บทที่6
ไบโพล่า
โยเกิร์ตเดินกลับเข้ามาในร้านไม่ทันไรเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องให้ปากคำจนเกือบฟ้าสางและก็เป็นไปตามคำพูดขององศาร้านของเธอถูกสั่งปิดจนกว่าคดีนี้จะสิ้นสุดลง
"ป้าโบตั๋นครับ" ภูริเดินมาหาเจ้านายพร้อมด้วยน้องสาวอย่างปุยนุ่นเขามีความในใจจะบอกกับท่านและหวังว่าการตัดสินใจของเขามันจะอช่วยแบ่งเบาภาระของโยเกิร์ตกับแม่เธอบ้าง
"ว่าไงลูก"
"ผมกับน้องคุยกันแล้วว่าเดือนนี้เราสองคนจะไม่รับค่าแรงครับ"
"ไม่ได้นะตาภูเรื่องค่าแรงยังไงป้าก็ต้องจ่ายส่วนเรื่องร้านถ้ามันถึงเวลาต้องปล่อยป้าก็ยอม"
"ถึงแม่ปล่อยร้านนี้ไปก็ใช่ว่าหนี้สินเราจะไม่ต้องจ่ายนะแม่เราเอาเงินเขามาทำทุนโปะหนี้ธนาคารตั้ง 5 ล้าน"
"ผมว่าผมจะไปทำงานพิเศษอีกสักที่เผื่อจะได้เงินตรงนั้นมาช่วยเหลือป้าโบตั๋นบ้าง"
"พี่ภูอย่าให้ต้องถึงขั้นนั้นเลยพี่เองก็ทำงานเหนื่อยมากควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง"
"พี่ไม่มีพ่อมีแม่ส่วนปุยนุ่นก็ดูแลตัวเองได้แล้วป้าโบตั๋นครับถ้าเกิดผมจะขอดูแลป้าโบตั๋นกับโยเกิร์ตจะได้ไหมครับ"
ทุกคนที่นั่งอยู่พากันอึ้งเมื่อหนุ่มหล่อประจำร้านโบตั๋นประกาศลั่นว่าจะขอดูแลโยเกิร์ตและแม่แต่โยเกิร์ตเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่าพี่น้องเธอเห็นภูริเป็นเพียงพี่ชายที่เธอรักและเคารพเพียงเท่านั้น
"เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราสองคนนั่นแหละป้าตัดสินใจไม่ได้หรอกภูริ"
"โยเกิร์ตว่าโยเกิร์ตจะหาทางไปคุยกับคุณองศาก่อน คุณองศาดูท่าจะไว้ใจโยเกิร์ตมากกว่าคนอื่นโยเกิร์ตขอบคุณมากเลยนะคะพี่ภูที่พี่ยื่นมือมาช่วยโยเกิร์ตทุกครั้งโยเกิร์ตซึ้งใจจริงๆ ค่ะ"
"ก็เพราะว่าพี่...."
"พี่โบตั๋นเกิดเรื่องแล้วพี่!" สาวประเภทสองวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเมื่อจู่ๆ สาวสวยทั้งหลายก็พากันมาขอลาออกเพราะว่าร้านนี้ถูกปิดชั่วคราวแต่พวกเธอก็มีภาระค่าใช้จ่ายทุกวันจึงขอลาออกอย่างพร้อมเพรียงกันแม้โบตั๋นจะเสียดายแต่ก็ต้องยอมรับความจริง
"เอาเถอะในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องปล่อยถ้าพวกเด็กๆ มันอยากลาออกก็ให้มันออกกันไป"
โยเกิร์ตแทบร้องไห้ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังพังทลายแต่ลึกๆ เธอก็แอบรู้สึกดีใจที่อาชีพโสเภณีกำลังจะจบลง
ความวุ่นวายของร้านโบตั๋นถูกรายงานให้องศาได้รู้ความดื้อดึงของสองแม่ลูกกำลังทำให้ทุกคนเดือดร้อนเมื่อสาวๆ แห่กันขอลาออกสองแม่ลูกจะทำยังไง
"คุณองศาครับผมว่าเรายื่นมือเข้าไปช่วยเลยดีไหมครับ"
"ปล่อยไปก่อนกูอยากรู้ว่าเด็กคนนั้นจะใจเด็ดแค่ไหน"
"ผมรู้สึกว่าเชฟประจำร้านที่ออกมาช่วยเธอประกาศไม่ขอรับเงินเดือนเพื่อให้เธอนำเงินส่วนนั้นมาใช้หนี้คุณองศาครับ"
"ปล่อยมัน มันอยากอดตายก็ปล่อยมันมึงคอยจับตาดูลูกของป้าโบตั๋นเอาไว้ก็แล้วกัน"
"ครับคุณองศา"
หลังจากนี้องศาไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเขาปล่อยให้สองแม่ลูกจัดการชีวิตตัวเองแต่เขาคงไม่รู้ว่าโบตั๋นเป็นผู้หญิงแกร่งถึงร้านจะถูกสั่งปิดเธอก็พาลูกสาวทำข้าวกล่องออกไปขายในตอนเช้าตามหน้าโรงเรียนในชุมชนแม้จะได้เงินมาไม่เยอะมากแต่ก็ยังพอใช้จ่ายส่วนนึงก็เก็บเอาไว้ใช้หนี้
"ข้าวคลุกกะปิไหมคะพี่ชาย ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูก็มีนะคะ"
โยเกิร์ตตะโกนเรียกลูกค้าแต่เพราะความน่ารักของเธอทำให้ลูกค้าต่างแวะเวียนเข้ามาซื้อคนละกล่องสองกล่อง
"แม่ค้าน่ารักแบบนี้ทำไมไม่ไปเป็นดาราจ๊ะ"
"อย่าดีกว่าค่ะหนูเป็นคนขี้อาย" เธอตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะไม่ถึงชั่วโมงข้าวกล่องที่ทำออกมาก็ขายหมดเกลี้ยงสองแม่ลูกช่วยกันนับเงินแล้วยิ้มให้กัน นี่คงเป็นเงินก้อนแม้จะไม่ได้มากมายแต่ก็เป็นเงินที่เธอกับแม่หาได้ด้วยความสุจริต
อีกด้านธนัทถือจานข้าวคลุกกะปิเข้ามาเสิร์ฟให้เจ้านายที่กำลังนั่งเคร่งเครียดตรวจงานบัญชีเขามองข้าวในจานแล้วมองหน้าลูกน้องคนสนิทปกติแล้วเขาไม่ทานอาหารพวกนี้ยิ่งเป็นข้าวตามตลาดนัดเขายิ่งไม่เคยแตะมันเลย
"ใครสั่งให้มึงซื้อเข้าข้างทางมาให้กู"
"แต่ข้าวคลุกกะปิเป็นฝีมือของป้าโบตั๋นกับลูกสาวนะครับทั้งสองช่วยกันทำข้าวกล่องออกไปขายตามหน้าโรงเรียนแล้วก็แหล่งชุมชนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยครับ"
"ใจคอจะไม่คิดมาขอร้องความช่วยเหลือจากกูเลยหรือไงวะ!" องศาทุบโต๊ะด้วยความโมโหนี่ก็ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่โยเกิร์ตจะมาขอร้องความช่วยเหลือจากเขาเลย
"ผมว่าคงไม่มาหรอกครับตอนนี้คุณโยเกิร์ตขายข้าวกล่องจนมีลูกค้าประจำแล้ว พนักงานโรงงานนักเรียนนักศึกษาคนวัยทำงานทั้งผู้หญิงผู้ชายโดยเฉพาะผู้ชายหน้าตาดีแวะเวียนมาซื้อข้าวกล่องของเธอทุกวัน"
"มึงจะไปไหนก็ไปไอ้นัท!"
"ครับคุณองศา" ธนัทเดินมาหยิบจานข้าวคลุกกะปิหวังจะหยิบออกมาจากห้องแต่กลับถูกเจ้านายมองตาเขียวปั๊ดใส่เขาจึงหมุนตัวกลับมามือเปล่า เจ้านายของเขายิ่งกว่าไบโพล่าอีกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
"พี่นัทผู้หญิงจากร้านโบตั๋นมาสมัครงานหลายคนเลย เอายังไงดีคะ" สายธารวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกข่าวเธอเป็นน้องสาวของธนัทเรียนอยู่ปีสี่แล้วเป็นเด็กทุนขององศาแถมเรียนดีเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงศ์ตระกูล
"ก็คงต้องรับที่พวกเขาตกงานก็เพราะเจ้านายของพวกเรา"
"ได้งั้นหนูลงไปแจ้งข้างล่างก่อนว่าแต่ห้องจะมีพอเหรอพี่ ปรึกษาคุณองศากันก่อนดีไหม"
"เดี๋ยวพี่จัดการเองตอนนี้คุณองศากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่"
----------------------
ปวดหัวกับคุณองศาเหลือเกินไอ้คนนิสัยไม่ดี