ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีกรมเดินเข้ามาภายในมูนไลต์พาเลซผ่านประตูทางเข้าพิเศษ ตลอดทางมีคนคอยเดินนำและยังมีบอดีการ์ดประจำตัวอีกสองคนขนาบข้างไม่ห่าง จนกระทั่งเข้ามาถึงห้องวีไอพีบริเวณชั้นสามชายหนุ่มจึงนั่งลงบนโซฟากำมะหยี่สีแดง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสำหรับนายใหญ่
เลโอนาร์โด กอนซาเลซ เป็นเจ้าของไนต์คลับหรูแห่งนี้ และเขาจะเข้ามาที่นี่ทุกวันศุกร์เพื่อรับรายงานประจำสัปดาห์จากผู้จัดการร้าน แผ่นหลังกว้างเอนพิงโซฟาพร้อมรับแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพันมาดื่ม โครงหน้าคมชัดตามแบบฉบับคนเชื้อสายตะวันตกไม่บอกความรู้สึกใด ๆ เป็นที่ชินตาของทุกคนในร้านไปแล้ว
“ขออนุญาตรายงานครับนาย…”
ชายหนุ่มพยักหน้าน้อย ๆ ปล่อยให้ผู้จัดการร้านเอ่ยรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในรอบสัปดาห์อย่างเช่นทุกครั้ง เลโอนาร์โดเพียงแค่นั่งฟังเงียบๆ มีบางครั้งที่คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินเรื่องขัดใจ ทั้งการมีเรื่องกันในร้านของแขกจนข้าวของเสียหาย การที่แขกทำร้ายร่างกายเด็กขายบริการ ไปจนถึงตำรวจนอกเครื่องแบบที่แอบมาสอดส่องดูลาดเลา
“อะไรที่มันเป็นปัญหา ก็จัดการให้เรียบร้อย” เลโอนาร์โดบอก ไม่ต้องหันไปมองคู่สนทนาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นการออกคำสั่งกับบอดีการ์ดทั้งสองของตน ถึงแม้เขาจะทำธุรกิจที่ไม่ค่อยขาวสะอาดมากนักแต่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อความวุ่นวายที่จะสร้างปัญหาให้กับร้านของเขา
แขกที่อาละวาดและทำร้ายร่างกายเด็กในร้านจะโดนแบล็กลิสต์ไม่ให้เข้ามาใช้บริการอีกตลอดชีวิต ส่วนเด็กขายบริการที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินเยียวยาและการดูแลรักษาพยาบาลจนกว่าจะหายดี ส่วนพวกตำรวจที่สอดรู้สอดเห็นเขาค่อยเข้าไปคุยกับนายของพวกมันทีหลัง
“ยังมีอีกเรื่องครับ” ผู้จัดการร้านบอก รอฟังคำอนุญาตจากเลโอนาร์โด พอชายหนุ่มพยักหน้าจึงว่าต่อ
“มีคนมาสมัครงานครับ แต่ผมบอกว่าให้รอคุยกับนาย เพราะวันนี้นายเข้าร้านพอดี”
การรับคนเข้าทำงานที่ต้องถึงมือของเลโอนาร์โดมีเพียงตำแหน่งเด็กขายบริการเท่านั้น เขาจะต้องสอบประวัติอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่พวกนกต่อ ในวงการนี้ไว้ใจใครไม่ได้ จะเอาใครมาไว้ใกล้ตัวก็ต้องดูให้ถี่ถ้วน เลโอนาร์โดเคยโง่มาก่อนและเขาจะไม่กลับไปโง่แบบนั้นอีก
“อยู่ที่ห้องรับรองใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“อืม ฉันจัดการเอง” เลโอนาร์โดตอบแค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องพร้อมกับบอดีการ์ดสองคน มุ่งหน้าไปยังห้องรับรองสำหรับแขกซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งในชั้นเดียวกัน เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้นดังหนัก ๆ จนมาหยุดหน้าห้องหนึ่ง ชายหนุ่มบอกให้ผู้ติดตามรอหน้าห้อง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
สิ่งแรกที่เลโอนาร์โดเห็นคือแผ่นหลังเล็กของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาก้าวเข้าไปหยุดยืนข้างหลังและทักออกไป
“มาสมัครงานใช่ไหม”
ฝ่ายนั้นสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบหันกลับมา ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าอ่อนเยาว์ฉายแววตื่นตระหนก ก่อนจะรีบพยักหน้าเร็ว ๆ ด้วยท่าทางประหม่า
“ชะ…ใช่ค่ะ มาสมัครงาน”
ริมฝีปากหยักสวยของเลโอนาร์โดกระตุกขึ้นเล็กน้อยคล้ายเป็นรอยยิ้ม ดวงตาคมมองสำรวจคนตรงหน้าที่ดูตื่นตระหนกราวกับสัตว์ตัวเล็ก ๆ นิ้วแข็งแรงแตะลงบนคางของอีกฝ่ายและจับบิดไปมาเพื่อพิจารณา ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม กลิ่นแป้งหอมอ่อนๆ ลอยมาเตะจมูกไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมที่ฉีดพรมมาจนฉุน
ไม่น่าเชื่อว่าคนตรงหน้าจะอยากทำงานขายบริการ ท่าทางใสซื่อ ไร้เดียงสาแบบนั้น อายุจะถึงยี่สิบหรือยังก็ไม่รู้
“งานที่เธอมาสมัครน่ะมันคืองานขายตัว รู้หรือเปล่า” เลโอนาร์โดถาม
เด็กสาวพยักหน้า ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองเขา ถึงแม้จะฉายแววประหม่าอยู่ในที “รู้ค่ะ แต่…มันได้เงินเยอะนี่นา”
เลโอนาร์โดพินิจมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา ส่วนมากหญิงสาวหรือแม้กระทั่งหนุ่มน้อยหน้าสวยที่มาสมัครงานขายบริการมักจะได้รับคำบอกเล่าปากต่อปากจากคนที่เคยทำงานที่นี่มาก่อนหรือทำอยู่ก่อนแล้ว และจะเข้ามาที่นี่ด้วยลุคที่น่าดึงดูด เซ็กซี่ เร่าร้อน ไม่เคยมีสักคนที่เข้ามาด้วยสภาพอย่างกับเด็กมอปลายแบบนี้
ถึงเลโอนาร์โดจะมีเส้นสายมากมายและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแสนอ่อนแอของประเทศนี้ แต่ก็ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หากว่าคนตรงหน้ายังไม่บรรลุนิติภาวะเขาจะไม่รับเข้าทำงาน
“ชื่ออะไร อายุเท่าไรแล้ว”
“อายุยี่สิบเอ็ดแล้วค่ะ ชื่อจานีน”
ก็ยังดี…อย่างน้อยก็อายุเกินยี่สิบแล้ว เลโอนาร์โดคิด บุคลิกใสซื่ออ่อนหวานแบบนี้คงจะถูกใจแขกหลายคนอยู่ไม่น้อย แล้วถามต่อ