ตอนที่ 6 ดูดปากกันก็ทำมาแล้ว

1534 คำ
"พี่แสนมาแล้ว" กลุ่มคนที่นั่งกินข้าวอยู่ทางครัวถัดจากที่ซ้อมมวยกว่าสามสิบชีวิตสะกิดกันเมื่อเห็นลูกพี่เดินมาทางนี้ ที่นี่ล้วนมีแต่ผู้ชาย พวกเราจะทำอาหารกินเอง และพี่แสนก็จะมากินด้วยทุกครั้ง ไม่มีแยกเจ้านายลูกน้อง ก็เป็นตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก ถึงบุคลิกจะดูไม่คบค้าสมาคม แต่ค่อนข้างเป็นกันเอง อยู่ง่ายกินง่าย ลูกน้องกินแบบไหน ลูกพี่ก็กินแบบนั้น แค่มีคนทำให้ทาน และวันนี้พวกเราทำลาบเป็ดกับต้มแซ่บกระดูกซดน้ำ "ไปตักกับข้าวให้ลูกพี่พวกเอ็งใหม่หน่อย" 'ยศ' อายุหกสิบสองปี เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของพ่อสิบแสน และเป็นมือขวาให้ด้วย ถึงฝ่ายนั้นจะวางมือแต่เขายังคงทำงานที่นี่ ค่ายมวยคันคายก่อตั้งมานานมาก ตั้งแต่สิบแสนยังเล็กๆ และอยู่มาจนถึงปัจจุบัน จากค่ายมวยขนาดเล็ก ปัจจุบันขยับขยายใหญ่ ค่อนข้างมีชื่อเสียงเนื่องจากพานักมวยคนไหนไปชกก็ล้วนแล้วแต่ชนะกลับมาเป็นส่วนมาก พอมีชื่อเสียง นอกจากค่ายมวยที่มีไว้ซ้อม จึงเปิดเป็นโรงเรียนสอนมวยไทยขึ้นมา ใครๆ ได้ข่าวก็ต่างอยากมาเรียนกับคนที่ได้แชมป์ จึงทำให้นักมวยที่เมื่อก่อนมีรายได้จากการขึ้นชกเพียงอย่างเดียว ก็มีรายได้จากการเป็นครูสอนมวยไทยควบคู่กัน ยศดูแลเรื่องการซ้อมมวย และตารางคิวที่นักมวยแต่ละคนต้องไปชกตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงเรื่องที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเรียนที่ค่ายมวยของเราด้วย แต่ยศจะมีลูกน้องอีกสองคนคอยช่วยคือ 'ไม้' กับ 'แมน' สองพี่น้อง คนพี่อายุสามสิบ ส่วนคนน้องอายุยี่สิบเก้าปี นอกจากเป็นพี่เลี้ยงนักมวยช่วยยศแล้ว สองพี่น้องคู่นี้ยังดูแลเรื่องอาหารการกินด้วย ส่วนเรื่องการเงินเป็นของสิบแสนบริหารจัดการเอง ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง รวมทั้งเงินรางวัลและค่าสอนมวยไทยของนักมวย หลังหักให้ส่วนกลางสามสิบเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นของนักมวยทุกอย่าง "กับข้าวหมดแล้วลุงยศ" คนพี่อย่างไม้เป็นคนบอก จึงไม่ได้ลุกขึ้นไปตัก "เอ้า แล้วทำไมพวกเอ็งไม่ทำเยอะๆ" "ก็ไม่คิดว่าพี่แสนจะกลับมากินด้วยนี่" อีกฝ่ายบอกจะไปงานแต่งผู้ใหญ่บ้านหมู่สิบสองที่คุยใหญ่ พวกเราก็เลยไม่ได้แบ่งเอาไว้ให้ ที่นี่จะทำกับข้าวเลี้ยงนักมวยแค่มื้อเที่ยง ส่วนมื้อเช้ากับมื้อเย็นก็บ้านใครบ้านมัน "ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมสั่งร้านอาหารเอามาส่ง" สิบแสนบอกกลับอย่างไม่เรื่องมากแล้วเดินกลับบ้าน "ลุงยศ" "ว่า" "ลุงไม่ถามพี่แสนอ่ะว่าพาใครมาบ้าน" พ้นหลังลูกพี่ไปแล้วแมนจึงกระซิบถาม ลงจากรถเดินเข้าบ้านด้วยกัน ถ้าเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวพวกเขาอาจเดาได้ว่าพี่แสนพาใครมากิน แต่ปกติลูกพี่ก็ไม่เคยพาใครมากินที่บ้านสักครั้ง แต่ใช่แค่ผู้หญิงสาวสวยมาคนเดียวนะ อุ้มเด็กน้อยที่ไหนก็ไม่รู้มาด้วยกัน ฟีลพ่อแม่ลูก ถ้าให้เดาว่าพี่แสนแอบไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะลูกพี่ค่อนข้างระวังตัวเอง แต่ถ้าให้คิดว่าพี่แสนชอบผู้หญิงคนนี้มากๆ ถึงขนาดเอาผู้หญิงลูกติดมาทำเมียก็ไม่อยากเชื่ออีกนั่นแหละ ยศคิดตามที่เด็กในค่ายพูด เขาคิดว่าคงจะเป็นคนสำคัญอยู่นั่นแหละไม่งั้นสิบแสนคงไม่พามาที่นี่หรอก แต่ในเมื่อเจ้านายไม่บอกเขาจะไปถามได้อย่างไรมันเรื่องส่วนตัว "พวกเอ็งจะอยากเสือกไปทำไม" "เอ้า แล้วลุงไม่อยากเสือกบ้างเหรอ" "อยาก" "นั่นไง!" แมนตบเข่าฉาดใหญ่ มนุษย์ตดเหม็นย่อมอยากรู้เรื่องของคนอื่นเป็นธรรมดา "แต่ไม่ได้อยากมากขนาดพวกเอ็ง เดี๋ยวสักวันก็รู้เองแหละ รีบกินรีบเอาไปเก็บ" สิบแสนเดินกลับเข้าบ้าน ก็เห็นว่าลูกชายเขาตื่นแล้ว นั่งอ้าปากหาวหวอดๆ อยู่บนตักของแม่ตัวเอง มองดูอาหารที่ยังอยู่ในถุงวางบนโต๊ะไม้ญี่ปุ่นยังไม่ถูกแกะจึงยื่นมือไปรับสิบหมื่นมาดูแลแม่เขาจะได้กินข้าว แต่ฝ่ายนั้นกลับส่ายหัว ปีนตักแม่แล้วเอาสองแขนโอบรัดรอบคอ ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกซอกคอผู้เป็นแม่มองมา "มานี่" สิบแสนพยักหน้า ทว่าเด็กน้อยก็ยังคงส่ายหัว "แม่เอ็งจะกินข้าวมานี่" ทำไมถึงต้องให้บอกหลายรอบฮะ ทั้งแม่ทั้งลูกพูดยากเหมือนกัน หากเขาได้เลี้ยงเองตั้งแต่แรกรับรองไม่มีพฤติกรรมอย่างนี้แน่นอน บอกมาคือมา บอกให้ทำอะไรต้องทำตามห้ามปฏิเสธ "หึ" สิบหมื่นยังไม่ยอมทำตาม กลับหันหน้าไปทางอื่นไม่อยากมอง "เดี๋ยวฟ้าค่อยกินก็ได้ค่ะไม่เป็นไร" มือลูบหลังคนตัวเล็กเบาๆ สิบหมื่นเพิ่งตื่นจึงมาอ้อนแม่ ก็เป็นแบบนี้ประจำ "ก็เพราะแบบนี้ไง ให้ท้ายกัน ไม่รู้จักฝึกลูก" ก็บอกให้นั่งรอไปสิ สวดมนต์ หรือนั่งทำสมาธิก็ว่าไป น้ำฟ้านึกน้อยใจเมื่อได้ยิน สิบหมื่นเพิ่งขวบเดียวเองจะไปรู้อะไร และชีวิตเขามีแค่แม่ หากสิบหมื่นจะติดเธอมันก็ไม่แปลก สิบแสนนั่งลง หยิบกล่องอาหารออกจากถุง มีทั้งหมดห้ากล่อง ทยอยเปิดฝาออก มีเมนูแกงปลาใส่หัวปรีน้ำสีขาวขุ่น ปลาทอดสามรสที่เต็มไปด้วยสมุนไพร ต้มยำทะเลน้ำใสใส่เห็ดฟางส่งกลิ่นหอมสมุนไพรข่าตะไคร้ใบมะกรูด และไข่เจียว แล้วก็มีกล่องข้าวสวยด้วยอีกอัน น้ำฟ้าที่ได้เห็นดังนั้นกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหิว มีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้น อีกอย่างมันส่งกลิ่นหอมชวนเรียกน้ำย่อย แต่สำหรับคนที่มีลูกเล็กแล้วจะเข้าใจดี เราจะได้กินอาหารก็ตอนที่ลูกหลับหรือลูกไม่งอแงแล้วเท่านั้น สิบแสนตักกับข้าวใส่ในกล่องข้าวเปล่า ก่อนจะยื่นช้อนไปจ่อตรงปากแม่ของลูก น้ำฟ้ามองงงๆ "อะไรคะ" "ข้าว ไม่รู้จักเหรอ" เม็ดขาวสวยดูนุ่มน่ากินขนาดนี้ไม่รู้จักโตมาได้ไง "ฟ้ารู้ค่ะว่ามันคือข้าว" "รู้แล้วถามทำไม" "คุณแสนเอามาป้อนฟ้าทำไมคะ" เธอเห็นเขาเลื่อนกล่องข้าวเปล่าไปหาตัวเองเธอก็นึกว่าเขาจะกินซะอีก ก็เขาสั่งกับข้าวมาเยอะขนาดนี้ ทั้งที่ของเธอมีแค่ไข่เจียว เธอก็ต้องคิดว่าอีกสามเมนูที่เหลือเป็นของเขาอยู่แล้ว "ถ้าไม่ป้อนจะได้กินไหมฮะ" ลูกกอดแทนที่จะบอกให้ลูกปล่อย ตัวเองจะได้กินข้าว แต่กลับโอ๋กันอย่างนั้น ขัดลูกตาจริงๆ ถ้าเขาได้เลี้ยงลูกเองตั้งแต่เด็กนะ สิบหมื่นไม่มีมุมอ่อนแอให้เห็นแน่ "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวสักหน่อยลูกก็เลิกอ้อน แกเพิ่งตื่นเลยเป็นอย่างที่เห็นค่ะ" "กิน" สิบแสนส่งสายตาดุๆ ไปให้ ช้อนจ่อปากขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธอีก ได้เขาป้อนข้าวให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว บอกเลยตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยทำให้ใคร น้ำฟ้าค่อยๆ อ้าปากออกขณะที่มองหน้าพ่อของลูกไปด้วย ช้อนก็ถูกยัดเข้ามาในปากเธอทันที สัมผัสรสชาติของอาหารจากคนที่หิวมากๆ ต่อเมนูปลาทอดสามรสมันอร่อยสุดๆ อร่อยจนไม่กล้าปฏิเสธคำต่อไป ไม่ว่าเขาจะป้อนอะไรมาเธออ้าปากงับเอาทุกคำ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องอิ่มเพราะมันฝืนต่อไปไม่ไหว "ฟ้าอิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ" เธอยิ้มบางๆ ให้พ่อของลูก ไม่ว่าเขาจะทำเพราะอะไร แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ทนหิวนาน สิบแสนไม่ตอบ ยัดข้าวคำนั้นเข้าปากตัวเองแทน แล้วนั่งกินข้าวต่อเงียบๆ ท่ามกลางน้ำฟ้าที่แอบมองพ่อของลูกอยู่บ่อยๆ "จะพูดก็พูด" สิบแสนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่รับรู้ว่าน้ำฟ้าแอบมองเขา "ช้อนฟ้าค่ะ" "หวงหรือไงแค่ช้อน" แค่นี้ใช้ด้วยไม่ได้ "คุณแสนไม่รังเกียจเหรอคะที่ใช้ช้อนต่อจากฟ้า" เอ่ยออกไปแล้วรีบเม้มปาก สิบแสนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ดูดปากกันก็ทำมาแล้วมั้ย" น้ำฟ้าหน้าแดงเมื่อเขาเอ่ยออกมาแบบนั้น มันหวนให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน แต่นั่นมันผ่านมานานแล้วไม่ใช่เหรอ เธอไม่คิดว่าเขาจะยังจำได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม