ตอนที่ 8

1069 คำ
“ใช่ ช่วงนี้เรียนหนัก เทอมสุดท้ายแล้ว จะได้จบเสียที อีกอย่างคือหยงเพิ่งย้ายไปอยู่คอนโดที่กรุงเทพฯ นานๆจะกลับมาหาเตี่ยสักครั้ง” ชายหนุ่มบอก “แล้วมินล่ะ…เรียนจบแล้วนี่” สีหน้าของคนถามเต็มไปด้วยความอยากรู้ จ้องมองแพขนตายาวระยับ ประดับอยู่เหนือดวงตาสุกใสราวกับดวงดาว “ใช่ ตอนนี้ก็หางานไปพลางๆ คิดว่าคงใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เพราะงานทุกวันนี้หายากมากเหลือเกิน” “จะไปทำงานที่ร้านทองของเตี่ยก่อนไหม เดี๋ยวหยงจะคุยกับเตี่ยให้เอง ถ้ามินคิดว่าทำได้ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ หยงเองก็รู้ว่างานขายมันจำเจและน่าเบื่อ” ชายหนุ่มแสดงน้ำใจ “ขอบใจมากนะ แต่ไม่เป็นไร มินเพิ่งได้งานมาเมื่อสองวันก่อน” หญิงสาวรู้สึกซาบซึ้งที่ลูกชายเจ้าของตลาดผู้นี้ มีน้ำใจกับเธอ ที่มินตราปฏิเสธความช่วยเหลือจากหยง เป็นเพราะเธอเกรงใจ เพราะรู้ดีว่าแค่หยงแวะมาทักทาย ผู้คนก็เก็บเอาไปร่ำลือกันยกใหญ่ ข่าวลือเหมือนโรคระบาดที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วด้วยปากต่อปาก ยิ่งในสังคมแคบๆของตลาดแห่งนี้ มีหรือที่ภาพของหยงกับมินตราที่กำลังสนทนากันอยู่ในขณะนั้น จะเล็ดลอดไปจากหูตาราวสับปะรดของบรรดาแม่ค้าแม่ขายที่ลอบชำเลืองมองอยู่เป็นระยะๆอย่างให้ความสนใจ “งานประจำใช่ไหม ที่มินเพิ่งได้มา” หยงถามด้วยแปลกใจ เข้าใจว่ามินตราคงได้งานประจำแล้ว “เปล่า…ไม่ใช่งานประจำ เป็นงานเหมา ตอนที่มินไปเที่ยวทะเลกับดาริน มีเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งว่าจ้างให้เขียนรูปเพื่อใช้ตกแต่งรีสอร์ต เขาสนใจภาพวาดสีน้ำของมิน” “ดีจัง…งานถนัดของมินเลยสินะ” “แต่ยังไม่ได้คุยถึงรายละเอียด เพิ่งพูดคุยกันไปคร่าวๆ เอ่อ…เอาขนมไปกินนะ” มินตรากล่าวพลางเอื้อมมือไปหยิบถุงพลาสติกซึ่งวางอยู่ข้างกระจาด หยิบขนมใส่ไส้ใส่ถุงแล้วยื่นให้กับหยง “เอามาเยอะๆเลยก็ได้…หยงซื้อนะ” “ไม่เป็นไร ไม่ต้องซื้อ…มินอยากให้ ” “ให้ฟรีๆได้ยังไง ของซื้อของขายนะ” ชายหนุ่มยืนยันว่าจะซื้อ ลึกๆในใจแล้วเป็นเพราะเขาอยากช่วย หยงรับถุงขนมที่หญิงสาวคะยั้นคะยอเอาไว้ในที่สุด ทว่าไม่ลืมที่จะควักเงินออกมาวางเอาไว้ในกระจาด เหมือนรู้ว่าถ้ายื่นให้ตรงๆ ยังไงมินตราก็คงไม่รับ เพราะหยงรู้จักนิสัยของเธอดี ขณะนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยุพาผู้เป็นแม่ เดินกลับมาพอดี “สวัสดีครับน้ายุพา” หยงยกมือไหว้ แม้จะเป็นลูกชายของเจ้าของตลาด แม้จะเกิดมาบนกองเงินกองทอง มีชีวิตอยู่บนความร่ำรวยที่เหลื่อมล้ำกับผู้คนรายรอบ ทว่าด้วยอัธยาศัยไมตรีที่เป็นกันเองกับทุกคน ไม่เคยดูถูกคนที่จนกว่า ให้เกียรติพ่อค้าแม่ขายที่หาเช้ากินค่ำ ทำให้หยงเป็นที่รักใคร่ของผู้คนที่ยึดตลาดแห่งนี้เป็นที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพ หลายๆครั้งที่หยงต้องมาเก็บค่าเช่าแผงค้าแทนเตี่ย ทั้งค่าเช่ารายวันและรายเดือน มีบางรายที่ผัดผ่อน ขอเลื่อนการชำระออกไป ซึ่งหยงก็ใจดีอนุโลมให้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ “เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลยนะ” ยุพาทัก “ช่วงนี้ผมเรียนหนักครับ” “เอาขนมไปให้เตี่ยนะ วันนี้น้าทำขนมตาลมาขายด้วย เตี่ยหยงชอบ เมื่อก่อนเคยแวะมาซื้อบ่อยๆ” กล่าวพลางหยิบขนมตาลใส่ถุง “พอแล้วครับน้ายุพา…มินเพิ่งให้ขนมใส่ไส้มา” หยงทำสีหน้าเกรงใจที่จะรับไว้อีก “ไม่เป็นไร เอาไปอีก งั้นคิดเสียว่าในถุงนี้น้าฝากไปให้เตี่ยของหยงก็แล้วกัน” ยุพารบเร้า “ขอบคุณมากครับ” ลูกชายเจ้าของตลาดจำต้องรับเอาไว้ในที่สุด นานมาแล้วที่ยุพาแอบจับตามองดูความสัมพันธ์ของมินตรากับหยงอยู่ห่างๆ ด้วยประสบการณ์ของแม่ผู้ผ่านโลกและชีวิตมาก่อน มองปราดเดียวยุพาก็รู้ว่าหยงกำลังหลงรักลูกสาวของเธออย่างแน่นอน และยังมองออกด้วยว่าหัวใจของมินตราเปิดรับหยงไว้ในฐานะเพื่อนเท่านั้น หยงใช้เวลาคุยกับมินตราอีกครู่สั้นๆ แววตาของหยงที่มองมินตรา เดาได้ไม่ยากว่าเขาแอบชอบเธออยู่ และใช่ว่ามินตราจะไม่รับรู้ความจริงในข้อนี้ หากเธออยากรักษาช่องว่างในสัมพันธภาพระหว่างกันเอาไว้เพียงแค่เพื่อน มากกว่าจะปล่อยให้มันเกินเลยไปถึงขั้นคนรัก มินตราไม่ได้กังขาในความเป็นคนดีของหยง เธอรู้สึกได้ตลอดมา ถึงน้ำใสใจจริงของเขาที่แสดงออกต่อเธออย่างเปิดเผย หากเมื่อพิจารณาถึงความไม่คู่ควรนานาประการ ยิ่งทำให้มินตราต้องคิดกลับมาคิดทบทวนอยู่บ่อยครั้ง เธอบอกตัวเองว่าทุกความรู้สึกดีๆที่หยงพยายามหยิบยื่นให้นั้น หากจะรับไว้ได้ ก็คงในฐานะเพื่อนเท่านั้น เธอรู้ตัวดีว่ายังไม่พร้อมในฐานะอื่น “มินเลิกขายขนมกี่โมง” หยงถามเบาๆ ลดน้ำเสียงด้วยความเกรงใจ เมื่อเห็นว่ายุพาผู้เป็นแม่ยืนอยู่ไม่ไกล แม้ยุพาจะไม่ได้หันมาสนใจ เพราะขณะนั้นเธอกำลังมีลูกค้า “ค่ำๆ” “เสร็จจากขายขนม…ไปกินข้าวกันไหม” ชายหนุ่มชวน “ไปไกลไม่ได้นะ แต่ถ้าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวนี้พอได้” มิตราห่วงว่าต้องรีบกลับมาช่วยแม่เก็บร้าน “ได้ๆ…ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าปากซอยก็ได้” หยงสีหน้าระรื่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด รีบกล่าวก่อนที่หญิงสาวจะเปลี่ยนใจ ชำเลืองไปทางมินตราที่หันหน้าไปบอกแม่ “ไปกินก๋วยเตี๋ยวก่อนเถอะลูก ไม่ต้องห่วงทางนี้ เหลือไม่เยอะแล้ว แม่ขายเองได้” ยุพากล่าวเพื่อให้ลูกไปกินก๋วยเตี๋ยวอย่างสบายใจ รู้ว่ามินตาเองก็คงหิว จำได้ว่าเมื่อตอนบ่ายลูกสาวกินข้าวไปนิดเดียว “เดี๋ยวหนูรีบกลับมาช่วยเก็บร้านนะแม่” กล่าวจบ ร่างบอบบางก็เดินเคียงไปกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ท่ามกลางสายตาของแม่ค้าที่มองมาอย่างให้ความสนใจ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม