เธอเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าบ้องแบ๊วก่อนตอบด้วยรอยยิ้มใสซื่อ
“ ก็นอนบนตัวอาเหมือนตอนเด็ก ๆ ไงคะ ”
“ แต่.. แต่ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว นอนไม่ได้ ” เขาว่าพลางพยายามดันเธอลงจากตัวแต่เธอไม่ยอม แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่แบบนั้น โหนกเนินเนื้อสาวก็ถูไปไถมาบนเป้ากางเกงของเขา และมันก็ขยายเหยียดแข็งขึงอย่างรวดเร็ว
มันเกิดขึ้นอีกแล้ว ให้ตายสิ !
เขาจะทนไหวไปอีกนานแค่ไหนนะ
“ ทำไมล่ะคะ ตอนนี้หนูก็ไม่ได้ตัวใหญ่ตัวโตมาก หนักแค่สี่สิบแปดเอง ทำไมจะนอนบนตัวอาไม่ได้ หนูชอบนอนแบบนี้ แล้วมองเวลาอาเล่านิทานค่ะ ” เธอว่าพลางวางมือบนแผงอกเขา ก่อนจะวางหน้าลงไปบนมืออีกที ดวงตากลมโต จดจ้องเขาไม่วาง
แล้วหน้าอกหน้าใจทั้งสองเต้ามันก็เบียดบดอยู่กับแผงอกของเขาชนิดแนบสนิทเลยทีเดียว
แม่โว้ย !
“ อา.. อาหายใจไม่ออก น้องแยมลงไปก่อนนะ ”
เขาหาเรื่องมาโกหกพลางรีบดันเธอลงไปให้อย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแทน และกดเธอให้นอนลงบนเตียง แค่นี้ก็ป้องกันไม่ให้เธอดื้อจนคืบคลานขึ้นมาบนตัวเขาได้อีกแล้ว
“ เอาล่ะ ทีนี้ก็นอนได้แล้ว อาจะเล่านิทานให้ฟังนะ ”
เด็กสาวนอนตะแคงมองเขา นึกน้อยใจในการผลักไสรุนแรงราวรังเกียจนั้น ในหัวสับสนวุ่นวาย ทำไมอามีปฏิกิริยากับเธอแบบนี้ทั้งที่เมื่อคืนเอาเธอไปจินตนาการตอนชักว่าวแท้ ๆ
หรือเขาไม่ได้คิดอะไร มันก็แค่จินตนาการ..
แบบนี้มันต้องพิสูจน์ !
ขณะที่เธอกำลังตัดสินใจจะวางมือลงบนเป้ากางเกงของอานั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เด็กสาวเดินไปหยิบมารับ
“ พ่อโทรมาค่ะ ” เธอหันมาบอกอา คุยกันครู่หนึ่งก็ยื่นให้กับอาใหญ่
“ พ่อจะคุยกับอาใหญ่ค่ะ ”
“ โอเคจ้ะ ” อาใหญ่รับมาแล้วคุยกับพ่อของเธอ และในบทสนทนานั้นดูเหมือนว่าจะมีใครสักคนอยู่ที่นั่นกับพ่อเธอด้วย และตอนนี้คงกำลังคุยกับอาใหญ่อยู่
“ ณิชาสบายดีหรือเปล่า ”
ใครกัน ณิชา ?
“ เราก็พึ่งกลับมาได้แค่สองสามวันน่ะ แล้วไปเจอกับพี่ยศได้ยังไง ”
“ โอเค พอดีมือถือเราอยู่ข้างล่าง ตอนนี้อยู่บนห้องหลานสาว เดี๋ยวสักพักก็ลงไปแล้ว ”
“ โอเค โทรเข้ามือถือเราก็ได้ หวัดดีครับ ”
แล้วอาใหญ่ก็วางสายแล้วส่งมือถือคืนให้แยม
“ ใครเหรอคะ ณิชา ? ” เด็กสาวถามทันที
“ อ๋อ เพื่อนเก่าอาเอง พอดีเธอไปที่โรงพยาบาลแล้วเดินสวนกับพี่ยศ พี่ยศเลยส่งข่าวว่าอากลับมาแล้ว งั้นเดี๋ยวอาขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะ นอนได้แล้วเด็กน้อย ” อาใหญ่ว่าพลางพาเธอไปที่เตียง กดเธอลงนอน ห่มผ้าให้ ปิดไฟ
“ ฝันดีจ้ะหนูน้อยของอา ” แล้วเดินออกจากห้องไปเลย ทิ้งให้เธอเคว้งคว้างอยู่แบบนั้น
เด็กสาวหน้าชา ขอบตาร้อนผ่าว นี่เธอทำบ้าอะไรของเธออยู่วะ พยายามจะอ่อยอาใหญ่ ทำตัวเป็นสาวน้อยไวไฟ และที่น่าอายไปกว่านั้นคืออาไม่ได้สนใจเธอเลย และพอได้ยินชื่อผู้หญิงคนนั้นอาก็รีบออกไปทันที
ความสงสัยทำให้เด็กสาวลุกจากเตียงไปที่ประตูเงียบ ๆ ก่อนจะเดินลงบันได แม้ยังไม่ถึงชั้นล่างก็ได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ เธอยื่นหน้าไปแอบดูพบว่าเขากำลังถือโทรศัพท์ไว้และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับมัน
“ ดีใจจังที่ได้คุยกันอีกครั้ง นานมากเลยนะณิ ”
“ อืม นานมาก นานจนณิแต่งงานและหย่าเรียบร้อยแล้วเนี่ย ”
อาใหญ่กำลังวีดีโอคอลกับผู้หญิงคนนั้น !
“ เราเสียใจด้วยนะ ”
“ โอ๊ย ไม่เป็นไร ผู้ชายเฮงซวยน่ะใหญ่ ว่าไปแล้วชีวิตเราไม่ค่อยเจอผู้ชายดี ๆ เลย นอกจากใหญ่คนเดียว ”
หัวใจของเด็กสาวไหววาบ แปลว่าคนนี้เคยคบหากับ อาใหญ่อย่างนั้นเหรอ
“ ณิก็ชมเราเกินไป เราก็มีเลวมีดีเหมือนคนอื่นน่ะแหละ ”
“ ไม่เกินไปหรอก แล้วตอนนี้ใหญ่โสดอยู่หรือเปล่า ”
“ โสดแหละ เราไม่พร้อมจะมีใคร ทำแต่งาน ”
“ แต่เห็นพี่ยศบอกว่าตอนนี้ใหญ่ลาออกจากงานมาอยู่ที่นี่แล้วนี่ ต่อไปนี้ก็มีเวลามากขึ้นสินะ ”
“ ใช่แล้ว ”
“ งั้น.. พอจะมีเวลาให้ณิบ้างหรือเปล่าล่ะ ” อาใหญ่หัวเราะร่วน
“ ไว้มีเวลาค่อยนัดเจอกัน ”
“ จริงนะ ณิคิดถึงใหญ่เสมอ ไม่เคยลืม ใหญ่ล่ะ คิดถึงณิบ้างไหม ”
“ คิดถึง.. ”
พอแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว..
เด็กสาวบอกตัวเองก่อนหันหลังซอยเท้าวิ่งหนีกลับขึ้นห้อง เธอทุ่มตัวลงกับเตียงกว้าง ขอบตาร้อนผ่าว
เธอมันก็แค่ยัยเด็กขี้แย แถมทำตัวร่าน นิสัยไม่ดี จะไปสู้อะไรกับแฟนเก่าของอาใหญ่ได้เล่า..
น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ พรุ่งนี้เธอจะเลิกทำตัวแรดร่าน เท่านี้อาใหญ่ก็คงสะอิดสะเอียนเธอเกินทนแล้ว เธอควรจะทำตัวเป็นหลานสาวที่น่ารักของอาใหญ่เช่นที่ผ่านมา
หยุดคิดบ้า ๆ เสียที !
รุ่งเช้า
ใหญ่ตื่นขึ้นมาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าหลานสาวคนสวยตื่นมาก่อนและกำลังเดินกลับมาจากนอกบ้าน ในมือหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง
“ นั่นน้องแยมไปไหนมาแต่เช้าคะ ”
“ หนูไปซื้อกับข้าวมาค่ะ หนูอยากเป็นเด็กดี เป็นเจ้าบ้านที่ดีทำอาหารให้อาใหญ่บ้าง ” อาใหญ่เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ ทำกับข้าวเป็นด้วย ? ”
“ เป็นสิคะ ทำอร่อยด้วยนะ แล้วพ่อก็บอกว่าอาใหญ่ชอบกินน้ำพริกกะปิมาก เดี๋ยวหนูจะตำน้ำพริกกะปิแบบไม่เผ็ดมาก ปลาทูทอด และก็มะเขือยาวชุบแป้งทอดให้กินนะคะ แล้วจะต้มกะทิสายบัวปลาทูแถมให้ด้วย ” เธอว่าพลางยิ้มแป้น อาใหญ่ยื่นมือไปจะช่วยถือ
“ หนักแย่เลย อาช่วยนะ ”
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ นิดเดียวเอง ” เธอว่าก่อนเดินเข้าไปในครัวแล้ววางของลงบนเคาน์เตอร์แล้วเตรียมของง่วน อาใหญ่ยืนมองพลางยิ้มกว้างอย่างมีความสุข