หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยทั้งสามคนก็เดินทางกลับมาที่บริษัทด้วยกัน และยังได้รับข่าวดีว่าคุณเฉินจะต่อสัญญาการสั่งสินค้าไปอีกหลายปี และแน่นอนว่ามันเป็นข่าวที่ดีที่สุดอยู่แล้วสำหรับพวกเขา
“ลูกสาวพ่อเก่งมากเลย รู้ได้ยังไงว่าเขาชอบอะไรถึงไปคุยกับเขาได้”
“ก็เดียร์ให้อ่านข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้าตามที่เรามีประวัติเขาอยู่ค่ะ แล้วก็หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตด้วย ในนั้นระบุว่าเขาชอบงานศิลปะมากและชอบไปประมูลมาสะสมไว้ซึ่งหนูก็พอมีความรู้ก็เลยคุยได้ค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาตามตรง ตอนแรกที่เดียร์ให้เธอมาอ่านก็งงว่าจะรู้ไปทำไม แต่ว่าตอนนี้รู้แล้วว่ามันคือพื้นฐานที่เราจะเข้ากับคนอื่นได้จะต้องรู้จักเขามากขึ้น
“งั้นเหรอ… ขอบคุณมากนะเดียร์นายรอบคอบกว่าที่ฉันคิดเยอะเลย”
เดียร์ยิ้มออกมาไม่พูดอะไรเพราะเขาก็ภูมิใจในตัวของหญิงสาวที่พอตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างก็สามารถทำได้ และเขาจะทำให้เธออยู่จุดสูงสุดได้อย่างภาคภูมิใจ เขาเชื่อมั่นว่าเธอทำได้แน่นอน…
“หนูทำดีมากใช่มั้ยคะ”
“ใช่จ้ะหนูทำดีมากเลย ไปเล่าให้คุณแม่ฟังสิท่านต้องภูมิใจแน่นอนเลย”
“ได้คะหนูจะไปอวดคุณแม่”
แพตตี้ยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกอดแขนเดียร์และกลับไปที่ห้องทำงานด้วยกัน ตอนนี้เขาต้องไปเรียนรู้งานต่อกับผู้ช่วยของท่านประธาน ส่วนแพตตี้ก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
“แพตตี้คุณตั้งใจทำงานนะผมจะไปทำงานของตัวเองก่อน”
“โอเคค่ะถ้างั้นเจอกันตอนเย็น”
“ได้… งั้นผมไปนะ”
เขาหยีผมหญิงสาวเล่นก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น ต้องใช้เวลาในการจดจำทุกสิ่งอย่างที่คุณผู้ช่วยสอนในเวลาหนึ่งเดือน ถึงตอนนั้นเขาจะต้องลงมือทำทุกอย่างได้เองและถึงตอนนั้นเขาจะเป็นที่ปรึกษาของแพตตี้ได้ดีที่สุด
“พร้อมยังครับคุณเดียร์”
“พร้อมแล้วครับเรามาเริ่มกันเลย”
เขาหยิบแฟ้มเอกสารมานั่งอ่านรายละเอียดของสินค้าและสาขาของห้างสรรพสินค้าในเครือของบริษัท คุณพ่อท่านนั่งมองเดียร์ที่ตั้งใจรับฟังทุกอย่างก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีของซึ่งน่าจะไปได้อีกไกลในวงการนี้
และทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างตั้งใจทำงานจนถึงเย็น แพตตี้บิดขี้เกียจนอนซบใบหน้าลงกับโต๊ะทำงานก่อนจะมองคุณเลขาตาละห้อย
“คุณเลขาทำไมมันเยอะขนาดนี้คะ แพตตี้อ่านไม่ไหวหรอกมันเยอะเกินไป”
“ใจเย็นสิคะนี่แค่เริ่มต้นเองนะคะ เรายังต้องเจออะไรอีกเยอะในเดือนนี้เพราะฉะนั้นทำใจให้สบายพร้อมเรียนรู้งานดีกว่าค่ะ”
“โอ๊ยยยยย แพตตี้ขี้เกียจค่ะไปนั่งคุยกับลูกค้าเฉยๆอย่างเมื่อเช้าสนุกกว่าอีกแถมยังได้กินของอร่อยด้วย”
เธอบ่นออกมาอย่างไม่ค่อยถูกใจเลย เอาจริงไม่เห็นต้องมานั่งท่องเอกสารเยอะแยะมากมายขนาดนี้เลย เป็นระดับผู้บริหารก็แต่งตัวสวยๆเจอลูกค้าก็พอแล้วหน้าที่อย่างอื่นให้พนักงานทำไปสิ เดียร์ที่เดินเข้ามาพอดีได้ยินหญิงสาวบ่นก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างเหนื่อยใจ
“คุณนี่นะทำดีได้ไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเอาอีกล่ะ เรียนจบมาตั้งเมืองนอกเมืองนาเกรดก็ดีทำไมไม่ใช้ความรู้ที่มีให้เป็นประโยชน์บ้างครับ จะเอาแต่โยนให้ลูกน้องทำมันไม่ได้หรอกนะ คุณเป็นเจ้าของบริษัทลูกน้องคือคนถูกจ้างถ้ามีที่ดีๆให้ไปเขาก็ไปไม่สนใจหรอกว่าเราจะอยู่ยังไง และคุณเองแหละจะลำบากถ้าต้องพึ่งพาลูกน้องอย่างเดียว”
“มาถึงก็บ่นเป็นชุดเลยอ่ะ ก็มันเหนื่อยนี่นางั้นเดียร์ก็ทำแทนสิมีนายอยู่ตรงนี้นายไม่ย้ายไปที่ไหนหรอกจริงป่ะ”
เธอยิ้มกว้างออกมาก่อนจะลุกขึ้นไปกอดคอชายหนุ่ม คุณเลขาอมยิ้มก่อนจะขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
“ก็ไม่ได้ทิ้งแต่มันคือบริษัทของคุณ ถ้าวันหนึ่งมีบริษัทอื่นมาเสนอเงินให้ผมสองล้านตำแหน่งดีๆผมก็ไปนะเอาจริง”
“นายจะทิ้งฉันลงเหรอ… นายจะทิ้งฉันจริงๆเหรอ”
หญิงสาวทำหน้าเศร้ากระพริบตาปริบๆมองชายหนุ่มเพื่อให้เขาสงสาร เดียร์ไม่ได้รู้สึกสงสารใดๆเพราะรู้ว่าที่เธอทำตอนนี้มันคือน้ำตาจระเข้ชัดๆ แต่ถึงแม้จะรู้ดีแต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้
“ผมไม่ทิ้งคุณหรอก แต่คุณต้องคิดว่าวันหนึ่งคุณก็ต้องทิ้งผม ถึงตอนนั้นคุณจะอยู่ได้เหรอ”
“อยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีนายอ่ะ งั้นรอฉันแต่งงานมีสามีก่อนถึงตอนนั้นค่อยไปได้มั้ย”
เธอเอ่ยออกมาอย่างหยอกล้อไม่ได้คิดอะไรแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่โอเคมากๆกับสิ่งที่เธอพูดออกมา เขาก็ลืมตัวไปว่าเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้ร่ำรวยคู่ควรกับเธอเลยสักอย่าง สุดท้ายเธอก็คงเลือกที่จะไปคบหากับคนที่เหมาะสมที่สุด
“ได้สิ ถ้าถึงตอนนั้นคุณก็ปล่อยผมไปตามทางก็โอเคนะแฟร์ๆดี ผมจะได้ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นมีครอบครัวสมบูรณ์แบบสักที”
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบทีเธอพูดอะไรยังไม่แคร์เขาเลยเพราะฉะนั้นก็ต้องเอาคืนบ้างแบบนี้แหละ
“นายมีสิทธิ์อะไรไปแต่งงานกับคนอื่น นายเป็นของฉันเข้าใจมั้ย”
เธอทำหน้าบึ้งบูดไม่พอใจชายหนุ่มมากที่พูดแบบนั้นโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของเธอเลย คนบ้าเอ้ยเก่งนักนะทำร้ายจิตใจคนอื่นนะ
“แล้วคุณเป็นของผมรึเปล่า… หรือว่าคิดจะไปกับใครก็ไป คิดอยากจะแต่งงานกับใครก็แต่ง ผมก็มีความรู้สึกนะ ถ้าผมมีบ้างคุณอย่าว่าแล้วกัน”
“ไม่มีทาง นายไม่มีทางทำแบบนั้น”
“รอดูแล้วกัน”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงท้าทายก่อนจะหันหลังเดินหนีไปทันที แพตตี้ตาโตก่อนจะรีบวิ่งไปห้ามเขาแล้วกอดเอวชายหนุ่มแน่น
“ไม่ให้ไปนะห้ามไป”
“แล้วถ้าผมห้ามคุณบ้างผมมีสิทธิ์มั้ยล่ะ”
เขาหันไปมองหญิงสาวจ้องหน้าอย่างต้องการคำตอบ เธอมองชายหนุ่มตามใสแป๋วกระพริบตาปริบๆก่อนจะพยักหน้าอย่างจำยอม
“มีสิทธิ์ก็ได้เค้ายอมแล้ว”
“ยังจะอยากไปแต่งงานกับคนอื่นอีกมั้ย…”
“ไม่แล้วไม่ไปแล้ว แต่ว่านายต้องเป็นของฉันนะห้ามไปมีผู้หญิงคนอื่น ไม่งั้นฉันจะสั่งลูกน้องไปยิงกิ๊กของนายทิ้งแล้วก็จะจับนายล่ามโซ่ไว้ที่คอนโด”
เธอเท้าสะเอวบ่นชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เขาหลุดขำออกมาก่อนจะดึงเธอมาสวมกอดไว้หลวมๆ
“ทำไมคุณถึงซาดิสม์ขนาดนั้น”
“ก็ถ้านายทำก่อนฉันไม่เอาไว้แน่จ้ะ!”
“โอเคเราสองคนแอบแซ่บกันไปแบบนี้แหละ จนแก่เฒ่าเลยเป็นไง”
เขาเอ่ยแซวหญิงสาวขำๆก่อนจะผละออกแล้วมองสบตากับเธอ แพตตี้พยักหน้าก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“แอบแซ่บแบบนี้ก็ดีนะมันตื่นเต้นดี”
“ยัยหื่นเอ้ย!”