EP 11

1208 คำ
“ทำไมเงียบจังล่ะเดียร์ เอ้ย! กวาง” แจ้สผู้กำลังขับรถมุ่งตรงไปยังจุดนัดหมายของลูกค้า หันมาถาม แล้วยกมือเขกกะโหลกตัวเองหนึ่งที โทษฐานลืมชื่อที่เพิ่งตั้งขึ้นให้เด็กในสังกัดสดๆ ร้อนๆ ส่วนคนเพิ่งได้ชื่อใหม่ก็ไม่รู้จะตอบอะไร เลยได้แต่นั่งเงียบเท่านั้น “กลัวเหรอ!” เจ้าของรถร่างล่ำแต่ท่าทีอ้อนแอ้นหันมาหาอีกครั้ง และยังคงได้คำตอบแบบเดิมๆ แม้จะเคืองน้อยๆ แต่ก็เข้าใจเด็กที่ไม่เคยว่ารู้สึกยังไง เลยเอื้อมมือไปแตะแขนเรียวเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ เพราะอันที่จริง แจ้สก็ให้สงสารไม่น้อย สองวันก่อนตอนเด็กเล่าเรื่องราวความจำเป็นให้ฟัง ก็มีชั่วครู่ที่เกิดความคิดอยากจะเอาเงินให้ยืมไปเป็นค่าเทอมด้วยซ้ำ แต่คิดอีกที ก็เห็นว่าตัวเองก็ยังมีภาระมากมายต้องใช้จ่ายดูแลครอบครัว เงินที่ให้ยืมไม่รู้จะได้คืนมากน้อยแค่ไหน แถมยังจะชวดเงินค่านายหน้าหลายหมื่นอีก เลยเงียบปากไว้ อีกทั้งก็คิดว่า เด็กข้างๆ มีปัญหาครอบครัวไม่น้อย ยากจะแก้ไขหมดสิ้น ตราบใดที่ยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับเมียแต่งของพ่อ เลยอยากเปิดทางให้เด็กได้พบอะไรใหม่ๆ แม้จะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก แต่เท่าที่ทำอาชีพโมเดลลิ่งมา แจ้สยังไม่เคยเห็นเด็กในสังกัดคนไหน ตายเพราะถูกผู้ชายนอนด้วยสักคน ตรงกันข้าม กลับมีแต่ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ บางคนใช้เงินเป็นก็ร่ำรวยไปแล้ว ส่วนคนใช้ไม่เป็นก็ต้องไปดิ้นรนสู้ปัญหาชีวิตต่อไป สำหรับคนข้างๆ นี้ แจ้สกล้าเดาว่า จะจัดอยู่ในพวกแรก แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ ที่เด็กบอกว่าจะทำแค่ครั้งเดียว เงินแสนนั้นสำหรับแจ้สรู้ดีว่าจะซื้ออะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ ครั้นจะยุให้ทำต่อก็ไม่สะดวกใจ เลยกะทิ้งช่วงเอาไว้ให้เด็กตัดสินใจอีกที และอาสาออกเงินค่าเทิมให้ก่อน ตอนรู้แน่ๆ ว่าเงินตัวเองจะไม่สูญไป เพื่อให้เด็กมองว่าอย่างน้อยๆ ตัวเองก็พอมีน้ำใจอยู่บ้าง “ไม่ต้องกลัวหรอกนะกวาง พี่เลือกลูกค้าชั้นดีให้เสมอสำหรับครั้งแรก พี่รู้ดีว่าเด็กพี่จะกลัวและลำบากใจ อย่าคิดมากนะ ชีวิตคนเราก็แบบนี้ล่ะ มีขึ้นมีลง มีปัญหาและอุปสรรค สำคัญว่าถ้ามีเงินแล้ว ก็อย่าลืมสาเหตุที่ทำให้เราต้องมาทำงานแบบนี้แล้วกัน จะได้รู้จักเก็บเงินเก็บทองเอาไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น อย่าสุรุ่ยสุร่าย จนต้องขายตัวไปยันแก่เหมือนผู้หญิงบางคน” ปริยกรซาบซึ้งในคำตักเตือนและแนะนำของแจ้สไม่น้อย แต่ก็อดสะดุ้งกับคำว่า ‘ขายตัว’ ไม่ได้ ในใจก็ทวนถามคำนี้ซ้ำๆ ซากๆ ว่าตัวเองกำลังจะก้าวมาเป็นผู้หญิงอย่างว่า ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแล้ว และดูเหมือนว่าแจ้สจะรู้ว่าพูดไม่ระวัง เลยหน้าถอดสีก่อนจะหันไปหา “ลูกค้าคนนี้ไม่ชอบคนพูดมาก ไม่ชอบคนถามซอกแซก ไม่ชอบให้เรานำ แต่อยากให้เป็นผู้ตาม” พูดถึงจุดนี้ แจ้สก็หัวเราะร่าออกมาด้วยความขำ ก็ในเมื่อเด็กไม่เคย แล้วจะไปนำได้ยังไง และดูเหมือนเด็กจะหันมาหาด้วยความไม่เข้าใจเช่นกัน “พี่หมายถึงพูดนำเรื่องทั่วๆ ไป เช่นว่าอยากได้ทริปเพิ่มก็ไม่ควรไปชี้นำ ให้เขาเป็นคนคิดเอง อะไรทำนองนี้น่ะ” ปริยกรไม่ได้เอ่ยอะไร แค่ฟังนิ่งๆ ด้วยใบหน้าที่ยังคงเหงา เศร้าไม่ห่างหาย แจ้สเองก็รีบหันไปย้ำเตือนสิ่งที่บอกมาแล้วครั้งหนึ่งตอนเด็กแต่งหน้า ทำผมอยู่บ้านเขา เพราะจวนเจียนจะถึงจุดหมายแล้ว “ลูกค้าพี่คนนี้ชอบผู้หญิงใสๆ เรียบร้อยๆ แต่งตัวถูกกาลเทศะ ไม่คุณหนูจ๋า หรือไม่หวื๋อหวาจนเกินงาม แล้วก็ชอบคนพูดน้อยๆ หรือทำมากกว่าพูด ชอบคนเป็นธรรมชาติ ไม่ใส่เสแสร้ง กวางต้องท่องที่พี่บอกไว้ให้ดีนะ ถ้าทำได้กวางอาจจะฟรุ้คได้ทริปงามๆ มาอีกหลายหมื่นเชียว ไม่ได้โม้นะจ๊ะ เด็กพี่เคยได้จากแกมาแล้ว” ปริยกรไม่อาจเอ่ยอะไรออกมาได้ เมื่อแจ้สขับรถจอดไว้หน้าคอนโดหรูหราแล้ว จึงได้แต่เดินตามมือแจ้สเข้าไปล๊อบบีด้านใน รู้สึกเหมือนว่าพนักงานจะหันมามองเป็นตาเดียวกัน หรืออาจจะเป็นแค่อุปทาน! สองเท้าจึงรีบก้าวตามไปยืนอยู่หน้าลิฟต์ด้วยหัวใจหวาดระแวง “ไม่ต้องถามเรื่องเงินจากลูกค้าเลยนะกวาง เสร็จแล้วเขาจะโอนเข้าบัญชีให้เอง ส่วนของพี่โอนมาแล้วตั้งแต่บ่าย” อีกครั้งที่ปริยกรสะเทือนใจกับคำว่า ‘เสร็จแล้ว’ ของเพื่อนร่วมลิฟต์ เลยไม่เอ่ยอะไรออกมา นอกจากถอนหายใจหนักๆ แล้วรอกระทั่งถึงชั้นสามสิบแปด ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของคอนโด ก็เดินตามแจ้สออกไป ไม่กี่นาทีก็มายืนอยู่หน้าห้องหมายเลย สามแปดศูนย์แปดแล้ว “พี่ส่งแค่นี้ล่ะนะ แล้วพรุ่งนี้พี่จะโทรหาตอนบ่ายๆ โชคดีนะกวาง” หัวใจให้รู้สึกโหวงเหวงขึ้นมามากกว่าตอนแรกโข เมื่อผู้เสมือนเป็นที่พึ่งในยามยากโบกมือให้ แล้วเดินกลับไปทางเก่า หญิงสาวต้องตั้งสติอยู่นานหลายนาที กว่าจะสั่งมือให้ยกขึ้นกดออดได้ จากนั้นก็กลั้นหายใจรอดู ว่าคนจะมาเปิดประตูให้นั้น มีรูปร่างหน้าตายังไง จะขี้ริ้วขี้เหร่หรือหล่อเหลามากน้อยแค่ไหน ‘หล่อเหลา’ หญิงสาวสะเทือนใจ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายหล่อคนไหน จะต้องใช้เงินซื้อเซ็กส์บ้าง ในเมื่อผู้หญิงสมัยนี้พร้อมจะพลีกายให้แบบฟรีๆ อยู่มากมาย ยิ่งมีคอนโดหรูหราราคาแสนแพงแบบนี้ด้วยแล้ว บ่งบอกได้ว่าฐานะการเงินคงไม่ธรรมดา หรือจะวัดได้จากเงินแสนห้าที่เขากล้าจับจ่าย เพื่อซื้อพรหมจรรย์อีกหนึ่งเหตุผล คงไม่ใช่คนหล่อเหลาเป็นแน่ แต่ปริยกรก็ภาวนาขออย่าให้เขาเป็น อาเสี่ยหัวล้าน พุงพุ้ย ตะกะตะกาม เหมือนที่เคยเห็นในละครน้ำเน่าหลังข่าวเลย เพราะไม่อย่างนั้น ตัวเองอาจจะวิ่งหนีกลับไปทางเดิมก็เป็นได้ “สวัสดีครับ” แล้วคนมาเปิดประตูนั้น แม้ไม่หล่อเหลาเหมือนชายที่อยู่ในใจตัวเองมาหลายปี แต่ก็ไม่ใช่อาเสี่ยหัวล้าน พุงพุ้ย อย่างแน่นอน เพราะมีรูปร่างสันทัด หน้าตี๋ใส่แวนใสแจ๋วแล้วยิ้มกว้างให้ ส่วนจะตะกละตะกลามหรือไม่นั้น ไม่อาจจะรู้ได้ จนกว่าจะถึงห้วงเวลาที่เฝ้าภาวนาขออย่าให้มันมาถึงเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม