สร้างภาพหรือชอบใจ nc 35+

1651 คำ
"เฮ้ย! เจ้าสาวมึงมาแล้วไอ้โน แม่งสวยชิบหายเลยไอ้เชี่ย” ลวงร้อยร้องบอกเพื่อน ๆ ของตนให้มองไปยังข้างหน้างานด้วยความตื่นเต้น สายตาของห้าหนุ่มจดจ้องไปยังเจ้าสาวชุดสีขาวยาวลากพื้น ชุดที่เปิดเผยไหล่เล็กนวลเนียนกำลังเดินหน้าตึงไม่ต่างจากเจ้าบ่าวมาทางพวกเขายืน “อะแฮ่ม! นั่นเมียกูเว้ย!" มโนบอกเพื่อนรักเพื่อเรียกสติ “มึงหวงเหรอไอ้โน” เพ้อภพเอ่ยพร้อมกับมองตามสายตาของเจ้าบ่าวที่กำลังจดจ้องไปทางเจ้าสาวไม่วางตา “เปล่า...กูอายแขกในงาน อีกอย่าง ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย” มโนบอกปัดพลางแสร้งมองไปทางอื่น แต่หางตาก็แอบชำเลืองมองคนตัวเล็กในชุดสีขาวเดินมาทางตนอยู่เป็นระยะ “หนูแสบสวยมาก ๆ เลยจ้าวันนี้ ขอบคุณนะจ๊ะที่ยอมแต่งงานกับพี่เขา” เพ็ญศรีเดินไปรับลูกสะใภ้จากธนพลพาเดินมาส่งให้ลูกชายของตน ตะลิงปลิงก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้กับอีกฝ่าย “หลบหน่อยหนุ่ม ๆ เจ้าสาวเขาจะยืนข้างเจ้าบ่าวแล้วจ้ะ” เพ็ญศรีผลักเพ้อภพออกจากข้างลูกชายของตนแล้วดันตะลิงปลิงไปยืนแทนที่ พร้อมจับท่าทางให้เจ้าสาวยกมือมาควงแขนเจ้าบ่าว ส่วนเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจ้องสบตากันเมื่อถูกบังคับ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปคนละทาง “สวัสดีครับคุณอา” มโนยกมือของตนขึ้นไหว้สวัสดีพ่อของเจ้าสาวของตน หลังจากที่ไม่ได้พบกันนานมาหลายปี แต่ก็ยกขึ้นได้ไม่ถนัดเพราะมีมือเล็กเกาะแขนไว้ “อาฝากน้องด้วยนะโน” ธนพลเอ่ยยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกสาวที่เอาแต่บึ้งตึง “หนูแสบยิ้มหน่อยสิลูก วันนี้ลูกพ่อเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกเลยนะ” “ก็แสบ...” “ไม่เอา ๆ ไม่พูดกันแล้ว เรามาถ่ายรูปครอบครัวกันดีกว่าพล” เพ็ญศรีเห็นว่าหากปล่อยให้ตะลิงปลิงพูดคงได้ปะทะฝีปากกับลูกชายตัวดีของตนเป็นแน่ “ภพ ฝัน รัก และเพ้อจ๊ะ ออกจากเฟรมได้ไหมลูก แม่จะถ่ายเฉพาะครอบครัวจ้ะ” นางบอกบรรดาเพื่อน ๆ ขอวงลูกชายให้ออกจากตรงนี้ เพราะอยากถ่ายรูปครอบครัวกัน สี่หนุ่มมองตากัน ก่อนจะส่งยิ้มเยาะเย้ยไปให้เจ้าบ่าวหน้าตึง แล้วเดินออกไปยืนมองอยู่ข้าง ๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายรูปกับครอบครัว เมื่อรูปครอบครัวเสร็จก็ต้องเป็นรูปกับเพื่อนเจ้าบ่าว “หนูแสบยิ้มมีความสุขหน่อยสิจ๊ะลูก ไม่เอาไม่ทำหน้าตึงสิคะ โนก็ด้วย เจ้าสาวสวยก็สวย ทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนี้ลูก” เพ็ญศรีเอ่ยเมื่อเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ยอมยิ้มเลย ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับแต่งงานอย่างนั้นแหละ แต่ก็ถูกบังคับจริง ๆ เสียด้วยสิ ตะลิงปลิงเป็นลูกสาวของเพื่อนรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของนาง พอแต่งงานมีครอบครัวเลยสัญญากันว่าจะให้ลูก ๆ ของตนแต่งงานกัน และวันนี้ก็มาถึงสักที “พี่เพ็ญครับผมว่าให้เด็ก ๆ มีรูปคู่ดีไหมครับ” ธนพลออกความเห็น เมื่อเห็นว่าถ่ายรูปครอบครัวหลายรูปแล้ว “ดี ๆ เหมือนกันพล” แล้วทั้งสองก็พากันแยกออกจากเฟรมกล้อง ทิ้งเหลือแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเงอะงะด้วยไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง “ยิ้มหน่อยสิ ไม่ดีใจเหรอที่ได้แต่งงานกับฉัน” “ตกนรกน่ะสิไม่ว่า ว้าย!" ตะลิงปลิงร้องเสียงหลงเมื่อถูกเจ้าบ่าวตวัดเกี่ยวร่างเข้าไปกอดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “ยิ้มสิ” มโนกระซิบคนในอ้อมกอด พลางสูดกลิ่นกายหอม ๆ ของเจ้าสาวเข้าปอดแรง ๆ กลิ่นช่างหอมละมุน มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่มันเป็นกลิ่นแป้งเด็ก เป็นกลิ่นที่ไม่คิดว่าผู้หญิงวัยสาวจะใช้กัน “ปล่อยฉันนะ” หล่อนพยายามขืนตัวเองไม่ให้ร่างบดเบียดไปกับเจ้าบ่าว “ยิ้มสิ ทุกคนรอเราอยู่นะ ถ่าย ๆ ไปเถอะ สร้างภาพน่ะเป็นไหม” มโนเอ่ย ก่อนจะหันไปยิ้มให้กล้อง และมันเป็นยิ้มที่เขายิ้มเต็มปาก เป็นยิ้มที่ไม่เสแสร้งและยิ้มของมโนก็ทำให้เพื่อนรักทั้งสี่ของเขาต้องหันมาสบตากันด้วยคำถาม “ตกนรกน่ะสิไม่ว่า ว้าย!" ตะลิงปลิงร้องเสียงหลงเมื่อถูกเจ้าบ่าวตวัดเกี่ยวร่างเข้าไปกอดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว “ยิ้มสิ” มโนกระซิบคนในอ้อมกอด พลางสูดกลิ่นกายหอม ๆ ของเจ้าสาวเข้าปอดแรง ๆ กลิ่นช่างหอมละมุน มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่มันเป็นกลิ่นแป้งเด็ก เป็นกลิ่นที่ไม่คิดว่าผู้หญิงวัยสาวจะใช้กัน “ปล่อยฉันนะ” หล่อนพยายามขืนตัวเองไม่ให้ร่างบดเบียดไปกับเจ้าบ่าว “ยิ้มสิ ทุกคนรอเราอยู่นะ ถ่าย ๆ ไปเถอะ สร้างภาพน่ะเป็นไหม” มโนเอ่ย ก่อนจะหันไปยิ้มให้กล้อง และมันเป็นยิ้มที่เขายิ้มเต็มปาก เป็นยิ้มที่ไม่เสแสร้งและยิ้มของมโนก็ทำให้เพื่อนรักทั้งสี่ของเขาต้องหันมาสบตากันด้วยคำถาม “ดีมากจ้า...น่ารักมาก ๆ เลยลูก ๆ เพื่อนเจ้าบ่าวมาถ่ายกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้แล้วจ้ะ” เพ็ญศรีบอกเพื่อนเจ้าบ่าวตัวป่วนเข้าไปถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วเพื่อนเจ้าสาวก็มาร่วมเฟรมถ่ายรูปได้ เพื่อนเจ้าสาวของตะลิงปลิงมีแต่เด็ก ๆ อายุ 7 ขวบ 8 ขวบ เลยทำให้เพื่อนเจ้าบ่าวใจแป้ว เพราะคิดว่าเพื่อนเจ้าสาวจะสวยเหมือนเจ้าสาว แต่ก็ผิดคาด เวลาผ่านไปไม่นาน พิธีช่วงเช้าก็จบลงเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนที่เพ็ญศรีเชิญมา เมื่อตอนนี้ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ก็ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวแยกตัวไปพัก รอเวลาสองทุ้มสิบสามนาทีก็ถึงฤกษ์ดีส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอบนห้องที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ ทั้งสองต้องพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมนี้เป็นเวลาสามวันสามคืน ตะลิงปลิงเดินวนเวียนไปมาหลายรอบแล้วตั้งแต่พิธีแต่งงานเสร็จ จะเหลือก็แต่ฤกษ์ส่งตัวเข้าห้องหอ หญิงสาวกระวนกระวายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาชนิดาเพื่อนรัก แต่ก็เงียบ สงสัยงานศพของพ่อคงไม่เสร็จจึงรับสายเธอไม่ได้ แต่แล้วก็ต้องกำโทรศัพท์ไว้ในมือเมื่อผู้เป็นพ่อเปิดประตูเข้ามาหาในห้องพัก “หนูแสบเป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยไหม อดทนหน่อยนะลูกอีกเดี๋ยวก็ได้เข้าหอแล้ว” ธนพลเดินมาลูบหัวแก้วตาดวงใจตนด้วยความอ่อนโยน พร้อมดึงตามตนไปนั่งที่โซฟา “ลูกไม่เหนื่อยเท่าต้องฝืนใจแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นหรอกค่ะพ่อพล” หล่อนตัดพ้อ “ไม่เอาสิลูก ตอนนี้ลูกเป็นคนของบ้านเหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้าแล้วนะลูก” “ให้ตายเถอะพ่อ นามสกุลบ้าอะไรยาวยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน ใครจะไปจำได้ พ่อพูดใหม่อีกทีสิคะ” หล่อนตกใจตั้งแต่เห็นนามสกุลที่ตนต้องเปลี่ยนตั้งแต่ตอนจรดปลายกาเซ็นชื่อในใบทะเบียนสมรสแล้ว “หนูแสบล้อพ่อเล่นรึเปล่าลูก” ธนพลยิ้มขำ กว่าเขาจะท่องจำได้ก็ใช้เวลานาน และเหมือนจะพูดได้ครั้งเดียวด้วย “ช่างเถอะ ไม่เห็นต้องจดจำอะไรเลย เดี๋ยวไม่นานก็ต้องหย่าอยู่ดีใช่ไหมคะพ่อพล เพราะพ่อพลบอกว่าถ้าอยู่ไม่รอด พ่อพลอนุญาตให้แสบหย่าได้” หญิงสาวทวงคำพูดก่อนที่ตนจะตกลงแต่งงานกับมโน “แน่นอนอยู่แล้ว แต่ลูกแน่ใจเหรอว่าลูกจะไม่หลงรักพี่เขา พี่เขาหล่อออกปานนั้น ขนาดพ่อเป็นผู้ชายด้วยกันยังอดชื่นชมไม่ได้เลยนะ” หากว่าในอนาคตข้างหน้าชีวิตคู่ของลูกสาวไปไม่รอด เขาก็ให้สิทธิ์เธอตัดสินใจเอง เพราะแค่เรื่องแต่งงานก็ถือว่าบังคับจิตใจของตะลิงปลิงมากพอแล้ว ต่อไปนี้หากเธออยากทำอะไรเขาก็จะตามใจลูกสาวทุกอย่าง และเคารพทุกการตัดสินใจของเธอด้วย อีกห้องถัดกันไปนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวก็กำลังพูดคุยกันสนุกปาก โดยเฉพาะเพื่อนเจ้าบ่าวที่พากันพูดหยอกล้อเจ้าบ่าวในวันนี้ไม่หยุดปาก หัวเราะเริงร่ากัน แต่จะมีก็แต่เจ้าบ่าวคนเดียวเท่านั้นไม่ขำด้วย เพราะเจ้าตัวเองแต่นิ่งเงียบเมื่อเข้ามาอยู่ในห้อง จนตอนนี้ก็เหลือเวลาไม่กี่นาทีก็ได้เวลาส่งตัวเข้าห้องหอแล้ว “ยิ้มหน่อยสิโน เจ้าสาวมึงก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรซะหน่อย” ฝันดีตบไหล่เพื่อนรักเมื่อคิดถึงหน้าของเจ้าสาวเพื่อนก็อดยิ้มกริ่มไม่ได้ เมื่อเจ้าหล่อนนั้นช่างสะดุดตาของเขาเหลือเกิน ตั้งแต่นาทีแรกที่เธอก้าวเดินเข้ามาให้เห็น หัวใจหนุ่มก็เต้นเร่า และนาทีนั้นเองที่เขารู้สึกอิจฉาเพื่อนรักในวันนี้และอดเสียดายไม่ได้ ยอมรับว่าเขาหวั่นไหวกับเจ้าหล่อนทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะตะลิงปลิงเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเพื่อนรักเรียบร้อยแล้ว “มึงก็มาเป็นกูสิ ถูกบังคับแต่งงานทั้ง ๆ ไม่ได้รัก” มโนตอบเพื่อนรักพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขยับชุดสูทของตนก่อนจะพูดต่อ “มึงชอบก็เอาไปสิ กูไม่คิดจะอยู่กับเด็กนั่นนานหรอก กูจะหาทางหย่าให้ได้ อีกอย่างก็แค่เมียไม่ได้รัก แบ่งเพื่อนกินได้อยู่แล้ว เหมือนที่เราเวียนสาวกันใช้ไงล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม