ทับทิมเดินทางมาถึงที่บ้านก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับไปถ่ายละครที่กองถ่าย ประเด็นในตอนนี้คือเธอไม่อยากจะไปอยู่ที่บ้านของคุณลุงทวีเพราะลูกชายตัวดีของเขารังแกเธอไม่หยุด
“เอายังไงดีเราจะพูดกับทั้งสองคนยังไง”
เธอเดินวนไปมาไม่หยุดก่อนจะคิดไปถึงว่าถ้าปล่อยให้คุณน้าอยู่ที่บ้านนั้นคนเดียวก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณรวีรังแกท่านได้ซึ่งเธอไม่มีทางยอมแน่นอน ดูจากสายตาก็รู้ว่าเขาไม่มีความเต็มใจที่ให้คุณพ่อของตัวเองแต่งงานกับคุณน้าของเธอ ซึ่งถ้าปล่อยไว้แบบนี้ต้องโดนเล่นงานแน่
“โอ๊ยยยย เครียด”
เธอทำหน้าบึ้งบูดก่อนจะตัดใจเก็บกระเป๋าเดินทางไปทำงานของตัวเองต่อ ยังไงหน้าที่สำคัญที่สุดเพราะฉะนั้นควรตั้งใจทำงานก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
ทางด้านของรวีเขาเดินทางมาที่ช่องก่อนจะสั่งให้ผู้ช่วยไปเตรียมสัญญาให้พร้อมจากนั้นเขาจะเดินทางไปยังสตูดิโอชั้นห้าเพื่อคุยเรื่องสัญญากับทางทับทิมและจัดคนดูแลให้เธอด้วย
“คุณรวีคะคุณดิวมาขอพบค่ะ”
“เขิญเข้ามา”
เขาวางเอกสารลงก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวาน เธอยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“สวัสดีค่ะคุณรวี ให้ดิวมาพบแต่เช้ามีอะไรให้รับใช้เหรอคะ”
“เชิญนั่งสิ ที่ผมให้คุณมาเจอวันนี้จะให้ลงไปสตูดิโอชั้นห้าด้วยกัน พอดีว่าทางช่องของเราจะเซ็นสัญญานักแสดงหน้าใหม่แต่เธอยังไม่มีคนดูแล ยังไงผมฝากด้วยนะ”
“คุณรวีจะให้ดิวเป็นผู้จัดการส่วนตัวเหรอคะ ยินดีมากเลยค่ะว่าแต่นักแสดงคนไหนเหรอคะ”
ดิวเอ่ยถามอย่างสงสัย ปกติเธอจะเลือกเด็กในความดูแลเองเพราะถ้าดูมีแววจะโด่งดังเธอถึงรับเข้าสังกัด แต่ว่านี่คงเป็นคนแรกที่คุณรวีเลือกให้แสดงว่าคงจะมีแววโด่งดังหรือไม่ก็… มีความสัมพันธ์กับประธานช่องแบบอื่น
“ชื่อทับทิม”
“คุ้นๆนะคะ เหมือนดิวจะเคยเห็นผ่านๆในตึกน่าจะเพิ่งมาร่วมงานกับช่องของเรา เหมือนน้องจะเป็นนักแสดงอิสระดูแลตัวเอง”
“ใช่… เธอไม่มีคนดูแลผมเห็นว่าคุณเป็นผู้จัดการที่เก่งแล้วก็ปั้นเด็กให้โด่งดังได้ไกลเพราะฉะนั้นผมถึงเลือกคุณมาดูแลเด็กคนนี้”
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะส่งซองเอกสารบางอย่างไปให้ตรงหน้า ดิวนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะเปิดดูพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา
“จะดูแลให้ดีที่สุดเลยค่ะ รับรองว่าน้องทับทิมจะโด่งดังเป็นที่รู้จักในเร็วๆนี้”
“ขอบคุณมากนะครับคุณดิว งั้นเราลงไปกันเลยมั้ย”
“ไปค่ะ”
ทั้งสองคนยิ้มให้แก่กันก่อนจะพากันเดินลงลิฟต์ไปชั้นห้าโดยมีเดียร์ถือเอกสารเดินตามมาด้วย ทั้งสามคนเดินทางไปถึงสตูดิโอที่ใช้ถ่ายทำ ผู้กำกับผู้จัดเห็นท่านประธานก็รีบสั่งคัตแล้วเดินมาต้อนรับกันทันที
“สวัสดีค่ะคุณรวี”
“สวัสดีครับทุกคน เป็นยังไงบ้างราบรื่นดีมั้ย”
“ดีมากเลยค่ะ นี่ก็ใกล้จะปิดกล้องแล้วด้วยว่าแต่ท่านมาตรวจงานเหรอคะหรือว่ามีอะไรให้พวกเรารับใช้”
ทุกคนมองท่านประธานอย่างต้องการคำตอบ ถ้มาตรวจงานก็ไม่เท่าไหร่กลัวว่าจะมีเรื่องอะไรหนักหนามากกว่า
“ไม่มีอะไรหรอกพอดีว่าผมมาคุยกับทับทิมเรื่องสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของช่องนะ”
“จริงเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมให้คนตามน้องให้นะครับ”
ทุกคนยิ้มออกมาอย่างดีใจ ทับทิมเป็นเด็กที่น่ารักและคุยสนุกใครอยู่ด้วยก็ชอบเธอทั้งนั้นแหละ
“งั้นผมรอที่ห้องประชุมนะ”
“ได้ครับ”
ทับทิมที่ตอนนี้เจอกับซีเจโดยบังเอิญเธอก็ดีดดิ้นออกมาอย่างดีใจ เข้าไปขอถ่ายรูปแถมเขายังชวนเธอคุยด้วยอยู่นาน เขาคือชายในฝันเลยนะเธอชอบเขามากถ้าเกิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันมันคงดีไม่น้อย
“คุณคุยสนุกดีนะครับ เราคงจะได้ร่วมงานกันใช่มั้ยในอนาคต”
“ไม่รู้สิคะ ทับทิมเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบนี่ยังไม่มีวี่แววจะได้เลื่อนบทบาทกับเค้าเลย ทับทิมอยากแสดงละครกับคุณซีเจจังเลย”
“ผมก็อยากแสดงละครกับคุณ ผมชักชอบคุณแล้วสิ สวย พูดเก่ง มีเสน่ห์ไปซะทุกอย่างไม่เหมือนบางคนหน้าบึ้งบูดอย่างกับตูดลิงทุกครั้งที่เจอ”
ซีเจบ่นอุบอิบก่อนจะมองไปทางนางเอกคู่ขวัญที่ตอนนี้มองมาทางเขาเช่นกันแถมยังเบะปากใส่อีก
“อะไรนะคะ”
“อ่อ เปล่าครับงั้นผมขอไลน์คุณได้มั้ยจะได้คุยกัน”
“ขอไลน์ทับทิมเหรอคะ มีค่ะๆ”
เธอรีบควานหาโทรศัพท์เปิดคิวอาร์โค้ดให้ชายหนุ่มทันทีอย่างตื่นเต้น เกิดคาดไว้เยอะไม่คิดว่าเขาจะอยากคุยกับเธอยังบอกว่าชอบอีก อร๊ายยย หรือว่าเธอจะได้สละโสดแล้ว..
“เอาไว้ผมทักไปหานะ”
“ยินดีเลยค่ะถ้างั้นทับทิมไปทำงานต่อนะคะ สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้ชายหนุ่มก่อนจะวิ่งออกไปจากตรงนั้นอย่างอารมณ์ดี ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้นะแต่ได้เจอเทพบุตรในฝันมันทำให้เธอมีความสุขขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“น้องทับทิมเชิญที่ห้องประชุมเดี๋ยวนี่เลย เรื่องด่วนมาก”
“คะ… อ่อ ค่ะๆ”
เธอรีบวิ่งไปยังห้องประชุมทันที ดูท่าทางน่าจะมีเรื่องด่วนจริงๆถึงได้ดูรีบขนาดนั้น เมื่อมาถึงเธอก็เปิดประตูเข้ามาก่อนจะทำหน้าเซ็งๆเมื่อเจอคุณรวีในห้องนั้น เจอเทพบุตรได้ไม่นานมาเจอซาตานอีกแล้ว น่าเบื่อชะมัด
“สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้ทักทายทั้งสามคนก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้า ทับทิมแอบยิ้มให้ดิวคนในวงการต้องรู้จักเธอดีเพราะนี่คือผู้จัดการส่วนตัวในสังกัดของทางช่อง และปั้นนักแสดงมานักต่อนักแล้วถ้ามีเขาดูแลคงดี เดียร์ส่งเอกสารสัญญาไปให้เธอลองอ่านดูเผื่ออยากจะแก้ไขตรงไหน
“นี่เป็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของช่อง ถ้าคุณทับทิมตกลงเซ็นสัญญาคุณจะได้เงินค่าเซ็นสัญญาแรกเข้าสองล้านบาท แล้วก็นี่คือคุณดิวคุณน่าจะรู้จักเธอจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวดูแลคิวงานทุกอย่างให้”
ทับทิมได้ยินแบบนั้นก็ตาโตอย่างตกใจ ได้เงินค่าเซ็นสัญญาตั้งสองล้านบาทเยอะกว่าที่เธอแสดงละครมาทั้งชีวิตอีก ไอ้สัญญาไม่เท่าไหร่หรอกแต่ว่าคุณดิวจะมาดูแลเธอด้วยแบบนี้ก็ดีนะสิ เธอจะได้เป็นนักแสดงที่มีคิวงานเยอะก็ตอนนี้แหละ
“จริงเหรอคะ คุณดิวจะมาดูแลหนูเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ เซ็นสัญญาเถอะนะแล้วพี่จะเป็นคนดูแลทุกอย่างของน้องทับทิมเอง”
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะหยิบปากกาจะเตรียมเซ็นสัญญา รวียิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา
“อ่านสัญญาก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สัญญาเข้าสังกัดของนักแสดงหน้าใหม่หนูเคยอ่านแล้วมันเหมือนกันใช่มั้ยคะ สัญญาสองปีแล้วก็มีอะไรอีกน้าเคยอ่าน… ค่าฉีกสัญญา…”
“ก็เหมือนกันนั่นแหละ”
เดียร์กำลังจะอธิบายเรื่องสัญญาแต่ก็ถูกรวีห้ามไว้เสียก่อน เขาไม่พูดอะไรก่อนจะปล่อยให้หญิงสาวเซ็นเอกสารทุกหน้าอย่างละเอียด ชายหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองเธอสีงเอกสารคืนมาพร้อมยิ้มแก้มปริ
“เรียบร้อยค่ะ”
“เดี๋ยวทางเราจะส่งเอกสารสัญญาให้ทางเมลนะครับคุณทับทิม ยินดีต้อนรับสู่การเป็นครอบครัวช่อง B2 นี่เป็นเช็คเงินสดสองล้านบาทขึ้นวันนี้ได้เลยนะครับ แล้วเงินสองล้านไม่ต้องแบ่งผู้จัดการทางคุณดิวจะเริ่มแบ่งเปอร์เซนต์ตอนรับงานแรกเท่านั้น ของคุณดิวหักเท่าไหร่นะครับ”
“65/35ค่ะ”
“ตามนั้นแหละครับ ถ้างั้นสัญญาเรียบร้อยสมบูรณ์นะครับ”
เดียร์ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเก็บเอกสารทุกอย่างมาถือไว้ ทับทิมยกมือไหว้ขอบคุณเขาและคนอื่นๆก่อนจะมองเช็คในมืออย่างตื่นเต้น
‘มีเงินตั้งสองล้านเอาไปทำอะไรดีน้า’
รวีมองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ช่วยไม่ได้นะเพราะเธอไม่ยอมอ่านสัญญาก่อนเอง มาท้วงทีหลังเขาไม่รับผิดชอบแน่นอน