~Chapter 4 ~

1320 คำ
“…” ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าหากว่าตั้งแต่เกิดมาฉันไม่มีเหนือในหัวใจตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่รู้สึกว่างเปล่าได้ขนาดนี้ เพราะว่ามันเหมือนกับว่าฉันได้ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งกับเขา “อึก…” ฉันกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยายามที่จะส่ายหน้าไปมาเพื่อไม่ให้ใบหน้ารู้สึกร้อนเกินไป ไม่งั้นน้ำตาคงไหลแน่ ๆ ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิมแม้นว่าเฌอรีนจะเดินออกไปไกลแล้ว และตอนนี้ก็มีคนกำลังเดินผ่านฉันไปมาด้วยความเร่งรีบเพื่อเข้าคลาสในภาคบ่าย จริงอย่างที่เฌอรีนพูด ฉันไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเธอหรือห้ามเหนือ มันต้องเป็นฉันเองในฐานะแฟนเก่าที่ควรจัดการความรู้สึกตัวเอง พรึ่บ! “ยัยโง่…” “ฮืออ~” เสียงทุ้มลึกของวาโยทำให้ฉันร้องไห้ออกมา ฉันไม่รู้ว่าวาโยมาตอนไหน แต่พอมาถึงเขาก็รั้งศีรษะฉันเข้าซบที่แผงอกแกร่ง คงเป็นเพราะว่าน้ำตาของฉันที่มันไหลออกมาแน่ ๆ มันก็เลยทำให้วาโยทำแบบนี้ “น้ำมูกมึงเปื้อนเสื้อกาวน์กูว่ะพาย” ฉันยังคงสะอื้นไห้ แม้ว่าคำพูดของวาโยจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมา “ฮึก…” “จะเข้าไหมแล็บ กูพาไปเที่ยว” นานพอสมควรกว่าที่เสียงวาโยจะดังขึ้น ฉันก็เลยค่อย ๆ ขยับตัวออกห่างจากวาโย พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ ก่อนจะมองคนตัวสูง คำถามของวาโยคงต้องการให้ฉันตอบว่าไม่เข้าแน่ ๆ เพราะดูท่าแล้วเขาอยากโดดแล็บบ่าย “โย เหมือนเหนือจะคบกับเฌอรีนเลย” ฉันไม่ตอบวาโย แต่ถามเรื่องที่ฉันอยากรู้ ซึ่งวาโยมองสบสายตากับฉันก่อนที่เขาจะพ่นลมหายใจออกมา “มันไม่คบหรอก” “โยว่างั้นเหรอ” ฉันไม่รู้ว่าที่วาโยพูดแบบนี้คงอยากให้ฉันยิ้มได้มั้ง เพราะตอนนี้ฉันก็เริ่มคลายความกังวลลงบ้างแล้ว “มึงแดกข้าวยัง วันนี้มึงลืมทำกับข้าวให้กูพาย” “ก็เมื่อเช้าเกิดเรื่อง พายเลยไม่ได้ทำ วาโยไปกินข้าวก่อนไหม” “มึงดูเวลาด้วย” พอได้ยินแบบนี้ฉันก็ก้มมองนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง ก่อนจะพบว่าอีกห้านาทีฉันต้องเข้าแล็บ “ไอ้ห่าเหนือล่ะ” “ไม่รู้ พายว่าเรารีบไปกันเถอะ” “มึงไปก่อนเลย กูหาไรแดกก่อน” “โย แล็บอาจารย์ไม่ให้เข้าสายนะ” “กลัวไร เลตได้สิบห้านาทีกูต้องใช้โควตาให้ครบ” “ทำแบบนั้น ฝนจะบ่นนะ” “บ่นได้ก็เปลี่ยนคู่แล็บไม่ได้หรอก กูขอทำใจแป๊บ” ฉันอมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น วาโยน่ะชอบทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าปลายฝน คงลีลาเข้าแล็บเพราะเหตุผลนี้ “งั้นเดี๋ยวพายไปก่อนนะ” “อืม…อะ กูให้” ฉันยื่นมือไปเอาแซนด์วิชที่วาโยยื่นมาให้ก่อนที่ฉันจะยิ้มให้วาโย แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากตรงนั้น แต่แล้ว กึก! “เหนือ…” “หึ” ฉันไม่รู้ว่าเหนือยืนอยู่ข้างหลังฉันนานแค่ไหนแล้ว แต่ที่แน่ ๆ วาโยต้องเห็น แล้วเขาจะถามหาน้ำเหนือทำไมตั้งแต่แรก “บุ้ง!” วาโยทำเสียงออกมาจากริมฝีปากหนา เหมือนกับว่าได้ทำอะไรสนุก ๆ ก่อนที่เขาจะยกลำแขนแกร่งขึ้นพาดไหล่ฉัน “มันหึง” เสียงของวาโยดังขึ้นที่ใบหูของฉัน ก่อนที่ฉันจะจับลำแขนของวาโยยกออกจากไหล่ของฉัน “เหนือ…” “มาช้าแล้วยังจะเข้าสายอีกนะมึง” “หึ” วาโยยักไหล่ขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปหาน้ำเหนือ ฉันมองร่างสูงสองคนที่กำลังเดินเข้าไปในโรงอาหาร ซึ่งมันทำให้ฉันพ่นลมหายใจออกจากริมฝีปาก ฉันไม่รู้ว่าฉันจะใจเต้นแรงกับคำพูดของวาโยทำไม เพราะท่าทางของเหนือมันไม่ได้แสดงออกว่าเขาหึงหวงฉันเหมือนแต่ก่อนแล้ว พอคิดแบบนี้แล้ว เจ็บชะมัด… -น้ำเหนือ- “_” “อ่า…อย่าบอกนะว่ามึงหึงพายจริง ๆ แกร่งหน่อยไอ้เสือ” เสียงของไอ้ห่านี่ทำให้ผมอยากเอาเท้าสวย ๆ อัดหน้าเข้าให้ มันกวนตีนผม “มึงจะเข้าเลต?” “ทำไมโควตามีไว้ให้มึงคนเดียวหรือไง” ไอ้โยมันไหวไหล่ขึ้นก่อนจะเดินไปสั่งอาหาร ผมไม่ค่อยหิวเท่าไรเลยไม่ได้เดินไปพร้อมกับมัน ให้เดามันคงเพิ่งตื่น อาบน้ำหรือยังก็ไม่รู้ “กูแดกห้านาทีเสร็จ” ผมยังไม่ได้พูดอะไรแต่ไอ้ห่านี่ก็พูดขึ้นมาก่อน ผมก็คงเหมือนมันไม่อยากเข้าทำแล็บเพราะคู่แล็บผมคือพระพาย “...” “ทำไมไม่ตอบกูล่ะ อ่า ยังหึงพายอยู่สินะ มึงไว้ใจกูได้เพื่อน” “ไว้ใจเหี้ยไร อย่าพูดคำนี้กับกู” “ฝังใจสินะ ปล่อยผ่านบ้างก็ได้ ทั้งสองคนเลยทั้งมึงทั้งพาย เป็นเหี้ยไรก็ไม่รู้” “มึงเป็นกูมึงจะไม่พูดแบบนี้โย” “ครับ ๆ ผมไม่เข้าใจหรอกครับ” ถ้ามีถ้วยให้คนกวนตีนผมจะยกถ้วยให้มัน แต่ไอ้ห่านี่ก็พูดกวนตีนได้แต่กับคนในบ้านแหละ พออยู่กับคนอื่นมันขี้เก๊กจะตาย คนถึงพูดว่ามันเป็นเจ้าชายแตะต้องไม่ได้ “เย็นนี้…ฟรายเดย์” “ฝันไปเถอะ กูไม่ไปหรอก เดี๋ยวมึงทิ้งกูให้นอนที่ผับอีก” ผมยกยิ้มมุมปากที่ได้ยินอย่างนี้ ไอ้ห่านี่คออ่อนฉิบหายเลยแหละ “กูอยากเมา” “เหรอ กูนี่จะเมาก่อนมึง เดี๋ยวมึงได้ผู้หญิงแล้วทิ้งกูเหมือนเดิม ไปชวนไอ้ห่าพอตไป” “ชวนไร แม่งจะต่อยกูตลอด” ผมอึดอัดนะกับความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อน ๆ ที่เปลี่ยนไป แต่ทำไงได้พอมันแตกแบบนี้ทุกคนก็ต้องเลือกข้าง ซึ่งแม่งไม่มีใครเลือกผมเลยรวมถึงไอ้ห่านี่อีกคน “พายบอกมึงจะคบกับเฌอรีน?” ผมหันหน้ามามองใบหน้าของไอ้โยอีกครั้ง มันกำลังเคี้ยวข้าวไปด้วยพูดไปด้วย ผมอยากถ่ายรูปไปโพสต์ในกลุ่มของวงที่มีแฟนคลับของมันติดตามอยู่ เพื่อทุกคนจะได้เห็นด้านมืดของมันบ้าง “ไม่ตอบ แสดงว่าจะคบสินะ” ผมยังไม่ได้พูดไรสักหน่อย แต่วันนี้พอได้เห็นว่าพระพายร้องไห้แบบนั้น ผมชักอยากจะคบกับเฌอรีนจริง ๆ ซะแล้วสิ แล้วเรื่องเมื่อคืนที่พระพายถามเรื่องผมกับเฌอรีน ก็ตามนั้น ช่วยไม่ได้ก็เสนอให้ ไม่สนองก็โง่ละ “มึงอย่าทำประชดพายเลย เลิกกันแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกันปะวะ มึงทำแบบนี้มันจะไม่เหลือเพื่อนเลยนะเว้ย “ใครอยากเป็นเพื่อนกับยัยนั่น ผู้หญิงแบบนั้นกูไม่อยากคบต่อหรอก” “อ่า…เท่จังครับ มึงมีใหม่เขาก็มีใหม่ได้เหมือนกัน พอเขามีอย่าให้กูได้ยินว่าเป็นหมาหวงก้างนะครับ” “หมาบ้านมึงสิหวงก้าง” “มึงมันหมาบ้าไง…เชื่อเถอะมึงคลั่งแน่ ๆ” “พูดมากว่ะ” “มึงก็ใจเย็นบ้าง กูไม่อยากเสียเพื่อนอีกคน” คำพูดของมันทำให้ผมพ่นลมหายใจออกมา ทำไงได้มันไม่ได้เจอแบบผมนี่ ไอ้ห่านี่เลยพูดได้ ใครจะเข้าใจความรู้สึกผมเท่าตัวผมเอง...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม