บทที่ 2 ฝันที่ดับสลาย
“คุณเมมฟิสคะ...ฉัน...”
“คุณอาจจะมีข้อแก้ตัวมากมายสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผมว่าคุณ...หลีกไม่พ้นสำหรับข้อหามือที่สามที่ทำให้น้องสาวของผมต้องเลือกทางตายเพราะคุณ!”
“หยุดทีเถอะค่ะ”
นุชนาถสวนกลับไปเสียงสั่นทั้งที่กำลังควบคุมตัวเองได้ยากเย็นขึ้นทุกที หญิงสาวจิกปลายเล็บลงบนอุ้งมือตัวเองแต่ก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับความไร้เหตุผลที่คนแปลกหน้ามายัดเยียดข้อหาให้เธอถึงที่นี่
“คุณเมมฟิส...ฉันไม่รู้จักคุณ แต่ฉันก็ไม่ปฏิเสธว่าฉันไม่รู้จักน้องสาวของคุณ ใช่ค่ะ...ฉันรู้จักไมลี่ รู้ว่าเธอเป็นผู้จัดการใหญ่ในสายการบินยูเรเชีย แอร์ไลน์”
“และรู้ว่าน้องสาวของผมคบอยู่กับนีล เทอร์เนอร์...ดาราดังที่กำลังเป็นข่าวตอนนี้ มีคนบอกว่าเห็นคุณไปพบน้องสาวของผมก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตายผมถึงได้มาที่นี่เพื่อที่จะรู้ความจริงให้ได้ว่าคุณไปพบและพูดอะไรกับไมลี่”
คำพูดนั้นยิ่งทำให้นุชนาถอึ้งไปอีก ใบหน้าสวยซีดลงกว่าเก่าขณะหญิงสาวลำดับความคิดตัวเองในคืนก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมแสนเศร้า มันดูเหมือนรักสามเส้าทั้งที่ความจริงเธอตั้งใจจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นทว่าการณ์กลับเป็นว่าทุกอย่างเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เรียวปากอิ่มสวยระริกสั่นเหมือนตัวเธอที่สั่นสะท้านแต่ไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไรเมมฟิสก็ชิงคำรามใส่เธอเสียก่อน
“ผมยิ่งกว่าแน่ใจว่าคุณเป็นต้นเหตุให้น้องสาวผมฆ่าตัวตาย!”
“ไม่นะคะ...ฉันไม่ได้...”
“คุณรู้ทุกอย่างว่าพวกเขารักกันแต่ก็ยังหน้าด้านเข้าไปเป็นมือที่สามทำให้ความรักของคนอื่นแตกแยก!”
“เมมฟิส”
นุชนาถอุทานออกมาเสียงแหบแห้งขณะมองชายหนุ่มเขวี้ยงเศษแก้วในมือลงบนพื้นและไม่มีท่าทียี่หระต่อบาดแผลที่เลือดกำลังหยดไหลจนแดงเถือกถึงข้อมือ นัยน์ตาของเขาวับวาวและขึ้งเครียด ร่างเล็กบางที่นั่งตรงข้ามเริ่มสั่นและจุกในอกจนพูดอะไรแทบไม่ออกขณะกำมือทั้งสองไว้บนตักแน่น
เธอหายใจติดขัดเพราะความตื่นเต้นและตกใจอย่างมากต่อการกระทำของผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแต่มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับคนอีกคนที่ชื่อนั้นยังติดลึกในความทรงจำของหญิงสาว เมมฟิสสำแดงอารมณ์โกรธออกมาอย่างไม่ปิดเร้น ใบหน้าของเขาเป็นสีเข้มจัด ชายหนุ่มยิ้มหยันใส่ความเจ็บปวดของเธอที่ต้องตกเป็นจำเลยทั้งที่ไม่ตั้งใจอย่างเลือดเย็น ร่างสูงลุกขึ้นยืนและจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง
“หึ!...ทำไม...ทนฟังไม่ได้รึยังไงเวลาที่คนอื่นพูดความจริง พวกนักแสดงอย่างพวกคุณน่ะมันอยู่แต่ในโลกของความลุ่มหลง ใส่หน้ากากเข้าหากันจนไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมันแหลกเหลวซักแค่ไหน”
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะคะ”
“แล้วมันเป็นยังไง! คุณอยากจะบอกผมอย่างนั้นใช่มั้ยว่าคุณคือผู้บริสุทธิ์ งดงามทั้งที่เบื้องหลังเน่าเฟะและสกปรกยิ่งกว่าอีตัวข้างถนน”
“เมมฟิส!”
หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้างกับคำบริภาษรุนแรงจากบุรุษตรงหน้า นุชนาถสั่นไปทั้งตัว ถึงจะรู้ว่าเมมฟิสยังเข้าใจผิดเรื่องที่น้องสาวของเขาฆ่าตัวตายเพราะเธอเป็นมือที่สามแต่หญิงสาวก็แทบกระอักเมื่อได้ยินคำหยาบร้ายที่หลุดออกมาจากปากของเขา ร่างแน่งน้อยตัดสินใจลุกขึ้นอย่างเหลืออดทั้งไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาที่คอยแต่จะล้นออกมาให้อับอายได้
“ฉันจะไม่พูดกับคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างคุณ เรื่องทุกอย่างจบลงแล้วและฉันก็ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง”
“มันยังไม่จบแค่นี้หรอกรีส และผมก็จะไม่มีวันเชื่อน้ำหน้าดาราใจทรามอย่างคุณเป็นอันขาด!”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด คุณมาที่นี่เพื่อจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยคะ ถ้าหมดธุระแล้วฉันก็จะได้กลับไปทำงานของฉันซะที”
“คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น รีส เบคเลอร์!”
คำพูดสุดท้ายนั้นทำให้ร่างบอบบางที่กำลังจะหันหลังให้ต้องหยุดชะงัก เธอจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่แท้แล้วราวกับมีเงาซาตานครอบงำ เมมฟิสเหยียดริมฝีปากออกและสืบเท้าเข้ามาใกล้ นัยน์ตาข้นขุ่นจ้องนุชนาถเหมือนอยากฉีกทึ้งตัวเธอให้หลุดออกเป็นล้านชิ้น ร่างเล็กในชุดราตรีเกาะอกถอยกรูดไปด้านหลังแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือหนาที่เปรอะเปื้อนหยาดเลือดเอื้อมมาคว้าไหล่เปลือยไว้แน่น หญิงสาวปากสั่นระริก
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉัน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นได้หรอกนะคะเมมฟิส”
“ทำไมจะไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของคุณเป็นของผมแล้ว”
“ว่ายังไงนะคะ...โอ๊ย!”
เธอร้องเสียงหลงเมื่อมืออีกข้างของเขาตวัดรัดเอวบางแล้วดันร่างน้อยเข้าหาตัวก่อนจะก้มหน้าลงไปหา นุชนาถพยายามดันหน้าอกแกร่งยิ่งกว่าหินศิลาด้วยมือทั้งสองข้างแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทำให้ชายหนุ่มสะทกสะท้านใด ๆ เลย
“คุณต้องไปฝรั่งเศสกับผมคืนนี้!”
“ปล่อยฉันนะเมมฟิส!...คุณบ้าไปแล้ว ฉันจะไปได้ยังไงในเมื่อคืนนี้ฉันต้อง...”
“ชีวิตซูเปอร์สตาร์ของคุณจบลงที่นี่ คืนนี้แล้วรีส เบคเลอร์”
“เมมฟิส...ปล่อยฉัน!”
นุชนาถพยายามส่งเสียงร้องด้วยความตกใจกับความกักขฬะของเมมฟิสที่จู่โจมและคุกคามอย่างไร้เหตุผล ทว่ายิ่งขัดขืนดิ้นรนก็เหมือนยิ่งยุให้เขากอดรัดร่างบอบบางแน่นขึ้นจนเธออึดอัดหายใจแทบไม่ออก