“ไม่มีอะไรหรอก พี่กำลังกำจัดความอยากได้ของตัวเองด้วยการมองสมุดบัญชี จะได้ย้ำว่าตอนนี้พี่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อของที่พี่อยากได้ เพราะเงินที่เหลือต้องเอาไว้ใช้จ่ายในบ้าน ต้องท่องเอาไว้ว่า ไม่จำเป็น ไม่จำเป็น โอ๊ย...แต่มันอยากได้ อยากได้ อยากได้ จะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย”
พิมวดีมองอาการที่คล้ายจะลงแดงของพี่สาวพลางนึกในใจว่าสิ่งของที่พี่สาวอยากได้คืออะไร ทำไมพิมพิชชาถึงมีอาการแบบนี้
“พี่พิมอยากได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ใช่หรือเปล่าคะ ถึงได้ทำท่าจะลงแดงตายอย่างนี้ ไม่ได้ดูหน้าเดวิสสุดหล่อหลายคืนแล้วนี่มิน่าล่ะอาการถึงหนักขนาดนี้” พิมวดีเดาอาการของพี่สาว สาเหตุคงมาจากเรื่องนี้แน่นอน ปกติทุกคืนก่อนนอนพิมพิชชาจะราตรีสวัสดิ์เดวิส แคนดี้ หน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกคืน กรี๊ดกร๊าดอยู่คนเดียวจนเธอชินตากับภาพที่เห็น หนึ่งสัปดาห์มาแล้วที่พี่สาวไม่ได้ทำอย่างที่เคยทำ สงสัยจะอึดอัดน่าดู อาการจึงออกมาทางสีหน้าแบบนี้
“ไม่ใช่หรอก พี่ไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์ก็ได้ เพราะพี่เพิ่งไปรับปลอกหมอนกับปลอกหมอนข้างที่พี่สั่งให้เขาสกรีนภาพคุณชายของพี่ คราวนี้แหละพี่จะได้นอนเคียงคู่กับคุณชายเสียที ก่อนนอน พี่ก็จะได้เห็นหน้าคุณชาย ตื่นนอนพี่ก็ได้เห็น โอ๊ย...มีความสุข”
พิมพิชชาทำสีหน้าชวนฝัน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงใบหน้าแสนหล่อเหลาของพ่อยอดขมองอิ่ม แต่พอนึกถึงเรื่องอัลบั้มรูป หัวใจดวงน้อยก็เหี่ยวเฉาขึ้นมาทันที ความอยากได้มีท่วนท้นแต่ค่าใช่จ่ายจำเป็นก็ทำให้ต้องคิดหนัก
“ครีม พี่ถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรคะพี่พิม”
“ครีมว่าพี่จะสั่งซื้ออัลบั้มรูปของคุณชาย ครีมว่าดีไหม”
“ถ้าพี่พิมอยากได้ พี่พิมก็ซื้อสิคะ”
“แต่ว่าราคามัน...”
“ราคาทำไมคะ”
พิมวดีถามต่อ พิมพิชชายิ้มแหยกับคำถามของน้องสาว หากพิมวดี ได้ยินจำนวนเงินของอัลบั้มรูป น้องสาวของเขาต้องช็อกตาค้างแน่นอน
“คือ...คือว่าอัลบั้มรูปมันราคาเจ็ดพันห้าร้อยบาทน่ะ ถ้าพี่ซื้อ ครีมคงหาว่าพี่บ้าแน่ๆ เลย” แม้ว่าพิมวดีจะมีอาการตกใจบ้างเมื่อได้ยินราคาของอัลบั้มรูปที่พี่สาวอยากได้ แต่พิมวดีไม่ได้คิดอย่างที่พิมพิชชาพูดออกมาเลย
“ครีมไม่ว่าพี่หรอกค่ะถ้ามันคือความสุขของพี่พิม อีกอย่างครีมว่าดีเสียอีกที่พี่จะซื้อ พี่พิมน่ะทำงานตั้งเยอะแยะ แทบไม่ได้ใช้เงินส่วนตัวด้วยซ้ำ การที่พี่พิมจะซื้ออัลบั้มรูปเป็นของขวัญให้ตัวเองนั้นครีมว่าเป็นความคิดที่ดีมากค่ะ อีกอย่างพี่พิมก็ไม่ได้ซื้อบ่อยๆ เสียหน่อย”
พิมพิชชาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเป็นกองเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว ทั้งยังรู้สึกขอบคุณพิมวดีในใจที่ไม่หาว่าเธอบ้าที่ซื้ออัลบั้มรูปราคาสุดหฤโหดนี้
“นั่นสินะ” พิมพิชชายิ้ม ก่อนจะอธิบายต่อ “ที่พี่อยากได้อัลบั้มรูปนี้เพราะว่าคุณชายของพี่จะมาฉลองวันเกิดที่เมืองไทย แล้วจะสุ่มผู้โชคดีจากหมายเลขสั่งซื้ออัลบั้มรูป ใครโชคดีก็จะได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับคุณชาย แถมยังมีรางวัลปลอบใจด้วยนะ อีกสิบคนจะได้ทานอาหารกับคุณชาย พี่เลยอยากลุ้นเป็นผู้โชคดีบ้าง”
“ถ้าอย่างงั้นพี่พิมต้องรีบไปจองเลยนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทัน” พิมวดีเข้าใจพี่สาวเป็นอย่างดี ถ้าเป็นเธอเธอก็อยากจะซื้ออัลบั้มแสนแพงนี้เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปแล้วนะ”
พิมพิชชาวางสมุดบัญชีธนาคารไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินแกมวิ่งออกไปจากบ้านทันที เพื่อไปร้านอินเทอร์เน็ตที่อยู่หน้าปากซอยบ้าน ทำตามที่ใจต้องการแม้ว่าเงินในบัญชีมีไม่ถึงหนึ่งพันห้าร้อยบาทก็ตาม งานนี้สงสัยเธอต้องรับงานเสริมมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
...ของขวัญสำหรับตัวเอง
พิมวดีมองร่างพี่สาวที่รีบออกไปจากบ้านด้วยรอยยิ้ม ถ้าเธอมีเงินถึงเจ็ดพันห้าร้อยบาทก็คงจะดี เธอจะมอบให้พี่สาวไปสั่งซื้ออัลบั้มรูป ตอบแทนที่พี่สาวเหนื่อยและดีกับเธอมาโดยตลอด ทำงานทั้งงานหลักและงานเสริม พิมวดีสัญญากับตัวเองว่าหากสำเร็จการศึกษา เธอจะหางานทำ แบ่งเบาภาระของพิมพิชชา พี่สาวของเธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนทุกวันนี้
ติณณพัฒน์นั่งดื่มแอลกอฮอล์เพื่อดับความกลัดกลุ้มของตัวเอง หลังจากที่เขาตกปากรับคำจะหาสะใภ้ให้บิดาและมารดา นี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้วเขายังหาทางออกเรื่องนี้ไม่ได้เลย จะหาภรรยาได้อย่างไร ในเมื่อในสมองของเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ผู้หญิงของเขาแต่ละคน ล้วนแล้วแต่ถูกจำกัดไว้เพียงคู่ควง คู่นอนเท่านั้น ไม่มีใครทำให้ใจเขาคิดได้ไกลเกินกว่านี้เลย แล้วทีนี้จะหาภรรยาได้อย่างไร ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม
“เป็นไงไอ้คุณต้น ถึงกับต้องใช้เหล้าย้อมใจเลยเหรอวะ ยังหาลูกสะใภ้ให้คุณลุงคุณป้าไม่ได้ใช่หรือเปล่า”
ตุลาการ ลูกพี่ลูกน้องที่มีอายุอานามเท่ากัน เป็นลูกชายของตุลากับลลิตา ผู้เป็นอาและน้าของติณณพัฒน์ ทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก มากกว่าบรรดาพี่น้องคนอื่นๆ
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยไอ้คุณต้อม คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่” ติณณพัฒน์พูด ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันที่อยู่ในแก้วจนหมด
“ที่กลุ้มเนี่ย กลุ้มเพราะหาเมียไม่ได้ หรือว่ากลุ้มเพราะจะต้องแต่งงานกับเง็กซึม ถ้าหากนายหาเมียไม่ได้ตามเวลาที่กำหนด”
ตุลาการรู้เรื่องนี้จากปากของติณณพัฒน์เอง อีกฝ่ายโทรมาเล่าความกลัดกลุ้มให้เขาฟังตั้งแต่วันแรกที่ถูกบิดายื่นเงื่อนไขให้ ครั้งแรกที่ได้ยิน ตุลาการอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะเงื่อนไขของติณณ์ผู้เป็นลุงทำให้เขาคิดถึงสำนวนที่ว่า โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง หาลูกสะใภ้ไม่ได้ก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่บิดาเลือกให้อยู่ดี