11

1192 คำ
“ฉันก็แค่ติดต่อให้ แต่เรื่องอื่นมันขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างแกกับคุณต้นเองนะ อย่าเรียกเขาแพงล่ะ เอาให้พอสมน้ำสมเนื้อกับงานก็พอ” เบญจวรรณไม่วายดักคอพิมพิชชา นิสัยของเพื่อนคนนี้ งกไม่มีใครเกิน เค็มจนทะเลเรียกพี่อีกต่างหาก นี่ถ้าอัลบั้มรูปไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อเดวิส แคนดี้ รับรองได้ว่าเงินไม่กระเด็นออกจากกระเป๋าของพิมพิชชาแน่นอน อะไรที่เกี่ยวกับนายแบบคนนี้ พิมพิชชาทุ่มไม่อั้นอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของสาวโสดหัวใจเปลี่ยวเหงา “แหม เล่นดักคอกันซะงั้น ฉันเรียกไม่เยอะหรอก กะว่าจะเรียกสักสามหมื่น” “หา สามหมื่น” เบญจวรรณพูดด้วยสีหน้าตกใจ “ล้อเล่นน่า ฉันจะให้เขาเสนอเงินมาก่อนว่าจะให้เท่าไหร่ ถ้าน้อยเกินไปฉันค่อยต่อ ฉันไม่ได้งกมากมายขนาดนั้นหรอกน่า” พิมพิชชาแก้ตัวทันควัน “ก็ดีเหมือนกัน ให้คุณต้นเสนอเงินค่าจ้างมาก่อนแล้วแกค่อยต่อ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า นี่เพิ่งเที่ยงเอง ฉันหิวแล้ว” เบญจวรรณกล่าวชวนเพื่อนสาว ทั้งสองจึงเดินออกไปจากบ้านของ พิมพิชชาเพื่อไปหาอะไรทานกันที่หน้าหมู่บ้าน รอเวลาที่จะไปเจรจาเรื่องงานใหม่ที่จะเปลี่ยนชีวิตพิมพิชชาไปตลอดกาล 18.50 น. ณ ผับวาเนสซ่า พิมพิชชากับเบญจวรรณเดินทางมาถึงผับวาเนสซ่าก่อนเวลานัดหมายสิบนาที พิมพิชชาตื่นตาตื่นใจกับความหรูหรา โอ่อ่าของผับวาเนสซ่ายิ่งนัก หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับผับนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ดูจากการแต่งตัวของชายหญิงที่มาเที่ยวที่ผับแห่งนี้ แต่ละคนแต่งตัวหรูหราเข้ากับสถานที่ เธอก้มมองดูตัวเองที่ใส่กางเกงยีนกับเสื้อยืดพอดีตัวสีดำ เปรียบเทียบกับคนอื่นๆ เธอเหมือนคนรับใช้ไม่มีผิด แต่คนอย่างเธอไม่แคร์สายตาของใครอยู่แล้ว ไม่ได้ขอพวกนั้นกินสักหน่อย ทำไมต้องแคร์ ต้องใส่ใจด้วย ช่างมันฉันไม่แคร์ นี่คือคติประจำใจอีกข้อหนึ่งของเธอ “ที่นี่ต้อนรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกเท่านั้นค่ะ ถ้าไม่เป็นสมาชิกเข้าไปไม่ได้นะคะ แต่ถ้าคุณสองคนสนใจที่จะสมัครสมาชิก เชิญด้านนี้เลยค่ะ ค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละเจ็ดพันบาท รายปีลดให้พิเศษค่ะ ห้าหมื่นบาทเท่านั้นเอง สนใจไหมคะ ถ้าสนใจดิฉันจะพาไปทำสมาชิก” พนักงานสาวสวยที่ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าเอ่ยกับ เบญจวรรณและพิมพิชชาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ทว่าสายตาที่มองมาที่เธอทั้งสองคนนั้น ไม่เหมือนกับน้ำเสียงเลย มันเต็มไปด้วยการดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยาม คงจะมองจากการแต่งตัวที่แสนจะธรรมดา จึงมองว่าเธอทั้งสองคนไม่มีเงินเป็นค่าสมัครสมาชิกแน่นอน พิมพิชชาได้ยินคำพูดนี้รวมทั้งสายตาของสาวสวยคนนี้ทำให้อารมณ์ของเธอปรี๊ดทันที “ขอบคุณนะคะที่แนะนำ ดิฉันกับเพื่อนไม่สนใจหรอกค่ะ พอดีว่าดิฉันกับเพื่อนนัดคุณตุลาการ โยธากิติกุลไว้น่ะค่ะ คุณพอจะรู้ไหมคะว่าคุณตุลาการนั่งโต๊ะไหนประจำหรือว่าจองโต๊ะไหนเอาไว้ ถ้ารู้ก็ทำหน้าที่ของคุณหน่อยสิคะ ไม่ใช่มายืนทำปากยื่นปากยาว พูดจากับแขกด้วยสายตาแบบนี้ ระวังจะตกงานนะคะ” พิมพิชชาตอกกลับ เธอไม่ใช่คนที่หาเรื่องหรือว่าต่อว่าใครง่ายๆ จะตอบโต้เฉพาะคนที่ไม่ให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น อย่างเช่นพนักงานสาวคนนี้เป็นต้น แม้การพูดจาจะไม่ได้ว่ากล่าวเธอกับเบญจวรรณตรงๆ ทว่าสายตาคู่นั้นต่างหากที่เปิดเผย ความรู้สึกของคนที่พูด “อ้อ” พิมพิชชาร้องอย่างนึกขึ้นได้ “ค่าสมาชิกฉันกับเพื่อนไม่ต้องจ่ายหรอกค่ะ เรามีคนจ่ายให้ แต่คุณเนี่ยคงไม่มีสินะคะ ถึงได้ใช้บารมีของพนักงานมาข่มคนอื่น น่าสงสารจังค่ะ” พนักงานต้อนรับถึงกับยืนอ้าปากค้างกับคำพูดกระทบกระเทียบที่แสนเจ็บปวดใจ จริงอย่างที่พิมพิชชาพูดทุกอย่าง ถ้าหากเธอไม่ได้เป็นพนักงานที่ผับแห่งนี้ก็คงไม่ได้มาเดินเฉิดฉาย แต่งตัวสวยๆ ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนี้ จะโต้กลับก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เธอยังอยู่ในหน้าที่ อีกทั้งชื่อของสมาชิกระดับวีไอพีที่อีกฝ่ายพูดออกมา ทำให้เธอเลือกที่จะเงียบ ข่มความเจ็บใจไว้ภายใน ส่งยิ้มสวยแล้วทำตามหน้าที่ของตัวเอง “เชิญค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” พิมพิชชากับเบญจวรรณเดินตามพนักงานสาว เข้ามาด้านในของผับ ตรงไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ในโซนวีไอพี สองสาวรอสองหนุ่มไม่ถึงห้านาที ร่างของตุลาการก็เดินมาสมทบที่โต๊ะ โดยไร้ร่างของติณณพัฒน์ เขาไม่พูดว่าเหตุใดจึงมาคนเดียว เพราะทันทีที่มาถึงโต๊ะ เขาก็สั่งเครื่องดื่มเป็นอันดับแรก “คุณต้อมคะ แล้วคุณต้นล่ะคะ” เบญจวรรณเอ่ยถาม เมื่อบริกรหนุ่มเดินห่างจากโต๊ะหลังรับออเดอร์เสร็จ “เข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็มา” เขาตอบสั้นๆ พิมพิชชายอมรับว่าไม่ชอบนิสัยของตุลาการ เขาทำตัว เฉยชากับเบญจวรรณมาก ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจด้วยซ้ำ ต่างกับเพื่อนสนิทของเธอที่เอาอกเอาใจเขาตลอดเวลา บางครั้งพิมพิชชาอยากจะต่อว่าเพื่อนด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ อยากจะพูดว่าอย่าริทำตัวเหมือนผู้หญิงไร้ค่า ไร้ราคา หน้ามืดตามัวไม่ยอมรับความเป็นจริงว่าชาตินี้ทั้งชาติเบญจวรรณก็ไม่สามารถเลื่อนฐานะของตัวเองให้สูงขึ้นมากไปกว่านางบำเรอของตุลาการได้ แต่มาคิดอีกแง่ ชีวิตใครก็ชีวิตมัน หัวใจของใครก็หัวใจของมัน เบญจวรรณอาจจะมีความสุขในสิ่งที่เลือกเองก็เป็นได้ แล้วก็พร้อมจะเจ็บปวดเมื่อเวลานั้นมาถึง เวลาที่ตัวจริงกลับมา แต่ว่าตอนนี้พิมพิชชารู้สึกขัดตาขัดใจ ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้เลย “โน้ต ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พิมพิชชาลุกเดินไปทันทีที่พูดจบ ถ้าอยู่นานๆ มีหวังต้องได้ด่าใครสักคนหนึ่งเป็นแน่ เธอจึงเลือกที่จะไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ ใช้เวลาอยู่สักพักก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ระหว่างทางที่กลับเข้าไปในผับนั้น หูของเธอพลันได้ยินเสียงบางอย่าง มันคือเสียงอือ อือ อา อา ดังออกมาจากช่องที่มีไว้สำหรับเก็บถังดับเพลิง ด้วยความอยากรู้พิมพิชชาจึงเดินตามเสียงที่ว่านั้นไป แต่พอเห็นที่มาของเสียงเท่านั้น ร่างของเธอพลันแข็งทื่อดุจหิน อ้าปากค้าง หน้าแดงก่ำ ไม่คิดว่าจะเจอภาพนี้แบบจังๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม