และพิธียังคงดำเนินไปเรื่อยๆจนมาถึงการกล่าวคำขอบคุณสำหรับแขกผู้มีเกียรติทุกคน พิธีกรมองหาคุณรวีเพื่อจะเชิญเขาไปกล่าวคำยินดีกับคุณพ่อและแม่เลี้ยง แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมไปแถมยังทำเป็นไม่ได้ยินอีก
“คุณรวีอยู่มั้ยครับ”
เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้นั่งทานผลไม้อย่างอารมณ์ดี ทับทิมมองชายหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เธอคิดว่าอายุจะทำให้คนโตขึ้นและมีเหตุผลมากกว่านี้แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เขาเหมือนเด็กที่ทำอะไรไร้เหตุผลประชดประชันเก่งเป็นที่หนึ่ง เธอหันไปมองพิธีกรก่อนจะโบกไม้โบกมือเป็นเชิงว่าให้ข้ามไปเลย เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“คุณรวีติดธุระนิดหน่อยน่าจะไม่สะดวกถ้างั้นเราไปตัดเค้กกันดีกว่าครับเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวทางนี้เลย”
ทับทิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกมองไปยังชายหนุ่มที่ตอนนี้ดื่มไวน์พร้อมกับยักคิ้วกวนประสาทให้เธอ หวังว่าจบงานนี้เราสองคนจะไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก และเรื่องเซ็นสัญญาอะไรนั่นคงไม่มีจริงหรอก เธอเป็นแค่ดาราโนเนมไม่มีชื่อเสียงอะไรคงไม่มีใครอยากรับเข้าสังกัดหรอก
“ตัดเค้กเสร็จแล้วคุณอยากจะกลับก็เชิญเลยนะคะ ฉันขอตัวค่ะ”
หญิงสาวโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันที รวีมองตามหญิงสาวไปก่อนจะหันไปสั่งผู้ช่วยของเขา
“เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วจะพาทับทิมกลับด้วย”
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะมองหน้าคุณพ่อที่ตอนนี้กำลังตัดเค้กกับว่าที่ภรรยาอย่างมีความสุข เขาเดินออกไปจากตรงนั้นในระหว่างที่รอให้เดียร์ไปทำตามคำสั่ง
ผู้ช่วยของรวีเดินมาหาทับทิมก่อนจะเชิญเธอไปหาเจ้านายที่หน้าประตูทางออกของงาน เธอมองคุณน้าก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“คุณน้าไม่กลับบ้านใช่มั้ยคะวันนี้”
“จ้ะ น้าต้องค้างที่นี่คืนหนึ่งก่อนมันเป็นธรรมเนียม หนูค้างที่นี่ได้นะคุณลุงเค้าจองห้องให้ด้วย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูกลับบ้านดีกว่าเสื้อผ้าของใช้อยู่ที่นั่นหมด พรุ่งนี้หนูมีถ่ายละครด้วยยังไงเจอกันนะคะ หนูกลับก่อนนะคะคุณลุงฝากคุณน้าด้วยนะคะ”
ทับทิมยกมือไหว้คุณลุงทวีพร้อมกับฝากฝังให้เขาดูแลสุดที่รักของเธอ ท่านโอบไหล่ภรรยาไว้ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ลุงดูแลน้าของหนูให้เอง พรุ่งนี้เตรียมตัวนะหนูกับคุณน้าของหนูต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของลุง”
เธอพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ไม่รู้ว่ามีอะไรรึเปล่าถึงได้ส่งผู้ช่วยมากดดันเธอแบบนี้
“คุณรวีเค้ามีอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่รู้สิครับแต่ท่านอยากเจอคุณ ตรงนั้นครับ”
เขาชี้นิ้วไปยังประตูทางออก หญิงสาวเดินเข้าไปหาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมา
“อยากเจอทับทิมเหรอคะ”
“ใช่.. มาทวงสัญญาว่าจะทำให้ฉันพอใจถ้าเกิดว่าฉันไม่ป่วนงานแต่งงานของคุณพ่อ”
เขายิ้มมุมปากออกมาก่อนจะดึงเธอให้ตามไปที่รถ ทับทิมมองชายหนุ่มอย่างมึนงงไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรและพาเธอไปที่ไหน บุคคลอันตรายแบบนี้ไม่น่าเข้าใกล้เลย
“จะไปไหนคะ”
“ขึ้นรถ”
เธอมองหน้าชายหนุ่มอย่างลังเล ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนแต่อีกใจก็คิดว่าถ้าไม่ยอมไปเขาจะต้องคิดวุ่นวายกับคุณน้าของเธอแน่ เธอเดินขึ้นรถไปก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มด้วยใบหน้าซีเรียส
“คุณต้องการอะไรคะคุณรวี งานแต่งงานจบแล้วหนูไม่จำเป็นต้องตามใจคุณอีกต่อไป เราสองคนต่างคนต่างอยู่เถอะนะคะอย่ารังแกกันเลย”
“เอาสิเธอจะลงไปตอนนี้ก็ได้ แต่ถ้าฉันวุ่นวายแม่เลี้ยงจนอยู่ไม่มีความสุขเธอก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ”
เขาทำหน้าเรียบเฉยก่อนจะเปิดประตูให้หญิงสาวลงไป ทับทิมนั่งนิ่งไม่ขยับเพราะเป็นห่วงคุณน้าเรย์กลัวว่าจะถูกคุณรวีรังแกอย่างที่พูดจริงๆจึงไม่กล้าท้้าทายเขา หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ้อนวอน
“ขอร้องนะคะอย่าทำอะไรน้าเรย์เลย คุณจะปล่อยให้คุณพ่อและน้าหนูมีความสุขไม่ได้เลยเหรอคะ”
รวีทำหน้าคิดอยู่นานจนหญิงสาวกลัวคำตอบ เขาเหลือบสายตามองเธอเล็กน้อยก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวพร้อมกับใช่มือเกลี่ยแก้มนวลแผ่วเบา
“ฉันจะไม่ยุ่งกับน้าเธอก็ได้ แต่ต้องแลกกับเธอต้องเป็นของฉัน”
“หมายความว่ายังไงคะ”
หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ เป็นของเขาคือเป็นแบบไหน คนรับใช้… ที่ระบายอารมณ์…หรืออะไรกันแน่เธอไม่เข้าใจ
“คำตอบก็ตรงตัวนะ เธอไม่ให้ฉันยุ่งกับน้าเธอ งั้นก็ต้องให้ฉันยุ่งกับเธอแทน”
“ยุ่งแบบไหนคะ”
“แบบไหนก็ได้… ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้วถ้าฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ จำไว้ว่าถ้าเธอเป็นเด็กน่ารักไม่ดื้อกับฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับน้าของเธอ”
เขาเอ่ยออกมาเสียงจริงจัง ทับทิมเงียบไปอย่างใช้ความคิดไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอในตอนนี้แต่ถ้าการที่เธอยอมเขาแล้วมันทำให้น้าเรย์มีความสุขเธอยอมแลกทุกอย่าง น้าเรย์เป็นคนเดียวที่รักและห่วงใยเธอที่สุดท่านดูแลเธอมาตลอดจนมีทุกวันนี้ ถ้านี่คือการตอบแทนบุญคุณเธอยอม
“ก็ได้ค่ะทับทิมยอมคุณก็ได้ แต่ว่าสัญญาแล้วนะว่าจะไม่ยุ่งกับคุณน้า แล้วก็คุณต้องคุยกับคุณลุงทวีดีๆปฏิบัติกับท่านดีๆด้วยตกลงมั้ยคะ”
“ไม่มีปัญหานี่ ปกติฉันก็ญาติดีกับคุณพ่อนะ”
เขานอนพิงหลังก่อนจะหันไปสั่งให้ลูกน้องออกรถทันที หญิงสาวทำปากมุบมิบและรวีพอฟังออกว่าเธอพูดอะไรแต่ไม่โต้แย้งเพราะตอนนี้กำลังอารมณ์ดีอยู่
“ดีตรงไหนกัน ถ้าไม่ห้ามคงพังงานแต่งไปแล้ว ชิ”
หญิงสาวบ่นออกมาก่อนจะมองไปโดยรอบ เธอหันไปมองผู้ช่วยของเขาก่อนจะเอ่ยออกมา
“คุณเดียร์คะบ้านของทับทิมไปอีกทางค่ะ ยังไงช่วยไปส่งหน่อยนะคะ”
“ใครบอกว่าฉันจะให้เธอกลับบ้าน คืนนี้เธอต้องไปนอนค้างกับฉันที่บ้าน”
ทับทิมได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอไม่มีทางไปนอนกับเขาแน่นอนไม่มีวัน เพิ่งจะเคยเจอกันไม่กี่ครั้งเองมันจะง่ายไปรึเปล่า
“หนูไม่ไปนอนค้างกับคุณนะคะ พาไปส่งที่บ้านด้วย”
“เลือกเอาว่าจะไปค้างกับฉันหรือจะให้ฉันไปค้างกับเธอที่บ้านดี…”