มโนเดินมาเจอเจ้าสาวของตนยืนรออยู่ประตูหน้าห้องหอ
หัวใจหนุ่มก็เต้นระรัวจนต้องยกมือขึ้นมาทาบอกตนไว้เมื่อเจ้าหล่อนเอี้ยวหันมามองทางตน พลางยิ้มหวานให้กับแม่ของเขา แต่กับเขาเธอกลับหน้าบึ้งใส่
“เข้าไปกันเลยจ้ะหนูแสบของแม่” เมื่อเพ็ญศรีเอ่ยจบธนพลก็เปิดประตูห้องทันที แล้วทุกคนก็เดินเข้าไปในห้องไปอยู่ในส่วนของห้องนอนที่มีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และบนเตียงก็โรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูและแดงสลับกัน
มโนกับตะลิงปลิงจ้องมองหน้ากันเมื่อเห็นเตียงที่มีกลีบดอกกุหลาบโรยเป็นรูปหัวใจ ตะลิงปลิงเบ้ปากไม่สบอารมณ์ ทำปากขมุบขมิบบ่นพึมพำ ส่วนมโนก็ได้แต่ทำหน้าเบื่อโลกกับสถานการณ์ตอนนี้
“เด็ก ๆ เดี๋ยวไม่ทันฤกษ์นะ รีบ ๆ มานั่งตรงนี้แม่กับพ่อของหนูแสบจะได้ให้โอวาทก่อนใช้ชีวิตคู่จ้ะ”
ทั้งสองเดินมานั่งกับพื้นพรมอยู่ปลายเตียงที่มีพ่อกับแม่ของพวกเขานั่งรอท่าอยู่ก่อนแล้ว แล้วการให้โอวาทก็เริ่มขึ้น
“พี่เพ็ญให้โอวาทลูก ๆ ก่อนผมเถอะครับ เพราะพี่เพ็ญ...”
“แก่ก็ว่ามาเถอะ พอ เด็ก ๆ ฟังนะจ๊ะ” นางเอ่ยตัดความของธนพลก่อนจะก้มลงเอ๊ยเอ่ยกับคู่บ่าวสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าตน “ต่อไปนี้ชีวิตของพวกลูกคือชีวิตที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วนะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน มีเรื่องอะไรก็ต้องพูดคุยกันอย่าเก็บไว้คนเดียว รักกันดูแลกันไปจนแก่เฒ่า และที่สำคัญ มีลูกให้แม่เร็ว ๆ นะหนูแสบ” และท้ายวาจาก็กำซับกับลูกสะใภ้คนสวย
“ครับคุณแม่ / ค่ะคุณแม่” สองเสียงรับคำประสานกันพร้อมกับก้มลงกราบเท้าของผู้เป็นแม่
“พ่อโนต่อไปนี้พ่อฝากดูแลน้องด้วยนะ หนูแสบเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจ และเจ้าอารมณ์ หนักนิดเบาหน่อยโนก็ยอม ๆ น้องเขาหน่อยนะ ลูกสาวพ่อมีคนเดียวและเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ พ่อหวังว่าโนจะดูแลเป็นอย่างดี และรีบ ๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็ว ๆ ด้วยนะโน” ธนพลฝากฝังลูกสาวของตนกับลูกเขย รู้สึกใจหายที่ลูกสาวแต่งงาน เพราะหลังจากวันนี้ไปตะลิงปลิงก็เป็นคนของมโนแล้ว
“ครับคุณพ่อ” มโนรับปากพร้อมกับก้มลงกราบเท้าของพ่อตา
“หนูแสบของพ่อโตแล้วนะ พอหวังว่าลูกจะเป็นเมียที่ดีของพี่เขา และเป็นแม่ที่ดีของลูกนะ พ่อรักลูกนะ”
“ขอบคุณนะคะพ่อ” ตะลิงปลิงก้มล้มกราบเท้าพ่อ น้ำตาคลอเบ้า
“เอาละเด็ก ๆ ตอนนี้ได้เวลาแล้วนะ ถึงเวลาต้องอยู่กันตามลำพังแล้วนะ และคืนนี้ห้ามออกจากห้องหอเป็นอันขาดรู้ไหมจ๊ะ เพราะโบราณเขาถือจ้ะ” เพ็ญศรีเอ่ย
“ครับ / ค่ะ”
“พ่อกลับบ้านก่อนนะลูก” ธนพลเอ่ยบอกลูกก่อนจะเดินออกไปจากห้องหอของลูกสาวพร้อมกับเพ็ญศรี
เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของทั้งสองที่เดินจากไปแล้ว
ตะลิงปลิงก็รีบลุกขึ้นกระโดดนอนบนเตียงทันที ความอึดอัดก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว ตอนนี้หล่อนเหนื่อยอยากนอนพักสักหน่อย
“อ่า! เมื่อยชะมัดเลย” ตะลิงปลิงไม่สนใจเลยว่าเจ้าบ่าวป้ายแดงของตนจะมองตนยังไง เพราะยังไงอีกไม่นานก็ต้องหย่ากันอยู่ดี
มโนมองเจ้าสาวป้ายแดงของตนนอนกางขากางแขนเต็มเตียงแล้วก็ส่ายหน้าเอือมระอา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ แต่ก็ต้องหยุดเท้าที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำ
“มาคุยกันก่อนสิคุณ เราจะหย่ากันเมื่อไหร่”
ให้ตายสิ เพิ่งแต่งงานกันเอาก็ยังไม่ได้เอา เนี่ยเธอขอหย่ากับฉันแล้วเหรอ ฝันไปเถอะ ฉันเท่านั้นที่จะเป็นคนเขี่ยเธอทิ้ง
ขบฟันพึมพำในใจ ก่อนจะเปลี่ยนปลายทางจากห้องน้ำมาเป็นบนเตียงใหญ่ที่มีเจ้าสาวกำลังนั่งรอท่าตนอยู่บนเตียง
“อยากได้ใบหย่า ทั้ง ๆ ยังไม่ได้ทำหน้าที่เมียนี่นะ” มือใหญ่เชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบตาตน และแววตาของหล่อนก็ช่างอวดดีท้าทายเขาเหลือเกิน ตะลิงปลิงไม่หลบตาหรือหวาดกลัวเขาด้วยซ้ำ มือเล็กยกขึ้นมาปัดมือของเขาออกจากคางหล่อน พร้อมกับสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นตามมา
เผียะ!
มโนหันกลับมาจ้องหน้าเจ้าสาวอวดดีกล้าตบหน้าตน พร้อมกับยกมือหยาบกร้านลูบไล้แก้มสากข้างโดนตบ เรียวลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากที่มีเลือดซึม เขารู้เลยว่าเขาปากแตกเพราะน้ำมือของหล่อน มือใหญ่ผลักร่างเล็กในชุดเจ้าสาวให้นอนล้มไปกับเตียงกว้าง พร้อมกับร่างของเขาตามขึ้นไปคร่อมทับ
“ปล่อยฉันนะคุณ” ตะลิงปลิงสั่งเสียงแข็ง พลางขยับดิ้นรนหาอิสระให้กับตน
“แล้วคิดว่าตบฉันแล้วเธอจะรอดเหรอแม่ตัวดี กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน ฉันเป็นผัวเธอนะเว้ย!" น้ำเสียงห้าวตะคอกใส่หน้าของคนใต้ร่าง มือใหญ่เคลื่อนมากักแขนทั้งสองข้างของหล่อนรวบตรึงไว้เหนือหัว สายตาคมเคลื่อนไล่สำรวจลำคอระหงนวลเนียน ไล่มายังเนินอกอวบอิ่มที่ดุนดันอยู่ในชุดเจ้าสาวเปิดไหล่