“หนูรักคุณยายมากนะคะ”
“ยายก็รักหนู”
“คุณยาย...” นุชนาถกลั้นก้อนสะอื้นก่อนกรอกเสียงลงไปอีกครั้ง “หนูต้องไปแล้วนะคะ”
เสียงนั้นเบาหวิวก่อนหญิงสาวจะวางสายและเม้มปากเข้าหากันแต่แล้วเธอก็ต้องตระหนกเมื่อคางเรียวถูกนิ้วแกร่งบีบไว้แน่น เมมฟิสโน้มใบหน้าลงมาเกือบชิดและเค้นเสียงหนักหน่วง
“โทรไปบอกผู้จัดการของคุณด้วยว่าคืนนี้คุณจะไม่ไปงานพรมแดงและจะเดินทางไปฝรั่งเศสไม่มีกำหนดกลับ”
“เมมฟิส...”
นุชนาถน้ำตาไหลพราก ใบหน้าซีดสะบัดไปเล็กน้อยเมื่อเขาคลายนิ้วที่กดบนคางของเธอให้เป็นอิสระ
“คุณทำเกินไปแล้วนะคะ คุณบังคับฉันแบบนี้ไม่ได้”
“ผมทำได้!” เขากระแทกเสียงขณะเลิกคิ้วพร้อมทั้งขบกรามแน่น “คุณหนีผมไม่พ้นหรอกรีสเพราะสิ่งที่คุณก่อไว้มันเลวร้ายมากเกินกว่าจะให้อภัย”
“ฆ่าฉันสิคะ! ถ้าเกลียดฉันนักคุณก็ฆ่าฉันเสียเลย”
“ไม่!” เขาคำรามลึกและจ้องนัยน์ตาคู่งามที่มีน้ำหลั่งล้น “ให้คุณตายผมก็ยังไม่ได้ความสะใจ ผมจะให้คุณอยู่ชดใช้ความผิดอย่างทุกข์ทรมานจนแทบกระอักเลือดตายไปเลย!”
“ปล่อยฉันนะ”
“ทำตามที่ผมบอก! โทรไปหาผู้จัดการส่วนตัวของคุณเดี๋ยวนี้ บอกว่าคุณจะไม่รับงานใด ๆ ทั้งสิ้นนับจากนี้เป็นต้นไป”
“แล้วถ้าฉันไม่ทำตามที่คุณบอก”
“อยากลองดีกับผมใช่มั้ยรีส...เอาซี...อยากลองของก็เอา”
“ว๊าย!...เมมฟิส...นี่คุณจะทำอะไร”
นุชนาถกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเขาดันตัวเธอให้นอนราบลงบนพื้นพรมแล้วทาบทับร่างกายหนาใหญ่เหนือร่างเล็กที่พยายามดิ้นสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่อาจต้านแรงกำลังมหาศาลของเขาได้ เมมฟิสจับข้อมือทั้งสองของเธอตรึงไว้และคำรามลั่น
“ถ้าคุณไม่ยอมโทรไปผมจะข่มขืนคุณตรงนี้แล้วอัดคลิปวีดีโอส่งไปให้ผู้จัดการส่วนตัวของคุณ เธอจะได้รู้ไงว่าที่คุณไม่ยอมไปงานเพราะมัวแต่เล่นเซ็กส์อยู่กับผู้ชายในโรงแรม”
“อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ! ปล่อย!”
“จะโทรหรือไม่โทร”
“คนบ้า!...โอ๊ย!”
นุชนาถร้องลั่นเพราะข้อมือของเธอถูกมือหนากดลงกับพื้นเต็มแรง ร่างเล็กแอ่นตัวขึ้นเพื่อดันคนตัวใหญ่ออกห่างแต่ยิ่งดิ้นกลับยิ่งทำให้เธออ่อนเปลี้ยและไม่รู้ตัวเลยว่าแรงบดเบียดระหว่างตัวเธอกับเขาทำให้เมมฟิสรู้สึกถึงแรงขมวดรัดของกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กดแน่นอยู่บนร่างบอบบาง
“ฉันจะโทรไปแต่คุณต้องปล่อยฉันก่อน”
หญิงสาวกลั้นใจโพล่งออกมาในท้ายที่สุดเพราะรู้ว่าขัดขืนไปเธอก็มีแต่จะพ่ายแพ้และเจ็บปวด และเมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นเขาก็เหยียดรอยยิ้มหยันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ยัดใส่มือเรียวบางที่ปลกเปลี้ย นุชนาถระบายลมหายใจเฮือกใหญ่แต่แล้วเมมฟิสก็ไม่ยอมเลื่อนลำตัวที่ทาบทับอยู่เหนือร่างเล็กออก ตรงข้ามเขากลับนาบร่างลงแนบชิดและกดทุดสัดส่วนหนาใหญ่ลงกับร่างแน่งน้อยเบื้องล่าง
“เมมฟิส...ออกไปนะคะ ถ้าคุณอยู่อย่างนี้แล้วฉันจะโทรหาผู้จัดการของฉันได้ยังไง ฉันหายใจไม่ออก”
“ผมจะฟังคุณพูดกับผู้จัดการของคุณ”
เขายืนกรานที่จะไม่เลื่อนลำตัวหนาหนักออก นุชนาถกำสมาร์ทโฟนในมือแน่นและนาทีนั้นเองที่ดวงหน้างามอยู่เกือบชิดติดกับใบหน้าคร้ามเข้มที่ก้มลงมาจนริมฝีปากของเขาแทบจะชนกับกลีบปากสีชมพูฉ่ำหวาน ลมหายใจร้อนของเมมฟิสราดรดลงบนปลายจมูกและเรียวปากอิ่ม มันเป็นสิ่งประหลาดสำหรับหญิงสาวเพราะเธอไม่เคยอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน
ทว่าเธอกลับต้องเตือนตัวเองว่าแท้แล้วเมมฟิสเป็นคนอันตราย คนมุทะลุและเจ้าอารมณ์อย่างเขาอาจบ้าเลือดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉะนั้นเธอจึงต้องทำตามคำบัญชาเด็ดขาดอย่างไม่อาจเลี่ยง นุชนาถต่อสายหาผู้จัดการส่วนตัวของเธออย่างทุลักทุเลเพราะร่างหนาไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ เธอรอฟังสัญญาณโทรศัพท์ด้วยความหวาดหวั่นกระทั่งมีเสียงตอบกลับมา
“รีส...นั่นคุณอยู่ที่ไหนน่ะ นี่มันจะถึงเวลาที่ต้องไปงานเลี้ยงแล้วนะ”
เสียงนั้นดังมาจากอักฝั่งอย่างร้อนใจ นุชนาถกลั้นความรู้สึกของตัวเองก่อนตอบกลับไปว่า
“แคโรไลน์...ฉันคงไม่ไปงานเลี้ยงแล้วล่ะค่ะ”
“อ๊าว! ทำไมล่ะ...รีส...นี่คุณอยู่ไหนได้โปรดบอกฉันได้มั้ย แล้วมีเหตุผลอะไรถึงจะไม่ไปงานเลี้ยง รู้มั้ยว่างานพรมแดงครั้งนี้สำคัญกับคุณมากนะเพราะมีการเชิญเฉพาะดารากับเซเลบดาวรุ่งชื่อดังทั้งนั้น”
“ฉันจะ...เดินทางไปฝรั่งเศส...คืนนี้ค่ะ”
“ว่าอะไรนะ!...รีส...จะบ้ารึไง คุณจะเดินทางไปฝรั่งเศสโดยที่ไม่ได้บอกฉันล่วงหน้า แล้วงานเลี้ยงล่ะ”
“ฟังนะคะ...ฟังฉันนะแคโรไลน์ ฉันจะไปฝรั่งเศสและงดรับงานแสดงหรือออกงานใด ๆ ก็แล้วแต่โดยไม่มีกำหนด...ขอโทษด้วยนะคะ ฉันต้องขอโทษคุณจริงๆ...ฉันมีเหตุผลที่สำคัญมากจริงๆ”
“รีส...หรือว่าที่คุณทำอย่างนี้เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับนีล เทอร์เนอร์...คุณอยากจะหลบหน้าสื่ออย่างนั้นน่ะหรือ”
ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไปในครั้งนี้เลย มันเป็นความจำยอมและถูกบังคับต่างหาก...เธออยากตะโกนบอกผู้จัดการส่วนตัวใจจะขาดแต่จะขยับตัวไปทางไหนหรือคิดจะพุดอะไรตามอำเภอใจไม่ได้เพราะถูกร่างหนาใหญ่กดทับอยู่เบื้องบน เมมฟิสจ้องมองและคอยฟังทุกคำพูดของเธอ นุชนาถจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลหม่นคู่นั้นด้วยความคับแค้นขณะตอบผู้จัดการส่วนตัวกลับไปด้วยเสียงหนักแน่น