“เปล่า รสไม่ได้แกล้งชม ก็งานวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่รสเห็นไม่ค่อยสวย เทียบกันแล้วพราวสวยกว่ามาก งานคืนนี้รสว่าพราวต้องสวยกว่าทุกคนแน่นอน ไม่แน่นะ ความสวยของพราวอาจจะเข้าตามหาเศรษฐีชาวบันดัรหรือชาวซาอุฯ ก็ได้ ได้ยินลุงบอกแล้วไม่ใช่เหรอ พวกนี้รวยๆ กันทั้งนั้น”
“ยี้... ไม่เอาหรอก พวกหนวดเฟิ้มเป็นรากไทรแบบนั้น แค่คิดก็สยองแล้ว ต่อให้รวยล้นฟ้าฉันก็ไม่สนใจเอามาทำแฟนหรอกย่ะ”
พราวพิลาสห่อไหล่ทำท่าขนลุกขนพอง ถ้าจะมีใครทำให้เธอสนใจในตอนนี้ คนคนนั้น คืออลงกรณ์มากกว่า ชายหนุ่ม หล่อ... รวย... ทายาทบริษัทขายเครื่องดื่มอันดับต้นๆ ของเมืองไทย คิดแล้วใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้น เหลือบมองญาติสาวที่เดินมองข้าวของตามร้านต่างๆ ด้วยความริษยา
อลงกรณ์ตามจีบรติรสตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งกระทั่งเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ติดอกติดใจอะไรนักหนา ความสวยรึเธอก็สวยกว่า รวยกว่า รติรสมีดีแค่เรียนเก่งเท่านั้น
ความคิดริษยาของพราวพิลาสหยุดลงเมื่อเสื้อผ้าชุดราตรีสวยๆ ละลานตา เรียกความสนใจจากเธอ
“แบบส่วนใหญ่เรียบๆ ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่” กระนั้นพราวพิลาสก็ยังบ่นกระปอดกระแปด
“ก็ที่นี่มันเมืองอิสลาม รสว่าเขาก็ทำสวยดีนะ เพียงแค่ไม่เปิดอกเปิดไหล่มากจนเกินไป”
รติรสจับชุดสวยชุดหนึ่งขึ้นมาพิจารณา สีของผ้าไม่ฉูดฉาด แบบและดีไซน์สวยไม่แพ้แบรนด์ดังๆ
“ไม่เอาล่ะ ไปดูร้านอื่นๆ ดีกว่า”
พราวพิลาสไม่ชอบใจ เดินดุ่มๆ ไปร้านอื่น ซึ่งพอแหงนหน้าดูชื่อร้านแล้ว รติรสก็ต้องส่ายหน้า ป้ายด้านบนบอกแบรนด์ยอดนิยมที่มีขายทั่วโลก แบรนด์ชื่อนี้มาถึงบันดัรเลยหรือ นั่นยังเล็กน้อยถ้าเทียบกับว่าราคาแพงหูฉี่
เรือนร่างสะโอดสะองอรชรเรียกความสนใจให้ชายหนุ่มซึ่งยืนมองลงมาจากห้องกระจก ถัดขึ้นไปอีกชั้น ตาคมทอดมองตามหญิงสาวทั้งสองที่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าชุดออกงาน เขาเดาว่าเธอคงหาซื้อชุดสำหรับใส่ในคืนนี้ และคิ้วสูงเลิกขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อหนึ่งสาวสวยเดินเลือกชุดอย่างเอาเป็นเอาตาย ขณะที่อีกคนคอยเดินตามเฉยๆ
“มองอะไรอยู่ครับเจ้านาย”
ฟาติกเดินเข้ามายืนข้างๆ มองตามสายตาผู้เป็นนายลงไปอีกชั้น
“นายอยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันมา”
เดนิมสั่งก่อนจะพาร่างสูงสง่าปราดเปรียวของตนเองออกไปจากร้านเครื่องประดับ โดยไม่สนใจสายตายิ้มๆ ของคนสนิท
ฟาติกส่ายหน้าไปมา เจ้านายของเขาคงจะชอบใครสักคนระหว่างหญิงสาวสองคนนั่น ซึ่งเขาเห็นแล้วว่าสวยแปลกตามากทีเดียว ดูๆ ไปน่าจะเป็นหญิงสาวต่างชาติ จากลักษณะการแต่งตัว และใบหน้าที่แตกต่างจากหญิงสาวชาวบันดัร ชายหนุ่มมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปสนใจกับงานที่นายสั่งเอาไว้
ร้านอัญมณีแห่งนี้เป็นร้านหนึ่งในห้าสาขา ซึ่งเป็นธุรกิจของเดนิมอีกอย่างหนึ่ง นอกจากเขาจะมีสัมปทานเหมืองเพชรพลอย ยังมีร้านขายเครื่องประดับอีกด้วย
เดนิมยังอยู่ในชุดเดิมเมื่อตอนเช้า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่แปลกเพราะคนบันดัรส่วนใหญ่ชอบสวมชุดแบบนี้กันทั้งนั้น ร่างสูงใหญ่เดินเร็วๆ ตรงไปยังเป้าหมาย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบกันอีก
“สวัสดีครับมิส...”
เสียงทักเป็นภาษาอังกฤษทุ้มเบาทำให้รติรสหันมามอง ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น ก้าวถอยหลังออกห่างชายหนุ่มหน้าดุเข้มไปหนึ่งก้าว
“คะ... คุณ เอ่อ มิสเตอร์เดนิม”
“ครับ” เดนิมยิ้ม เรียวปากที่รกด้วยไรหนวดยกขยับคล้ายกำลังกลั้นหัวเราะ ตาคมเต้นระริก “ไม่คิดว่าจะได้พบมิสอีก มาซื้อเสื้อผ้าไปงานคืนนี้เหรอครับ”
สีหน้ายิ้มๆ ตาพราวแบบนั้นมันช่างกวนใจรติรสเหลือเกิน เธอเชิดหน้าขึ้น ตอบเรียบๆ สั้นๆ อย่างไม่ปรารถนาจะเสวนาด้วย
“ค่ะ”
ร่างอรชรถอยหลบออกไปอย่างไม่คิดจะรักษามารยาทอะไรทั้งนั้น เธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้ หน้ายิ้มๆ ตาแพรวพราวระยับคู่นั้น คล้ายว่ามีกระแสความรุนแรงบางอย่างทำให้เธอหายใจติดขัด รติรสเดินไปหาญาติสาวก่อนจะเอ่ยถามเบาๆ
“พราวไปดูร้านอื่นกันไหม”
“ร้านนี้แหละสวยดี แล้วตานั่นใคร รู้จักรึไงยะ”
คำถามนั้นบอกให้รู้ว่า พราวพิลาสสังเกตเห็นชายร่างสูงสง่าที่เข้ามาทักทายรติรส และหากแม้นว่าไม่สังเกต เจ้าของร่างสูงก็เดินมาหยุดไม่ห่างจากสองสาวแล้ว
พราวพิลาสตวัดตามองก่อนจะถอยห่างด้วยความรังเกียจ ชายอาหรับรูปร่างใหญ่โต ตาคมดุ ใบหน้ารกด้วยหนวดและแนวเครายาวไปกว่าครึ่งหน้า
“สวัสดีอย่างเป็นทางการครับมิส”
เสียงทุ้ม สำเนียงภาษาสากลชัดและเป๊ะทุกไวยากรณ์ เจ้าของร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยให้หญิงสาวทั้งสอง
พราวพิลาสทำหน้าเหลอหลาด้วยไม่คิดว่าจะมีหนุ่มๆ เข้ามาทัก แต่... เธอไม่ชอบแขก ไม่ชอบหนวดและเครา
“ผมเดนิม อิสมาอิล”
รติรสจิกตามองวาววับอย่างไม่ชอบใจชายหนุ่มที่กำลังแนะนำตนเองอย่างเป็นทางการ เขารู้ว่าเธอแกล้งเลี่ยงหลบยังจะตามมาตอแยกันอีก
“สวัสดีค่ะ” พราวพิลาสตอบอย่างเสียไม่ได้ แล้วหันมาพูดกับญาติสาวด้วยภาษาไทยว่า “คุยกันเองแล้วกัน ฉันจะไปดูชุดทางนั้น แล้วไม่ต้องตามมานะ ฉันไม่ชอบตานี่” เสียงสะบัดบอกชัดเจนทีเดียว ก่อนที่ร่างเพรียวสะโอดสะองของพราวพิลาสจะรีบฉีกตัวออกไป และไม่ลืมเหยียดตามองทั้งญาติสาวและหนุ่มต่างชาติ เธอแทบจะกลั้นหายใจเพราะไม่อยากสูดดมกลิ่นจากเรือนกายของชายหนุ่ม พราวพิลาสเคยได้ยินได้ฟังและได้พิสูจน์กับตัวเองมาแล้วว่า กลิ่นของพวกเขาไม่โสภาสำหรับเธอสักนิด
“พราว พราว...”
รติรสแทบผวาร่างตาม แต่พอเห็นสายตาดุเอาเรื่องจึงครางเบาๆ กับการถูกทิ้งเอาดื้อๆ
“ผมไม่ใช่ตัวเชื้อโรค ทำไมพอเห็นหน้าต้องทำท่าผวาหนีขนาดนั้น” เดนิมพูดกลั้วหัวเราะ เขาฟังไม่เข้าใจที่สองสาวพูดคุยกัน แต่ก็พอดูท่าทางพวกเธอออก
“ใครหนี... ไม่มีใครหนีสักหน่อยนี่คะมิสเตอร์ แต่คุณก็คงเห็นแล้วว่าพวกเรากำลังซื้อหาเสื้อผ้ากัน และเราต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ” เธอเสียงแข็งใส่ จ้องสบตาคมกริบไม่ยอมหลบ ถ้อยเจรจาฉะฉาน
เดนิมยิ้มกว้างทั้งหัวเราะน้อยๆ แต่แนวเครายาวยังไหวระริกให้ถูกฝ่ายได้ตาเขียวใส่มากขึ้น เขาไขว้มือไปไพล่หลัง กิริยาอาการคล้ายผู้ใหญ่สักคน ตาคมมองจ้องใบหน้างดงามหมดจด นัยน์ตาเต้นระริกอย่างชอบใจ
“ผมเปล่ารบกวนสักหน่อย แค่เห็นคนรู้จักเลยเข้ามาทักทายตามประสาเจ้าบ้านที่ดี”