บทที่2
แรกพบ
U Bar
ถือว่าที่นี่เป็นสถานที่อโคจรร้านใหญ่สุดในตรอกสำราญที่มีผู้บริหารอย่างองศา ผู้ดูแลสืบทอดต่อจากบิดาเขาถูกวางหมากเอาไว้และต้องเป็นเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะควบคุมดูแลตรอกสำราญแห่งนี้ เสียงเพลงดังมาจากด้านล่างชายหนุ่มร่างกายกำยำลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วโยนเงินหลายพันลงบนเตียง หญิงสาวที่ถูกเรียกขึ้นมารีบหยิบเงินหอบเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกมาเพราะตอนนี้หมดหน้าที่ของเธอแล้วหากพูดมากเกินกว่าเหตุคงถูกเขาจับโยนออกมาให้ลูกน้องด้านนอกรับช่วงต่อ
"ไม่ได้เรื่อง!"
พูดจบเขาก็รีบเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างตัวและไม่ลืมที่จะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างสิ่งสกปรกโสมมออกจากตัว เขามองหน้าตัวเองผ่านกระจกใสแม้จะมีคำถามอยู่ในใจว่าทำไมพ่อถึงเลือกให้เขามาบริหารที่นี่ผิดกับน้องชายที่ถูกส่งไปทำงานที่ต่างประเทศไม่ต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเหมือนกับเขาในตอนนี้
หลังจะอาบน้ำเสร็จเขาก็เรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาเพื่อฟังรายงานสถานการณ์ของตรอกสำราญเขาไม่ชอบเดินตรวจตามร้านต่างๆ เพราะมันเป็นแหล่งสกปรกนอกเสียจากร้านไหนไม่ยอมจ่ายส่วยหรือปิดร้านหนีต่อให้หนีไปที่ไหนเขาก็จะลากกลับมาทุกครั้ง
"วันนี้ได้ข่าวว่าป้าโบตั๋นไปหาหมอมาครับดูท่าอาการจะหนักถ้าเกิดตายไปธุรกิจคงตกเป็นของลูกสาว"
"อายุเท่าไหร่?"
"อายุ 21 ครับตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 คณะบริหารธุรกิจหน้าตาค่อนข้างดีแต่ไม่รู้ว่ารับงานด้วยหรือเปล่า"
"กูไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น กูอยากรู้แค่ว่าถ้าป้าโบตั๋นตายไปใครจะมีปัญญาใช้หนี้ที่เหลือเงิน 5 ล้านไม่ใช่ 5 บาท!"
เขาตวาดลั่นจนลูกน้องคนสนิทสะดุ้งโหยงรีบก้มหน้าประสานมือเข้าหากัน
"จับตาดูไว้ให้ดีอย่าให้ลูกยายป้าโบตั๋นหนีไปก็แล้วกัน"
"ครับคุณองศา"
เมื่อลูกน้องคนสนิทออกไปจากห้ององศาก็เดินล้วงกระเป๋ามายืนอยู่ที่หน้าต่างเขามองไปยังร้านอาหารโบตั๋นที่อยู่เยื้องกับบาร์ของเขาสภาพร้านอาหารโบตั๋นในตอนนี้ดูทรุดโทรมคงเป็นเพราะต้นไม้ใหญ่ล้มป่วยจึงไม่มีเวลาและไม่มีเงินมากพอที่จะบูรณะแต่ถึงอย่างไรคนอย่างองศาก็ไม่ยอมขาดทุนอยู่แล้วถ้าป้าโบตั๋นจากไปเขาก็แค่ยึดทุกอย่างมาเป็นของเขาแม้แต่สาวบริการที่อยู่ยังร้านโบตั๋นก็จะต้องทำงานต่อไปโดยเขาจะส่งคนไปบริหารจัดการเองมีหรือที่เขาจะยอมขาดทุนเผลอๆ ได้กำไรมากกว่ากิจการของที่อื่นเสียอีก
คืนนี้องศาอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเขากับลูกน้องนับสิบคนเดินมายังร้านอาหารโบตั๋นที่ตอนนี้แทบไม่มีลูกค้านั่งอยู่เลย สาวประเภทสองอย่างละออรีบลุกขึ้นยืนก้มหัวคำนับเล็กน้อยลูกน้องขององศาจึงรีบเข้ามาจัดการโต๊ะนั่งมุม VIP ที่ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวาย
"วันนี้คุณองศาให้เกียรติมาทานอาหารที่นี่ รบกวนช่วยบริการให้เต็มที่ด้วยอย่าให้มีปัญหา"
"ได้ค่ะเดี๋ยวละออจัดการให้ค่ะ" สาวประเภทสองรีบกดเรียกพนักงานเสิร์ฟแต่นาทีนี้คงไม่มีใครที่จะเพียบพร้อมเท่ากับโยเกิร์ตอีกแล้วเธอจำใจต้องเดินออกมารับออเดอร์ที่โต๊ะขององศาโดยกฎข้อห้ามคือห้ามมองหน้าและสบตากับชายหนุ่ม
"สวัสดีค่ะคุณองศาอันนี้เป็นเมนูของที่ร้านค่ะ" โยเกิร์ตส่งเมนูให้กับลูกน้องขององศาพวกเขาต้องตรวจให้ละเอียดว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมก่อนจะส่งให้เจ้านายได้เปิดดู
องศาเปิดไปห้าหน้าก็เห็นแต่เมนูที่ขีดทิ้งเอาไว้เป็นเมนูที่ไม่มีวัตถุดิบส่วนใหญ่จะมีแค่หมูและไก่ของทะเลก็แทบไม่มีเลยเขาปิดเมนูก่อนจะโยนออกไปด้านหน้าทำเอาโยเกิร์ตรีบก้มหน้าประสานมือเข้าหากันเธอกลืนน้ำลายลงคอไม่รู้จะทำยังไงจะถอยหลังออกไปก็คงไม่ได้ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเหมือนที่ใครหลายคนบอกเอาไว้จริงๆ
"ไม่แปลกที่ร้านจะเจ๊งมีแต่หมูกับไก่คนกินก็เบื่อ ป้าโบตั๋นลืมไปหรือเปล่าว่าเป็นหนี้ฉันอยู่ 5 ล้าน" องศาหันมามองหน้าพนักงานที่ก้มมองพื้นแม้เธอจะหน้าตาดีผิวพรรณขาวผ่องใบหน้าแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อยดูน่ารักสมวัย
"ช่วงนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าค่ะแม่เลยไม่มีเงินมากพอที่จะลงของทะเล"
"เธอเป็นลูกของป้าโบตั๋นหรือไง?"
"ใช่ค่ะวันนี้แม่หนูไปหาหมอมาตอนนี้นอนพักอยู่บนห้องเลยไม่ได้มาต้อนรับคุณองศาด้วยตัวเอง"
องศาพินิจพิจารณาใบหน้าทรวดทรงองค์เอวของโยเกิร์ตผู้หญิงคนนี้สวยแบบมีราคา เธอคงเป็นเหมือนช้างเผือกในดงโสเภณีแห่งนี้
"งั้นเอาราดหน้าหมี่กรอบมาให้ฉัน"
"ได้ค่ะคุณองศาจะรับอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ"
"ไม่"
"ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" โยเกิร์ตรีบเดินถอยหลังออกมาก่อนจะรีบจ้ำกลับเข้ามาในครัวเธอส่งเมนูให้กับภูริหลังจากนั้นทุกคนก็ช่วยกันทำเมนูนี้ออกมาอย่างดีที่สุดโยเกิร์ตเดินกลับมาเป็นโต๊ะ VIP เพื่อเสิร์ฟราดหน้าหมี่กรอบให้กับชายหนุ่มจากนั้นเธอก็รีบเดินกลับออกมาเธอเหลือบมองเขาเพียงแค่เสี้ยววินาทีใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวเขาหล่อชนิดที่ว่าผู้ชายที่เธอเคยเห็นมาตั้งแต่เกิดไม่มีใครหล่อเท่าเขาได้เลย
"ไอ้ธนัทมึงไปสืบมาว่าลูกสาวของป้าโบตั๋นรับงานด้วยหรือเปล่า"
"ครับคุณองศา"
----------------------
องศาแกจะทำอะไร ถ้าแกรังแกน้องฉันจะข่วนหน้าให้