“ได้เวลาให้รางวัลป๋าแล้วนะจ๊ะคนสวย มาจัดซะดีๆ”
พออยู่ในสภาพเหมือนกันแล้ว เขาก็โน้มกายลงไปกระซิบบอกเสียงนุ่มหู แถมจัดการให้ตัวเองกลายเป็นคนเบื้องล่าง ด้วยการยกคนน้ำหนักไม่น่าจะเกินสี่สิบห้าขึ้นมาทับบนแผงอกด้วยแขนแข็งแรงสองข้าง
“อะไรคะ”
หญิงสาวผู้รู้ดีว่าเขาต้องการอะไรนั้น กลับแกล้งถามแล้วทำหน้าซื่อๆ ใส
“ไม่รู้จริงๆ เหรอจ๊ะ ว่าป๋าต้องการอะไร เดี๋ยวเบิ้ลจนไม่มีแรงไปกินข้าวเลยนี่”
ใบหน้าสวยยิ้มบางๆ อย่างเอียงอายเมื่อเห็นเขารู้ทัน ซ้ำยังดันกายเล็กให้เลื่อนลงไปเบื้องล่าง แล้วดึงมือบางไปหากายเต็มตึงที่พร้อมรับรางวัลแล้ว
“ดีๆ นะจ๊ะ ถ้าทำถูกใจ เดี๋ยวป๋าจะตบรางวัลด้วยการซื้อทุกอย่างที่หนูอยากได้ให้ ไม่เกี่ยงราคาด้วยนะ”
ดวงตาคู่สวยปรายขึ้นมองหน้าป๋าแล้วค้อนนิดๆ แต่พอถูกป๋ากระดกบั้นท้ายเรียกร้องให้ตบรางวัลอย่างไม่ลดละ ก็เลยต้องยอมตามใจ ด้วยการเคลื่อนกายเปลือยลงไปจ้องมองกายกำยำล่ำสันของป๋าเขม็ง
สองมือประคองเอาไว้ให้มั่นเหมาะ ก่อนจะค่อยๆ ครอบครองเอาไว้ด้วยเรียวปากงาม
“อ่าส์!”
ป๋าส่งเสียงแห่งความพึงพอใจออกมา มือของป๋านั้นก็เลื่อนไปหาบัวงามอย่างห้ามใจไม่อยู่ ปลายนิ้วบดบี้ไปกับยอดบนสุดอย่างผู้มีประสบการณ์ ยังผลให้เรียวกระจับงามดื่มด่ำกายกำยำอย่างคนเริ่มโหยหาอาหารขึ้นมาบ้างแล้ว
“ซี๊ด!!! แม่สาวน้อย”
ปาลอดรนทนไม่ไหว ถึงกับใช้สองแขนรวบบั้นท้ายผายตึงมาหา ก่อนจะใช้ปลายลิ้นลิ้มลองเกสรสวยอย่างหิวกระหาย กายเบื้องล่างก็ขยับขึ้นลงไปด้วย
“อื๊อ!!!”
หญิงสาวผู้ถูกรุกเบื้องล่าง ก็ไม่อาจจะกักเก็บเสียงแห่งความสุขสมเอาไว้ได้ ความหิวกระหายเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปลายลิ้นเล็กๆ รุกไล้ดื่มด่ำไปตามกายชายอย่างเอร็ดอร่อย ยิ่งเขาเพิ่มระดับความเร็วที่ปลายลิ้นมากเท่าไหร่ อุ้งปากเล็กๆ ก็เพิ่มระดับตามมากเท่านั้น
“โอว์!!! แม่สาวน้อยของป๋า มานี่มะ”
สิ้นเสียงของเขา หญิงสาวก็ถูกสองแขนรั้งให้ทาบกายลงไปหาที่นอนนุ่ม แล้วเขาก็พลิกขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมเกมเสียเอง ด้วยการเบียดท่อนล่างเข้าไปยังช่องว่าง
ประคองสองน่องนุ่มออกเพื่อเปิดทางให้กายผงาดตั้งเยี่ยมเยือนอีกกายอย่างไม่รั้งรอ ก่อนจะทุ่มกายเข้าหาอย่างหนักหน่วง จนกายสาวสะดุ้งเฮือก
“อ่าส์”
พร้อมส่งเสียงครวญครางอย่างพึงพอใจออกมา นั่นยิ่งทำให้คนคุมเกมได้ใจเลยทำแบบเดิมๆ อีกนับครั้งไม่ถ้วน ชนิดไม่คิดเกรงกลัวว่าร่างผอมบางจะบุบช้ำด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ไฟพิศวาสได้ลุกฮือขึ้นโหมกระหน่ำชนิดที่ว่า น้ำทั้งมหาสมุทรก็ไม่อาจมามอดดับได้ หากยังไปไม่ถึงปลายฝันก่อน
‘จุ๊บ’
ปาลก้มลงไปจูบแก้มสีแดงปลั่งด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อเต็มอิ่มกับรางวัลที่ได้รับเรียบร้อยแล้ว แต่แทนการถอนกายออก เขากลับจับคนนอนหายใจรวยรินอยู่ให้พลิกขึ้นมาทาบทับแผงอกเอาไว้
ซึมซับเอาจังหวะการกอดรัดจากกายหญิงอย่างเป็นสุขใจไปด้วย สองแขนก็โอบร่างเล็กๆ ที่มีสภาพหมดสิ้นเรี่ยวแรงอยู่
“หิวมั้ย”
เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ผ่ามือเลื่อนไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือย ส่วนเจ้าของแผ่นหลังนั้น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงใดๆ ออกมา ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รับอยู่บนอกเขาเท่านั้น
“ขี้เกียจขับรถออกไปหากินข้างนอกแล้ว เราไปกินบุฟเฟ่ต์บาร์บีคิวซีฟู๊ดที่ชายหาดดีกว่ามั้ย”
แก้มนุ่มๆ ขยับเขยื้อนอยู่บนแผ่งอกเขาเพื่อรับคำแทนการตอบตามเคย เขายิ้มร่าอย่างถึงพอใจ และแม้อยากให้คนบนอกนอนพักสักแค่ไหน แต่ท้องเขาร้องหาอาหารหนักขึ้นมากแล้ว เลยตัดสินใจอุ้มเรือนกายเล็กขึ้น
“คราวนี้ห้ามหลับนะ เพราะป๋าหิวจะแย่แล้ว”
“อื๊ห์ม! แล้วจะไปไหนคะ”
คนถูกอุ้มปรือตาขึ้นมองเขาด้วยความสงสัย แต่ไม่นานเขาก็พาเดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อให้ช่วยเรียกเรี่ยวแรงที่หดหายกลับมาบ้าง และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“ปะ! ใส่เสื้อผ้าจะได้รีบไปหาอะไรกิน แล้วค่อยขึ้นมาให้ป๋ากินหนูต่อ”
คนอ้างตัวเป็นป๋า อุ้มน้องหนูออกจากห้องน้ำเมื่อใช้เวลาในนั้นเพียงแค่สิบนาที และอีกสิบนาทีสำหรับแต่งตัว ซึ่งเป็นไปแบบสบายๆ ก่อนจะจูงมือกันออกจากวิลล่าไปยังลานบุฟเฟ่ต์
“โอ้โห! ปูตัวเบ่อเร่อเลยค่ะ รู้มั้ยคะว่าตั้งแต่เกิดมา เดียร์ไม่เคยกินปูตัวใหญ่ๆ แบบนี้เลย”
ปริยกรไม่คิดจะสงวนท่าทีใดๆ แต่กลับยิ้มรับ เมื่อเห็นอาหารทะเลตั้งเรียงรายรอให้ไปคว้าใส่จานแบบละลานตา ทำเอาป๋าหนุ่มยืนมองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและเป็นสุขใจอยู่ครู่หนึ่ง
ถึงได้เดินไปคว้าจานตักของที่อยากกิน ในใจก็คิดไม่ผิดที่อุตส่าห์ฝ่าความเหนื่อยพามาที่นี่ เพราะคนถูกพามานั้น กินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากกว่าทุกวันที่เคยเห็นมา
“ปลาแซลม่อนอร่อยจังเลยค่ะ ถ้าคุณปาลไม่พามา เดียร์คงไม่ได้ลองกินหรอกค่ะ”
ดวงตาคู่สวยใสจ้องมองชิ้นสีส้มแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะจุ่มลงไปในซอสวาซาบิส่งเข้าปาก ตามด้วยอาการสั่นหน้าน้อยๆ เมื่อความฉุนปี๊ดขึ้นหัว
“ฮ่าๆๆ”
ทำเอาป๋าหนุ่มหัวเราะร่า ก่อนจะทำแบบเดียวกัน ใบหน้าของเขาเวลายิ้มกว้างนั้นน่ารักไม่น้อย จนเกินที่หัวใจจะต้านแรงรักที่มีในตัวเขาเอาไว้ได้ มีบ่อยครั้งหญิงสาวอดโทษโชคชะตา
ว่าทำไมต้องสั่งให้มาพบเขา และรักเขาด้วย เพราะเขาคือชายต้องห้าม ชายที่ควรหลีกหนี แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะไปจากเขาได้
‘อีกแค่เดือนกว่าๆ เขาก็จะแต่งงานแล้วไง นั่นล่ะคือเวลาที่เขาจะสั่งให้เธอออกจากชีวิตเขา เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าหลงรักเขาให้มากไปกว่านี้ล่ะ’