เสียงอึกทึกของเครื่องดนตรีในชั้นล่าง มันทำให้กลบเสียงครางของคนที่ร่วมรักกันอยู่ชั้นบน ไทก้า ลุกขึ้นจากเตียงที่มีสาวสวยนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนา ด้วยความอายกับการร่วมสัมพันธ์กันครั้งแรก
อิ้ง มองการกระทำของเจ้าของที่นี่ ด้วยใจที่จดจ่อ เพราะหลังจากเสร็จสัมพันธ์กันแล้วเขาก็เอาแต่เงียบ จนเธออดไม่ได้ที่จะต้องพูดขึ้นก่อน
“เรื่องของเรา พี่จะเอายังไงต่อ”
ชายหนุ่มเจ้าของห้องหยุดเท้า ชะงักในคำถาม ไทก้าค่อยๆ หันมามองสาวที่ตนเผด็จศึกไปเมื่อครู่ แล้วน้ำเสียงเยือกเย็นของเขาก็พูดขึ้น
“พี่ไม่ชอบมีพันธะ อิ้งก็รู้ เรื่องของเราไม่สมควรจะให้ใครรู้ ยิ่งไอ้วินกับคุณภัทร หวังว่า อิ้งจะเข้าใจใช่ไหม”
ไม่คิดเลยว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากเขา ทำให้อิ้ง อึ้งไป ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงจนเห็นได้ชัด ไม่คิดว่าการหลับนอนกับคนที่เธอแอบมีใจจะได้กลับมาแบบนี้
“ทำไมพี่พูดแบบนั้นละ”
“อิ้ง อิ้งเป็นคนเดินเข้ามาในชีวิตพี่เอง อิ้งก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง นิสัยพี่ อิ้งก็รู้นิ”
“แต่….”
“หากอยากคบกับพี่อยู่ เรื่องคืนนี้จะไม่มีใครรู้ทั้งนั้น”
แทบสะอึกเหมือนมีก้อนกลมๆ มาติดที่ลำคอของเธอจนไม่อาจกลืนมันลงได้ หวังว่าเขาจะรักบ้างเพราะมอบกายให้เขาไปแล้ว แต่สิ่งที่ได้คือความเจ็บใจแทน หากเพื่อนเธอรู้มีหวัง ภัทราด่าเธอยับแน่นอน
ค่อยๆ ย่างขาลงจากเตียงด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ไม่รู้ว่าจะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอย่างไร ก่อนหน้าก็เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อน แต่พอเจอเข้ากับตัวดันพลาดเสียเอง
อิ้ง เดินไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่ที่พื้น อดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกไว้จนไม่กล้ามองหน้าเขาคนนั้น ส่วนไทก้า กับหยิบเพียงบุหรี่ขึ้นมาแล้วจุดไฟสว่างไล่ แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาโดยไม่พูดหรือสนใจในตัวอิ้งเหมือนก่อนหน้า
อิ้งหอบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ ด้วยใบหน้าที่เศร้ามอง หลังจากที่เข้ามาแล้วเธอถึงกับปล่อยโฮ
“ฮือ ฮึก ทำไมพี่ใจร้ายแบบนี้”
เธอไม่คิดเลยว่า การที่ยอมให้ใครคนหนึ่งเพราะรักจะต้องโดนปฏิเสธแบบนี้ เธอคิดว่าการมีอะไรกันก็เหมือนความรักที่เธอมอบให้เขา หากเขาไม่รักเธอทำไมต้องทำตัวให้ความหวังเธอด้วย
อิ้ง ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นาน เธอก็เดินออกมา สายตาก็เหลือบไปมองคนที่นั่งดูดบุหรี่อยู่ที่โซฟา แต่ใบหน้าหล่อไม่แม้ที่จะเงยขึ้นมามองที่หน้าของเธอเลย
“พี่ไทก้า อิ้งจะไปแล้วนะ”
“อืม”
น้ำเสียงที่ขานรับแค่สั้นๆ มันทำให้เธอปวดหนึบไปถึงขั้วหัวใจ ทำไมคนที่เธอคิดว่าเขาจะจริงใจกับเป็นคนประเภทนี้เสียได้
อิ้ง เดินออกมาจากห้อง ทว่าตอนนี้ข้างบนส่วนที่เป็นห้องของชายหนุ่มกับไม่มีใครย่างกายเข้ามา แม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างเดย์
ร่างบางเดินลงมาจากบันได ที่มีผู้คนนั่งดื่มบริเวณด้านล่างจนเนืองแน่น ไฟของผับที่สลัวเห็นเป็นเงา ทำให้เจ้าของที่นี่อีกคนเหลือบไปเห็น ด้วยความแปลกใจ เดย์จึงลุกออกจากโต๊ะแคชเชียร์ แล้วสาวเท้าไปหาอีกคนที่ใบหน้าไม่มีแม้รอยยิ้ม
“อิ้ง..ไหนบอกว่ากลับแล้วไง ทำไมยังอยู่”
เธอช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าที่ฉีกยิ้มให้ แล้วเธอก็ยิ้มตอบแต่รอยยิ้มนั้นมันดูไม่สดใสเท่าไหร่นัก
“อ๋อ พอดีอิ้งเห็นเพื่อนเลยกลับเข้ามาคุย”
“โต๊ะไหนละ”
ประโยคคำถามของเดย์ทำให้อิ้งเลิ่กลัก ที่จริงเธอไม่ได้กลับเข้ามาหาเพื่อน แต่ที่ขอแยกกับเจนและบอกว่าจะกลับบ้านเพราะแอบนัดกับไทก้าไว้ก่อนหน้าแล้ว
“เพื่อนกลับแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ”
เดย์ไม่ได้สงสัยอะไรในตัวรุ่นน้อง ในเมื่อเธอบอกมาแบบนั้น ทำเพียงพยักหน้ารับ ก่อนที่อิ้งจะขอตัวลา
“งั้น อิ้ง กลับจริงๆ แล้วนะ”
“ขับรถดีๆ ละ”
“ค่ะ”
ตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนของอัศวิน อีกทั้งเธอก็มาที่ผับนี้บ่อย สรรพนามในการเรียกขานก็เปลี่ยนไปดูจะสนิทชิดเชื่อมากขึ้น เมื่อก่อนเรียกคุณ ตอนนี้เรียกพี่ ยกเว้นสามีเพื่อนที่เธอยังเรียกคุณอยู่
อิ้ง กลับมาที่บ้านตัวเองพร้อมร่างกายที่อิดโรย กับศึกที่เจอเมื่อครู่ ดีหน่อยว่าการร่วมรักกับเขา เขาเป็นคนป้องกันไม่อย่างนั้นเธอคงต้องมานั่งคิดเพราะการปฏิเสธความสัมพันธ์
เธอทรุดกายลงนั่งที่เตียงนอน พร้อมยกมือมาปิดที่ใบหน้าพร้อมการถอนหายใจเฮือกใหญ่
เฮือก
เมื่อก่อนเธอเป็นคนมั่นใจในความรักมาก หากตนเองมีรักจะไม่ยอมให้เป็นเหมือนเพื่อน อกหักเมามายจนเสียท่าคุณวิน แต่สิ่งที่คิดมานั้น มันดันเป็นโชคดีของภัทรา เพราะครั้งนั้นทำให้เพื่อนได้เป็นถึงท่านประธานในตอนนี้
“ภัทร ถ้ามึงรู้ว่ากูยอมพลีกายให้คนที่กูรักแบบโง่ๆ มึงจะด่ากูไหมวะ”
ประโยคแผ่วเบาที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวมันบ่งบอกได้ว่า เธอกำลังน้อยใจกับตัวเองอยู่
**บางครั้งความรักก็อยู่เหนือเหตุผล อิ้งเธอไม่ได้โง่หรอก เพราะเธอรักเขา สักวันเขาจะเห็นค่า