น่าเจ็บใจยิ่งนัก
ยิ่งคิดยิ่งอับอาย
อับอายเหลือจะกล่าว
นางจะทำอย่างไรดี
ในขณะที่เฉินเจียวเหมยยังคงนั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องราวของตนเองอยู่นั้นเสียงประตูโรงหมอพลันเปิดออกเสียงดัง
เฉินเจียวเหมยไม่เสียเวลาหันหลังไปมอง นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปทางหลังโรงหมอในทันที
บุคคลที่เข้ามาในโรงหมอแห่งนี้ถึงกับงุนงง เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ต้องการมาหาซื้อยาไปกินแค่เพียงเท่านั้น
ไยท่านหมอต้องหนีเขาไป เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ แล้วจะหยิบยาไปต้มกินเองได้หรือไม่กัน ชาวบ้านท่านนั้นได้แต่ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจในชีวิตของตนเอง
เฉินเจียวเหมยที่ลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีมาทางด้านหลังของโรงหมอเป็นผลสำเร็จแล้วนั้น นางจึงหยุดยืนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเหลือกำลัง
อา...
ไม่ดีแน่
หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ไม่ดีแน่ๆ
ชีวิตอันแสนจะอิสรเสรีและสงบสุขของนาง ต้องหายไปจากชีวิตน้อยๆ นี้ อย่างไม่ต้องสงสัย
นางควรจะทำอย่างไรดี
นางจะลืมเรื่องคืนนั้นไปได้หรือไม่
นางควรลืมมันเสีย
อย่าได้ใส่ใจ
นางต้องไม่ใส่ใจ
นางต้องลืมมัน
ลืมมันให้จงได้
ลืมมันไป...
เมื่อเฉินเจียวเหมยคิดได้อย่างนั้นแล้ว นางจึงยืนตั้งสติ ทำสมาธิ แล้วเพียงหลับตา
หญิงสาวยืนหลับตาพิงกำแพงหลังโรงหมออยู่อย่างนั้น
นางยังคงกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะได้ตั้งจิตภาวนา ให้นางได้ลืมเลือนมันเสีย เรื่องในคืนนั้น
นางต้องการจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในคืนนั้น
คืนนั้นทั้งคืนนั่น
กับบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น นางจะต้องลืมเขาให้จงได้
เฉินเจียวเหมยเพียงหลับตาพลางคิด
ใบหน้ารูปงามของเขาที่กำลังขยับอยู่ใกล้ๆ นางในคืนนั้น ดวงตาคมกริบทอประกายร้อนแรงใส่หน้านางในคืนนั้น จมูกของเขาที่โน้มเข้ามาหานางพร้อมๆ กับริมฝีปากสีแดงสดของเขาที่โน้มเข้ามาหาใบหน้าของนางนั้น เขาโน้มเข้ามา โน้มเข้ามา
แล้วจูบนาง...
อา...
ใช่...
เขาจูบนาง...
อย่างนี้ล่ะ...
เฉินเจียวเหมยยังคงหลับตาพลางคิดถึงภาพระหว่างนางกับบุรุษแปลกหน้าที่กำลังแนบชิดเบียดเสียดกันไปมาทั้งใบหน้า ทั้งเรือนร่าง แต่ทว่า...
นางเพียงแค่คิดเท่านั้น แล้วทำไม...
ทำไมมันถึงรู้สึกสมจริงเยี่ยงนี้ ความอุ่นซ่านอย่างนี้
ริมฝีปากแนบชิดอย่างนี้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวจึงลืมตา
และนางก็ได้เจอ
บุรุษผู้นั้นกำลังจูบนาง
เขาจูบนางอยู่! เมื่อไหร่กัน!
เฉินเจียวเหมยถึงกับตาโตในขณะที่ริมฝีปากของนางกำลังถูกจ้าวจิ่นหลงกดจูบอย่างไม่ยั้งอยู่ตรงกำแพงหลังโรงหมอแห่งนี้
เขากำลังจูบนาง จูบนานแล้วหรือไม่ จูบนางตั้งแต่เมื่อไหร่ ไยนางถึงรู้สึกคุ้นชิน ไม่สิ! ไยนางถึงไม่รู้ตัว ได้อย่างไรกัน
จ้าวจิ่นหลงที่เดินเข้ามายังโรงหมอแล้วเห็นไหล่บางๆ ของสตรีนางนี้กำลังยืนพิงกำแพงหลับตาอยู่คล้ายกับว่ากำลังรอเขาอยู่กระนั้น
เขาจึงไม่รอช้า รีบเดินเข้ามาหานางแล้วตอบสนองนางในทันที
เขาก้มหน้าจูบนางอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่นางเพียงหลับตาให้เขาจูบ เขาก็จูบ เขาจูบนางอยู่หลายที รสชาติดีไม่เบา
จ้าวจิ่นหลงยังคงก้มหน้าก้มตากดจูบเฉินเจียวเหมยอยู่อย่างนั้น
เฉินเจียวเหมยที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าถูกบุรุษเจ้าของใบหน้าที่นางกำลังนึกถึงอยู่ กำลังกระทำการอย่างย่ามใจ นางจึงรีบบิดใบหน้าของนางให้เบือนหนี ในขณะที่มือของนางรีบดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง
แต่นี่...
คนหรือรากไม้กัน
ไยถึงแน่นเหนียวหนึบหนับอย่างนี้
ไย...
ผลัก ไม่ ออก....
ตรงกำแพงหลังโรงหมอแห่งหนึ่ง บัดนี้กำลังมีหนึ่งบุรุษกับหนึ่งสตรีกำลังยืนกระทำการบางอย่างอยู่ตรงริมกำแพงนั่น
พวกเขากำลังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ควรให้ใครได้พบเห็น ใบหน้าของพวกเขากำลังแนบชิดเบียดเสียด ริมฝีปากของพวกเขากำลังแทรกซึมล้วงลึก เรือนร่างของพวกเขากำลังเข้าข่ายคลอเคลียพัลวัน
จ้าวจิ่นหลงยังคงกดจูบเฉินเจียวเหมยโดยไม่สนใจฝ่ามือเรียวสวยของนางที่กำลังผลักดันแผงอกของเขาแต่อย่างใด
สองฝ่ามือของเขาเพียงจับอยู่กับสองพวงแก้มของนาง นิ้วเรียวยาวของเขาเพียงโอบกุมใบหน้านวลเนียนของนางเอาไว้ เพื่อที่นางจะได้ไม่สามารถเบือนใบหน้าและริมฝีปากของนางหนีริมฝีปากของเขาได้แต่อย่างใด
“อื้อ...” เสียงอู้อี้ของเฉินเจียวเหมยยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จ้าวจิ่นหลงยังคงกดจูบนางอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
การจูบยังคงดำเนินอยู่ครู่ใหญ่ ฝ่ามือร้อนกรุ่นที่จับกุมสองพวงแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นโอบกอดลูบไล้ไปตามเรือนร่างไปตามลำตัว
เฉินเจียวเหมยเริ่มที่จะหมดแรงต่อต้านใดๆ มือที่ผลักแผงอกของเขาก็เริ่มที่จะหมดแรงผลักดันเขาให้ออกไป ด้วยเพราะว่าปลายลิ้นดุดันของเขากำลังกระตุ้นอารมณ์ของนาง
ไม่สิ ไม่ใช่! การกระทำของเขากำลังทำให้นางหายใจไม่ออก นั่นจึงทำให้นางอ่อนแรงลงจนเกือบจะหมดแรงต่อต้านเขา นางหาได้เคลิบเคลิ้มคล้อยตามปลายลิ้นของเขาไม่
เฉินเจียวเหมยเริ่มเรียกสติของตนที่กำลังจะเตลิดเปิดเปิงให้กลับมาเพื่อคิดการแก้ไขสถานการณ์จากการถือสิทธิ์กินเต้าหู้นางอย่างเอร็ดอร่อยของบุรุษน่าตายผู้นี้
นางควรทำอย่างไรดี
แกล้งสลบเลยดีกว่า
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว เฉินเจียวเหมยจึงปล่อยฝ่ามือออกจากแผงอกของเขา ปล่อยลำแขนลงข้างลำตัว ทิ้งร่างบอบบางของตนลงบนพื้นเบื้องล่าง ทำท่าทางคล้ายกับว่ากำลังสลบไสลหมดสติไปกลางอากาศ
แต่ทว่า...ไยร่างของนางไม่ถึงพื้นเสียที
ไยริมฝีปากของนางยังไม่ได้รับอิสระ
ไยเขายังไม่รับรู้ว่านางสลบไปแล้ว