะไรซะอีกถ้าไม่ใช่บทคนโรคจิตอ่อน ๆ ที่ชอบอ่อยเพศตรงข้ามน่ะ….แค่คิดก็สนุกจนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เลยล่ะ
และแล้วเวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง โลกันต์เดินหน้าหล่อออกมาจากคณะ เป็นโอกาสให้ฉันเข้าไปเล่นบทโรคจิตกับเขาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะมาก เขาดูอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นฉันเดินตรงเข้าไปหา แต่เพียงแค่แว็บเดียวเท่านั้นแหละเพราะนายโลกันต์รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนไม่อยากเห็นฉันอย่างนั้นแหละ
โถ่ ทำเก็กไปเถอะเดี๋ยวแม่จะอ่อยให้อายเลยคอยดู!!
“สวัสดีค่ะ ว่าที่คุณหมอโรคจิต…โลกันต์”
เขามีท่าทีตกใจมากแต่ก็ยังคงนิ่งอยู่ เมื่อฉันเดินเข้าไปกราบงาม ๆ ที่อกของเขา จากนั้นฉันก็อ้อยอิ่งอยู่ที่บริเวณปกเสื้อมือก็ลูบไล้ไปมา จนโลกันต์ต้องปัดมือฉันออกก่อนที่คนจะมองไปมากกว่านี้
“มีอะไร”
เขาถามสั้น ๆ พร้อมกับมองไปทางไหนก็ไม่รู้ เฮอะไม่อยากมองหน้าฉันขนาดนั้นเลยเหรอมันต้องเจออย่างนี้!!
”ไม่เคยมีใครบอกหรอกว่า เวลาคุยกัน…..” ฉันใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าของเขาให้หันมา “ต้องมองหน้าอีกฝ่ายด้วย” ฉันจงใจยืนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนหน้าของเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว แววตาของเขายังคงนิ่งเฉยเหมือนเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับสถานการณ์อย่างนี้
โลกันต์ปัดมือของฉันออกอย่างไม่แยแส ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากจะพ่นไฟใส่เขาจริง ๆ!!
“มาทำไม?” โลกันต์ถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยราวกับกระดาษ
“เอาหนังสือมาคืน แล้วก็….มาให้ว่าที่คุณหมอรักษา”
คำพูดของฉันทำให้เขาหันกลับมามองอีกครั้งพร้อมทั้งรับหนังสือที่ฉันยื่นให้ แต่มีเหรอที่ฉันจะปล่อยง่าย ๆ ฉันยื้อหนังสือเอาไว้พร้อมทั้งทำหน้ายั่วยวนใส่ แทนที่เขาจะหลงกลกลับดึงหนังสือไปหน้าตาเฉย ด้วยแรงที่เยอะกว่าทำให้ฉันต้องปล่อยของออกไปจากมือ
บ้าจริง!! ไอ้หมอบ้าพลังจอมเย็นชา!!