“เฮีย! แย่แล้ว”
เพชรวิ่งโล่เข้ามาหาไนท์ที่กำลังคุยงานอยู่กับผู้จัดการในออฟฟิศ ใบหน้าแตกตื่นมาแต่ไกล ทำให้สายตาหลายคู่หันมามองอย่างสงสัย
“มีอะไร” ไนท์มองท่าทางร้อนใจของเพชรแล้วก็สังหรณ์ใจไม่ค่อยจะดี ได้แต่แอบภาวนาอย่าให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย
“มีคนตีกันในผับครับ”
“อะไรนะ” ไนท์หยุดทุกอย่างที่กำลังทำอยู่แล้วหันไปให้ความสนใจกับเรื่องที่เพชรพูด
“คนที่มีเรื่องคือเฮียไลท์... กับตะวันครับ”
“หา!?” ไนท์อึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน นึกไม่ออกว่าสองคนนั้นมีเรื่องอะไรกัน “ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
ไนท์สาวเท้ายาวๆ ออกมาก่อน โดยมีเพชรกับผู้จัดการเดินตามมาติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ไนท์เอ่ยระหว่างทาง
“น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงครับ”
“….”
ไนท์ไม่เอ่ยอะไรอีก บรรยากาศรอบกายเย็นเยียบจนเพชรกับผู้จัดการที่ตามมาด้วยรู้สึกหนาวสันหลังวาบ
ผับชั้นหนึ่งโซนด้านหน้าเวทียังคงคึกคักราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พื้นที่ใกล้บันไดมีกลิ่นอายเลิ่กลั่กจางๆ ไหลเวียนอยู่
ไนท์เดินขึ้นบันไดชั้นสองอย่างไม่รอช้า ภาพเบื้องหน้าทำให้สายตาของเขาเหี้ยมเกรียมขึ้นหลายส่วน
ผู้คนบริเวณโต๊ะติดบันไดชั้นสองแตกฮือออกเพราะกลัวโดนลูกหลง ไลท์โดนผลักชนโต๊ะลุกพรวดขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าหาตะวันอย่างเลือดขึ้นหน้า ส่วนตะวันก็ง้างหมัดเตรียมสวนกลับ แต่ก่อนที่หมัดของตะวันจะกระแทกเข้ากับใบหน้าของไลท์ที่รุดเข้าไปชนอย่างไม่เกรงกลัวไนท์ก็พุ่งเข้าไปตรงกลางรับหมัดของตะวันเอาไว้ด้วยฝ่ามือเดียว
หมับ!
บรรยากาศรอบๆ เหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคิดว่าจะได้ดูมวยสดคาดไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าพุ่งเข้ามาหยุดยั้งการวิวาทกลางคันแบบนี้
“....” ตะวันมองหมัดที่ถูกฝ่ามือของไนท์กำเอาไว้ แววตาตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาเกรี้ยวกราดตามเดิม
“ใจเย็นก่อน” ไนท์บอกตะวันเสียงขรึม
“พี่” ไลท์มองแผ่นหลังของพี่ชายอย่างตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปราดเข้ามาหยุดหมัดที่กำลังจะซัดหน้าตนได้แม่นยำและถูกจังหวะขนาดนี้
“ออกไปก่อน” ไนท์หันมาพูดกับไลท์ใบหน้าเหี้ยมเกรียมเต็มไปด้วยแรงกดดัน
“....” ไลท์แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าพี่ชายที่เขาหมดความเชื่อถือเพราะเป็นเกย์จะสร้างความน่ายำเกรงได้ขนาดนี้
“มึงหลบไป!” แต่ยังไม่ทันที่ไลท์จะได้เอ่ยอะไร ตะวันที่หัวร้อนถึงขีดสุดก็สะบัดหลุดจากการจับกุมของไนท์แล้วพุ่งเข้าไปใส่ไลท์ ทว่าไนท์ไหวตัวทัน คว้าเอวตะวันหมับแล้วกอดเอาไว้แน่น
“ปล่อยกู!” ตะวันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากวงแขนของไนท์อย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาถลึงมองไปที่ไลท์เขม็ง
“มึงหยุดได้แล้ว! ถ้าจะมีเรื่องก็ไปมีที่อื่น อย่ามาก่อความวุ่นวายในร้านกูแบบนี้”
“บอกให้ปล่อยไงวะ”
“เพชรช่วยกูที” ไนท์หันไปตะโกนเรียกเพชรที่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กอยู่ข้างๆ ท่ามกลางสายตาแตกตื่นของคนที่มุงดูอยู่
“ครับๆ อึก...” เพชรโผเข้าไปช่วยไนท์จับตะวัน แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ถูกตะวันเตะเก้าอี้ใส่อย่างไม่ไว้หน้า
“คนอื่นอย่ายุ่ง นี่มันเรื่องของกูกับไอ้เวรนั่น มึงปล่อยสิวะ กูต้องเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง”
ตะวันโวยวายแข่งกับเสียงเพลงที่ยังดังกระหึ่มร้าน ก่อนจะสะบัดหลุดจากวงแขนของไนท์ได้ในที่สุด แรงเหวี่ยงของตะวันทำให้ไนท์กระเด็นออกไปครึ่งก้าว จังหวะสั้นๆ นั้นตะวันก็หันไปจับเก้าอี้ขึ้นมาทุ่มใส่ไลท์อย่างเลือดขึ้นหน้า
ไนท์เบิกตากว้างเมื่อเห็นเก้าอี้ลอยข้ามไปต่อหน้าต่อตา
โครม! เสียงเก้าอี้กระแทกกับโต๊ะก้องสะท้อนไปทั่วชั้นสอง ข้าวของบนโต๊ะกระจัดกระจาย เศษแก้วหล่นแตกกระเด็นไม่เป็นทิศเป็นทาง สร้างความหวาดหวั่นให้กับคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
ความวุ่นวายที่ชั้นสองรอบนี้ส่งผลกระทบไปถึงชั้นล่าง ทำให้เสียงเพลงที่กำลังเล่นหยุดลงทันที ทั่วทั้งผับเงียบสงัด ทุกสายตาจ้องมายังจุดเกิดเหตุ
ไลท์โยกตัวหลบทันก่อนที่เก้าอี้จะกระแทกเข้ากับศีรษะ หันไปมองตะวันอย่างเดือดดาล
“งี้ก็สวยสิวะ”
ไลท์คว้าขวดเหล้าใกล้มือ ย่างสามขุมไปหาตะวัน
“หยุดนะไลท์” ไนท์ตะโกนห้ามแต่ไม่ทัน
ไลท์พุ่งเข้าใส่ตะวันราวกับพายุ ทางตะวันเมื่อเห็นขวดหวดมาหาตัวเองก็เอี้ยวหลบทันควันก่อนยกเท้าขึ้นถีบไลท์เข้าที่สีข้างไปครึ่งปลายเท้า
พลั่ก!
ไลท์เสียหลักล้มครืน ความอับอายปนเจ็บปลาบที่เกิดขึ้นทำให้เขาเหวี่ยงขวดในมือออกไปด้วยความโมโหจัด ไม่สนว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแค่ไหนหรือมีใครโดนลูกหลงบ้าง
เคร้ง!
เสียงแก้วกระทบพื้นแตกกระจายตามมาด้วยเสียงกรีดร้องแตกตื่นของผู้คน แต่ตะวันหลบได้ขวดเหล้าเฉียดใบหูไปอย่างหวุดหวิด
“ยืนบื้ออะไรวะ รีบแยกพวกมันเดี๋ยวนี้” ไนท์ตะโกนเสียงกร้าว พนักงานยืนละล้าละหลังอยู่รอบๆ เหมือนเกรงใจ อีกคนก็น้องเฮีย ส่วนอีกคนก็...ดูเหมือนจะสนิทสนมคุ้นเคยกับเฮียเป็นพิเศษ เลยไม่มีใครกล้าแจ๋นหน้าเข้ามาห้าม
พอได้ยินน้ำเสียงเฉียบขาดของไนท์ ทุกคนก็ไม่รอช้า รีบพุ่งเข้ามาจับไลท์กับตะวันแยกกันทันที แต่ก่อนที่พนักงานจะเข้าถึง ตะวันที่ทรงตัวได้ดีกว่าก็ปราดเข้าไปกระชากคอเสื้อไลท์แล้วประเคนหมัดใส่หน้าอีกฝ่ายเต็มรัก
ผลั๊วะ!
กำลังจะอัดซ้ำหมัดที่สอง ข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้ด้วยแรงที่เหนือกว่าจังหวะเดียวกันพนักงานก็ปรี่เข้าไปดึงตัวไลท์ออกมาแล้วล็อกเอาไว้แน่น
“....” ตะวันหันไปมองก็เห็นไนท์กำลังจ้องตนเขม็ง
“ถ้ามึงยังไม่หยุดก่อเรื่องกูจับส่งตำรวจจริงๆ แน่” ไนท์เอ่ยเสียงลอดไรฟัน
“มึงไม่ต้องมาขู่! ปล่อยกู”
“ตะวัน”
“ปล่อยสิวะ!” ตะวันกำหมัดอีกข้างซัดหน้าไนท์ทันที
ผลั๊วะ!
คนถูกต่อยหน้าสะบัดเต็มแรง
“พี่!”
“เฮีย...”
ไลท์กับพนักงานในร้านอุทานแทบจะพร้อมกันเมื่อเห็นไนท์ถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา คนที่เหลือกำลังจะกรูเข้าไปช่วยจับตะวันแต่ไนท์ยกมือห้ามทำให้ไม่มีใครขยับได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“พี่...” ไลท์พยายามสะบัดตัวออกเพื่อจะเข้าไปช่วยพี่ชายแต่ถูกพนักงานที่ล็อกแขนเอาไว้เอ่ยเตือน
“อยู่เฉยๆ เถอะพี่ เดี๋ยวเฮียจัดการเอง”
ไลท์ขมวดคิ้ว รู้สึกกังขากับคำพูดของพนักงานแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาสลัดตัวไม่หลุด
ทางด้านตะวันหลังต่อยไนท์ไปแล้วหนึ่งหมัดก็เหมือนจะได้สติขึ้นมานิดหน่อย หลังมือรู้สึกปวดหนึบ มองตอบสายตาเลือดเย็นของไนท์อย่างร้อนรน
“กู...” ตะวันอยากพูดอะไรสักอย่างแต่คำพูดกลับจุกอยู่ที่ลำคอ สมองเองก็ตีบตันนึกอะไรไม่ออก
“สะใจมึงหรือยัง”
ไนท์ถามเสียงเรียบนิ่ง ไร้คลื่นอารมณ์เจือปน นัยน์ตาคมกริบเลือดเย็นราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน ตะวันแทบลืมหายใจ ไม่เคยเห็นไนท์น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
“กูไม่ได้ตั้งใจ” ตะวันพึมพำ มองหน้าไนท์อย่างรู้สึกผิด กำลังจะเอื้อมมือไปจับใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อดูแผลให้ ไลท์ที่หลุดจากการควบคุมของพนักงานก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังซะก่อน
“พี่! เจ็บหรือเปล่า”
ไลท์หยุดอยู่ตรงหน้าพี่ชาย มองด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนจะหันมาจ้องตะวันอย่างเอาเรื่อง
“จับไอ้เวรนั่นไว้เดี๋ยวนี้!”
“....” พนักงานมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่เพราะเสียงที่ค่อนข้างทรงพลังของไลท์ทำให้ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง ตรงเข้าล็อกแขนตะวันเอาไว้คนละข้าง
ตะวันไม่ขัดขืน ยอมมอบตัวแต่โดยดี เขากวาดตามองไปรอบๆ ดูความฉิบหายที่ตัวเองก่อ พื้นที่ในรัศมีสองเมตรมีสภาพเละเทะ บนพื้นเกลื่อนไปด้วยเศษแก้วกับคราบอาหารเครื่องดื่ม ผู้คนที่ยังมุงดูเหตุการณ์ต่างมองมาด้วยสายตาหวั่นวิตก จับจ้องที่ตะวันเป็นตาเดียว ต่างอยากรู้ว่าเขาจะถูกจัดการยังไง
เมื่อตะวันหยุดพยศไนท์ก็ผ่อนลมหายใจยาว ส่งสายตาให้พนักงานพาตัวไลท์กับตะวันออกไปก่อนแล้วหันมาคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้า นอกจากไนท์จะขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจแล้วยังชดเชยด้วยการให้ Gift Voucher กับลูกค้าโต๊ะที่ได้รับผลกระทบด้วย จากนั้นก็เร่งให้พนักงานที่เหลือช่วยกันเคลียร์สถานที่ให้เรียบร้อย เพื่อให้บรรยากาศภายในผับกลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตะวัน ไลท์ และบีบีที่นั่งคุมเชิงกันอยู่บนโซฟาตื่นตัวทันทีที่ไนท์มาถึง
“....” ตะวันสบตากับไนท์ก่อน แต่ไม่ได้พูดอะไร ความรู้สึกผิดที่เคยสำนึกได้ตอนอยู่ในผับคล้ายมลายหายไปกับอากาศ พอมานั่งรวมอยู่กับบีบีและไลท์ความเกรี้ยวกราดในใจของตะวันก็ลุกโชนขึ้นมาอีก
“ตกลงมีเรื่องอะไรกัน” ไนท์ปรายตามองทั้งสาม เดินมาที่โซฟาแต่ไม่นั่ง
“ไอ้เด็กนี่มาหาเรื่องก่อน” ไลท์พูด
“หาเรื่องพ่อง! กูแค่จะคุยกับบีบี แล้วมึงเสือกเข้ามาขวาง”
“ก็ถ้าผู้หญิงอยากคุยกับมึงกูก็ไม่ว่าหรอก แต่นี่เขาไม่อยากคุยมึงก็ยังจะบังคับ”
“แล้วมึงเสือกเหี้ยอะไร”
ตะวันกับไลท์ทำท่าจะเปิดศึกกันอีกรอบ ไนท์ขมวดคิ้วสีหน้าเย็นยะเยือกท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุระหว่างตะวันกับไลท์
“หยุด! กูถามเพื่อต้องการคำอธิบาย ไม่ใช่ให้พวกมึงมาทะเลาะกันอีก” ไนท์ตวาด
“กูไม่มีอะไรจะอธิบาย กูแค่จะคุยกับบี” ตะวันยืนกราน มองไปที่บีบีแววตาขุ่นมัว เลี่ยงไม่สบตาไนท์โดยไม่รู้ตัว
ไนท์ชำเลืองไปที่บีบี พอรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตา บีบีก็รีบเอ่ยปกป้องตัวเองทันที
“บีบีไม่มีอะไรจะคุย วันอย่าบีบคั้นบีได้ไหม”
“บีบคั้นอะไร แค่ถามว่าบีกับมันเป็นอะไรกัน แค่นี้ก็ตอบมาสิ มันจะได้จบๆ” ตะวันขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายอย่างเหลืออด
บีบีสะดุ้งเฮือก มองไปที่ไลท์แววตาสั่นระริก
ไลท์เมื่อเห็นบีบีถูกกดดันก็ไม่รีรอที่จะกางปีกปกป้อง “บีเป็นแฟนกู มึงจบได้แล้วใช่ไหม”
ไลท์ประกาศกร้าว
“แฟนกัน? หึ... ได้กูจบก็ได้ แต่ขอต่อยแม่งให้หายแค้นสักทีเถอะว่ะ” ตะวันเลือดขึ้นหน้าอีกรอบ ถลันเข้าไปตะลุมบอนกับไลท์อย่างกับหมากัดกัน
ไนท์ปวดหัวหนึบ รีบเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกันอุตลุด... สุดท้ายก็ต้องร้อนถึงตำรวจ