แพตตี้เดินตามหัวหน้ามาถึงแผนกก็โบกไม้โบกมือทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างคนกันเอง หัวหน้าแผนกหันมามองหญิงสาวอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ทำตัวเหมือนไม่กลัวและไม่เกรงใจใครเป็นเจ้าของบริษัทหรือไงถึงคิดจะทำอะไรก็ได้
“สวัสดีค่ะทุกคน”
“สำรวมหน่อยเธอนะ วันนี้ไปฝึกงานกับพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กแล้วกัน ขายให้ได้นะวันนี้ไม่งั้นไม่ต้องพักเที่ยง”
“ใจร้ายจังกองทัพต้องเดินด้วยท้องป่ะ อย่างงี้ทั้งวันขายไม่ได้ไม่ซวยกันหมดเหรอไง”
แพตตี้บ่นออกมาให้เพื่อนร่วมงานได้ยิน แนนนี่สะกิดให้เธอเงียบอย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับหัวหน้าแผนกให้เหนื่อยเพราะสุดท้ายแล้วเขาเป็นหัวหน้าเขามีอำนาจจะสั่งเรายังไงก็ได้ คนเป็นลูกน้องก็ทำได้แค่ก้มหน้าทำงานต่อไป
“สอนงานกันด้วยล่ะเข้าใจมั้ย”
“ค่ะหัวหน้า”
แนนนี่ตอบรับกลับไปก่อนจะดึงแขนแพตตี้ให้เดินออกไปจากตรงนั้น ทั้งสองคนพากันเดินไปยังคลังเก็บสินค้าก่อนจะแนะนำสินค้าที่เราต้องขาย
“นี่เป็นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เราต้องขายนะ หม้อหุงข้าว เตารีด กาน้ำร้อน หม้อทอดไร้น้ำมัน ตรงนี้อีกลองดูนะเราต้องขายทั้งหมดเลย ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ”
“เราเหรอชื่อแพตตี้อ่ะ นี่เราต้องจำสินค้าพวกนี้ให้ครบหมดเลยเหรอ ทำไมเยอะจังพนักงานกี่คน”
“ตอนนี้มีเราคนเดียวเพราะคนอื่นอยู่ไม่ได้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเราต้องทำงานหาเงินเลี้ยงลูกนะเราลาออนานแล้วไม่อยู่ให้หัวหน้าด่าทุกวันแบบนี้หรอก”
แนนนี่บ่นออกมาก่อนจะส่งกระดาษรายละเอียดไปให้แพตตี้ลองอ่านดู เธอรับกระดาษมาลองดูก่อนจะเงยหน้ามองเธออย่างสงสัย
“หัวหน้าเขาขี้บ่นแบบนี้ประจำเหรอ ทำตัวเป็นมนุษย์ป้าขี้บ่นไปได้ พนักงานก็เห็นตั้งใจทำงานกันดีนะ”
“ก็ตั้งใจทำงานสุดความสามารถแต่ว่าเค้าอยากจะด่าอ่ะหาเรื่องมาด่าลูกน้องสารพัดแหละ คิดจะทำงานที่นี่ต้องปลงนะไม่งั้นอยู่ไม่ได้”
“ทำไมต้องปลงอ่ะ หัวหน้าไร้เหตุผลแบบนี้จะเอาไว้ทำไม ส่งเรื่องไปสำนักงานใหญ่ไล่ออกไปเลย”
เธอมองแนนนี่อย่างไม่เข้าใจความคิดของพนักงาน ทำไมจะต้องมาทนกับหัวหน้าที่ด่ากราดไผทั่วแบบนี้ เป็นเธอนะจะฟ้องคนที่ตำแหน่งสูงกว่าให้เอาออกไปเลย จะได้ไม่ต้องทำกร่างแบบนี้อีก
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเราไม่มีหลักฐานอะไร อีกอย่างเขาเป็นเจ้านายเราเป็นลูกน้อง ระดับจัดการเขาไม่ฟังคำพูดอย่างเราหรอก ไม่ใช่แค่แผนกนี้นะแผนกอื่นก็เจอหัวหน้าแบบนี้กันทุกคน เธออ่ะหน้าตาสวยมากเลยนะทำไมถึงมาสมัครทำงานขายของล่ะ งานมีตั้งเยอะแยะ”
“ก็ไม่รู้จะไปทำงานอะไรอ่ะ ช่างมันเถอะฉันแค่อยากจะรู้ว่าทำไมพนักงานถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทำไมถึงเข้าออกเป็นว่าเล่นก็เท่านั้น เธอช่วยฉันหน่อยได้มั้ย”
แพตตี้กระซิบกระซาบขอความช่วยเหลือจากแนนนี่ ดูแล้วพนักงานน่ารักกันมากเลยนะสาขานี้ แต่หัวหน้าแต่ละคนไม่ได้เรื่องเลย
“ช่วยยังไงอ่ะ”
“ก็พาไปดูว่าเหตุผลอะไรที่พนักงานลาออกเป็นว่าเล่นไง ถ้าเธอช่วยฉันฉันจะช่วยเธอเอง โอเคมั้ย”
“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะให้เธอดูว่าทำไมพนักงานถึงอยู่กันไม่ได้”
แนนนี่เอ่ยออกมาก่อนจะพาแพตตี้ออกไปข้างนอกเพื่อต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาในแผนก เธอยืนดูเพื่อนร่วมงานบริการลูกค้าอย่างตั้งใจแถมยังให้คำแนะนำที่ดีอีก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะตั้งใจทำงานมากขนาดนี้แถมยังจิตใจดีนึกถึงคนอื่นอีกด้วย
“ลูกค้าเอาสิบตัวเลยนะแพตตี้ เธอรอดละจะได้กินข้าวแล้ว”
แนนนี่ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะพาลูกค้าไปชำระเงินโดยมีแพตตี้ช่วยจัดของตามที่ลูกค้าต้องการ หลังจากที่ส่งของให้ลูกค้าเรียบร้อยทั้งสองคนก็ลงรายการสินค้าที่ขายของไปและก็ได้เวลาพักเที่ยง แนนนี่พาแพตตี้ไปที่ห้องอาหารพนักงานของห้างสรรพสินค้า เธอมองอาหารตรงหน้าอย่างลังเลไม่รู้ว่ามีอะไรพอจะกินได้มั้ยยิ่งเป็นคนกินยากอยู่
“แพตตี้กินอะไรดี”
“นี่คืออะไรอ่ะ”
เธอชี้ไปยังหนังสีน้ำตาลอย่างแปลกตา อาหารอะไรทำไมมันดูแปลกๆแต่ว่ามันน่ากินมากเลยนะ มันเยอะค่อนข้างจะอ้วนไม่เอาดีกว่า
“ข้าวขาหมูไงไม่เคยกินเหรออร่อยมากเลยนะลองดิ”
“ไม่เอาอ่ะดูมันมันเยิ้มเหมือนจะอ้วนเลย”
“ก็สั่งแบบไม่หนังดิ เอามั้ยล่ะจะสั่งให้”
แนนนี่เสนอตัวช่วยสั่งเมนูเด็ดให้ เธอพยักหน้าเล็กน้อยอย่างลองดู เพราะอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรน่ากินแล้วอาหารตามสั่งทั่วไปและมีคนต่อคิวเยอะด้วย เอาอันนี้แหละเร็วดี
“ลองดูก็ได้”
“พี่คะเอาข้าวขาหมูจานหนึ่งค่ะ อีกจานไม่เอาหนังนะคะขอไข่ต้มด้วยคนละหนึ่งฟอง”
“ได้ๆรอแป๊บนะ”
เจ้าของร้านยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหยิบจานทำเมนูสองจานให้กับสองสาว แพตตี้หันไปเจอเดียร์ที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกหลายคนก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“เดียร์…”
เขาหันไปมองแพตตี้ก่อนจะทำเหมือนไม่ได้ยิน จะมาทักเขาในเวลาแบบนี้ทำไมกันเดี๋ยวความลับก็แตกกันหมดหรอก เขาตรวจคลังสินค้าไปได้เยอะแล้วถ้าเย็นนี้เรียบร้อยก็ไม่น่าจะกลับมาอีก และไม่รู้ว่าส่วนของแพตตี้เจอปัญหาอะไรรึเปล่าเพราะฉะนั้นยังไม่สามารถเปิดตัวได้
“ใครวะสวยอ่ะ”
“พนักงานขายคนใหม่ สวยโคตรๆกูไปสืบมาแล้วอย่างแจ่ม”
พวกพนักงานผู้ชายเริ่มพูดซุบซิบกันและเดียร์ได้ยินทุกอย่าง เขาเริ่มชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจที่มีคนพูดจาแบบนี้กับผู้หญิงของเขา สงสัยต้องรีบจบปัญหาวันนี้ให้หมดไม่อย่างนั้นเขาจะต้องระเบิดออกมาแน่นอน เดียร์หยิบโทรศัพท์กดไปหาหญิงสาวส่งข้อความบอกเธอว่าให้อยู่เงียบๆ
‘แพตตี้อย่าเพิ่งทักความจะแตก’
‘อ่าวเหรอ ขอโทษก็ได้งั้นคุยกันตอนเย็นดีกว่า’
เธอยิ้มออกมาแก้มปริก่อนจะจ่ายเงินค่าข้าวขาหมูของตัวเองแล้วไปนั่งทานพร้อมกับแนนนี่ เธอมองอาหารในจานก่อนจะลองตักชิมดู ใช้ได้เลยนะอร่อยดีน้ำจิ้มก็ดีมากทำไมเธอถึงไม่เคยกินมาก่อนนะแบบนี้
“จากหัวหน้าแผนกฝ่ายขาย ขอเชิญแนนนี่ที่จุดขายค่ะมีลูกค้าจะซื้อของ”
แนนนี่ที่เพิ่งกินข้าวไปได้สองคำก็ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ นี่มันเวลาพักของเธอแท้ๆทำไมถึงยังจะเรียกอีก แพตตี้มองหน้าเธออย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยถามทันที
“ทำไมต้องไปขายด้วย พวกเขาไม่รู้เหรอว่าแนนนี่กำลังพักเที่ยง”
“ก็รู้แหละแต่ว่าไม่สนใจไง ลูกค้าถูกเสมอถ้าต้องการซื้อของตอนนี้เราก็ต้องพร้อมขาย”
“ได้ยังไงใครว่างก็ขายไปสิ มีเวลาเรียกทำไมไม่ขายเอง หัวหน้าแผนกจะมีไว้ทำไมถ้าแก้ปัญหาไม่ได้”
แพตตี้บ่นออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดเบอร์แผนกฝ่ายขาย และไม่นานก็มีคนกดรับโทรศัพท์
“ฝากบอกคุณหัวหน้าแผนกด้วยนะคะว่าแนนนี่กำลังกินข้าวอยู่ ถ้าลูกค้าอยากได้สินค้าตัวไหนให้คนที่ว่างขายไปได้เลย และถ้าหัวหน้าว่างมากนักก็ขายเองเลยค่ะจากแพตตี้คนสวย!”
เธอพูดไปรัวๆจากนั้นก็กดวางสายทันที แนนนี่อ้าปากค้างอย่างตกใจใครจะคิดว่าเธอจะกล้าพูดออกไปแบบนั้นเหมือนไม่กลัวว่าจะโดนเล่นงาน และท้าทายแบบนี้หัวหน้าแผนกไม่เอาไว้แน่นอน
“แพตตี้เธอทำไมพูดแบบนั้น!”
“เอาน่ากินข้าวเถอะ ฉันรับผิดชอบทุกอย่างเองเธอไม่ต้องกังวลนะ”
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะนั่งทานขาหมูตรงหน้าต่อ แนนนี่เริ่มมีสีหน้าที่กังวลอย่างเห็นได้ชัด รับรองว่าไม่นานหลังจากนี้หัวหน้าแผนกมาโวยวายที่นี่แน่นอน
‘ซวยแน่ๆ ฮืออออ’