บทที่4

1148 คำ
“ที่นี่เขาเอาไว้อ่านหนังสือนะไม่ได้มีไว้ให้งีบ” “แล้วไง” เขาตอบทั้งที่ไม่ได้ลืมตา “นายง่วงเหรอ?” “ใช่” เขาบอกว่าง่วง!! ดีล่ะนายโลกันต์ฉันจะถามให้ยับเลย นายจะได้ไม่มีสิทธิ์งีบหลับ ผู้ชายประหลาดมารยาทยอดแย่ต้องเจอแกล้งซะบ้างถึงจะเข็ด “โลกันต์” “อืม” ฉันเรียกชื่อเขาซ้ำๆ เป็นระยะๆ เขาก็ตอบทุกครั้งที่ฉันเรียกชื่อแต่ดูเหมือนเขาจะเริ่มเคลิ้มแล้วล่ะ เรื่องอะไรจะยอมให้หลับ… “ทำไมนายพูดน้อยจัง” ฉันถามคำถามกับเขาอีกครั้ง บอกแล้วไม่ยอมให้นอนง่ายๆ “เป็นเพราะเธอพูดมากต่างหาก” ฉันเชื่อแล้วว่าเขาเป็นมนุษย์ที่พูดน้อยต่อยหนักจริง ๆ คือแต่ละคำที่ตอกกลับมามันช่างกวนประสาทฉันนั้นอยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้องสมุด แต่ก็ทำได้เพียงแค่เก็บอารมณ์เอาไว้ก่อน ต้องใจเย็นเข้าไว้นายนี่ก็แค่อยากจะให้ฉันไปจากเขาเร็ว ๆ ถ้าฉันปรี๊ดแตกก็เข้าแผนเขาน่ะสิ!! “แล้วนายชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ?” คำถามนี้ทำให้โลกันต์ลืมตาขึ้นมามองฉันด้วยสายตาที่ราบเรียบเช่นเคยจะมีสักครั้งมั้ยนะ ที่เขามองฉันด้วยสายตาที่ต่างออกไป…. “แบบที่….ไม่ใช่เธอ!!!” “แล้วมันแบบไหนล่ะ!!” ฉันไม่ยอมที่จะหยุดถาม ถ้าไม่ใช่แบบฉันเขาก็ควรจะอธิบายมันออกมาว่าเป็นแบบไหนจริงมั้ย? โลกันต์จ้องฉันนิ่งเหมือนกำลังคิดอยู่ว่าผู้หญิงแบบไหนที่เขาชอบ…. “สวยหวาน เรียบร้อยทั้งการแต่งตัวและกิริยามารยาท ซึ่งห่างไกลจากคำว่า ‘แพรลีน’ มากเข้าใจมั้ย?” เข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะค่ะ!! ฉันเข้าใจดีถึงการเป็นกุลสตรีสวยหวานที่อ่อนต่อโลก และฉันจะไม่มีทางกลับไปเป็นคนนั้นอีกเด็ดขาด คนที่โดนหักหลังอย่างเลือดเย็น ฉันไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนตัวเอง ฉะนั้นฉันจะเปลี่ยนเขาให้มาชอบคนอย่างฉันให้ได้เลยคอยดูเถอะ เป็นเวลาเกือบสิบนาทีที่ต่างคนต่างเงียบ นายโลกันต์ยังคงนั่งหลับตานิ่งไม่ไหวติง มีเพียงฉันที่หยุกหยิกไปมาอยู่ไม่สุข ก็แหม…เวลานั่งเฉยๆ แล้วมันเบื่อนี่นา ปกติแล้วฉันเป็นพวกอยู่นิ่งไม่ค่อยได้ เขาว่ากันว่าเวลาคนเราถูกจ้องมักจะรู้ตัว คงต้องขอลองทฤษฏีนี้สักหน่อยแล้ว! ฉันจ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา เวลาที่หลับตาอย่างนี้เผยให้ขนตายาวปิดคลุมมาถึงด้านล่าง ทำให้รู้สึกเขาหน้าหวานมาก ผิดกับตอนลืมตาลิบลับเพราะสายตาคม ๆ นั่นให้ความรู้สึกลึกลับอย่างประหลาด แต่ไม่ว่าจะหลับหรือตื่นก็ดูหล่อไม่แพ้กันเลย… คนอย่างเขานี่ดูเหมือนเย็นชาเกินไปที่จะเรียนหมอด้วยซ้ำ ไม่รู้โดนบังคับมาเรียนรึเปล่าเห็นโดดเป็นว่าเล่น แต่นายนี่คงเส้นใหญ่ไม่เบา เพราะถ้าเป็นคนอื่นมีพฤติกรรมแบบนี้คงโดนดีดออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้วแน่… “มองอะไรนัก” นั่นแสดงว่าทฤษฏีนี้ได้ผล!! เขาพูดขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ “ทำไม…นายไม่ค่อยมาเรียนล่ะ?” ฉันซักถามข้อสงสัยขึ้นทันที จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจำเป็นต้องรู้หรอกนะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน….ฉันอยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ “……” “นายไม่ห่วงอนาคตตัวเองบ้างหรือไง หรือไม่มี?” ฉันรอให้เขาตอบแต่ก็เขา ถ้าเขาไม่เห็นแก่ตัวเองก็ควรจะเห็นแก่คนที่อยู่ข้างหลังเขาบ้าง อุส่าห์ส่งให้เรียนหมอกลับมาทำตัวไม่เอาไหน…. “เอาเวลาที่วิเคราะห์ตัวฉัน ไปดูแลตัวเองเถอะ” โลกันต์ทำสายตาขุ่นเขียวใส่ฉัน แม้เขาจะไม่ค่อยพูดแต่สีหน้าเขาพูดแทนหมดแล้วว่าไม่พอใจที่ฉันเข้าไปล้ำเส้น “ฉันดูแลตัวเองดีอยู่แล้วนายไม่เห็นเหรอ?” ฉันลุกขึ้นยืนโพสท่าอวดหุ่นสวยที่แสนจะภูมิใจ เพราะฉันน่ะดูแลรูปร่างและหน้าตาอย่างดีเสมอ เรื่องนี้เขาเถียงฉันไม่ได้หรอก! แต่เหมือนฉันเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาสื่อสาร โลกันต์ถอนหายใจเฮือกใช้แล้วเอานิ้วขึ้นมาชี้ที่หัว… “หมายถึงตรงนี้ตะหาก!” ฉันแทบจะหุบยิ้มในทันทีที่เขาพูดจบ อิตาบ้านี่ว่าฉันปัญญาอ่อนเหรอ!! คิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมแพ้ “ฉันอาจจะสมองไม่ปกติจริง ๆ อย่างที่นายว่านะ ฉะนั้นนายต้องรักษาฉันอย่างจริงจังแล้วล่ะ” ฉันแสร้งยอมรับตีหน้าซื่อใส่โลกันต์ เอาสิให้มันรู้กันไปว่าใครแน่กว่ากัน!! โลกันต์เอนตัวมาข้างหน้าแล้วยกยิ้มใส่ฉัน เขาจ้องหน้าฉันนิ่ง โดยที่ฉันก็จ้องตอบอย่างไม่หวั่นเช่นกัน…. “อย่างเธอคงรักษายากนะ แค่ผู้ชายเดินผ่าน…อาการก็กำเริบแล้ว” กรี๊ดดดดดดดดด!!! ฉันอยากจะเอาเล็บสวย ๆไปกรีดหน้าผู้ชายปากปลาร้าคนนี้จริง ผู้ชายอะไรหยาบคายปากเสีย ฉันต้องขบฟันไว้แน่นเพื่อสะกดอารมณ์ไว้ ในขณะที่เขายิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างสบายใจที่ตอกกลับฉันได้อย่างเจ็บแสบ นับว่าแน่มากดีล่ะโลกันต์แบบนี้นายกับฉันได้สนุกกันอีกนานแน่ ๆ ฉันลุกขึ้นเดินเพื่อเดินไปนั่งข้าง ๆ โลกันต์ที่ตอนนี้เขากำลังมองฉันอย่างไม่เข้าใจในท่าที คงต้องถึงบทอ่อยอย่างจริงจังแล้วสินะ!! เนื่องจากในมุมที่เราสองคนนั้นไม่ค่อยมีคนและห่างไกลจากสายตาประชาชีฉันจึงเล่นบทนี้ได้สะดวกนัก ฉันเอี้ยวตัวเข้าหาเพื่อที่จะได้คล้องแขนได้สะดวก ส่วนอีกมือข้างก็วางทาบหน้าอกที่แข็งแกร่งดั่งหินของเขาเอาไว้…. “อาการฉันกำเริบแค่ตอนอยู่กับนายเท่านั้นแหละ” ฉันกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูโลกันต์ เขานิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมามองฉันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า… “ฉันเป็นคนไม่ชอบพูด…แต่ชอบทำ!!” ทะ….ทำอะไร!! ฉันเบิกตากว้างมองเขาที่ตอนนี้กำลังล็อคแขนทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น พร้อมกับเอนตัวเข้ามาใกล้จนแทบจะร่างกายแทบจะติดกัน พลัก!! แม่เจ้า!! เขาผลักฉันออกอย่างแรงจนไม่สนว่าฉันจะตกเก้าอี้หรือเปล่า หยาบช้าป่าเถื่อนที่สุดเขาเดินไปไม่คิดจะหันกลับมามองด้วยซ้ำ อร๊ายยยยยย อยากจะกรี๊ดให้ห้องสมุดแตกเลยค่ะตอนนี้ เหอะ!! ได้ใจไปก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยดูแม่จะเอาคืนให้เจ็บแสบเลย!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม