ตอนที่ 2
ความซับซ้อนของรัก (1)
“ขอบคุณนะคะพี่ปราบต์ ที่พาเราสองคนไปเลี้ยงข้าว อิ่มอร่อยมากๆ เลยค่ะ”
พิมพ์ณาราจับเบาะรถเอาไว้ พลางชะโงกหน้าไปยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มที่พาเธอมาส่งถึงหน้าบ้านในเวลาพลบค่ำ มือบางคว้ากระเป๋าสะพายมาคล้องไว้ที่แขน ก่อนขยับกายไปชิดประตูด้านหนึ่งเพื่อที่จะเปิดมันลงไป เพียงเห็นเขาหันมายิ้มให้กันก็อดที่จะหัวใจพองโตไม่ได้ แม้จะเป็นรอยยิ้มเพื่อตอบมิตรไมตรีของเธอก็ตามที
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้ว”
ปฐพีมองตามพิมพ์ณาราที่กำลังลงจากรถไปก่อนหน้าผู้เป็นน้องสาว รอจนเธอปิดประตูรถแล้วเดินไปกดกริ่งที่หน้าประตูรั้วบ้าน ก่อนจะหันมาจับจ้องหญิงสาวที่นั่งคู่มากับตนด้วยแววตาสื่อความหมาย ทั้งที่ความจริงเขาไม่อยากพาเธอมาส่งในตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะเกรงใจทางบ้านของเธอจึงไม่อยากที่จะพามาส่งบ้านในเวลาที่มืดค่ำมากไปกว่านี้
“ขอบคุณเช่นกันนะคะพี่ปราบต์ รบกวนอยู่เรื่อยเลย”
พิมพ์มาดายกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้า ที่นับถือเสมือนพี่ชายเพื่อแทนคำขอบคุณ พร้อมเผยรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้ ขณะที่เขามองกลับมาอย่างไม่ละสายตา จนพานให้คนถูกมองนึกประหม่าขึ้นมาเสียดื้อๆ มือบางทำทีคว้ากระเป๋าสะพายที่อยู่บนตัก แต่เขาว่องไวกว่ามากนักราวรู้ทัน รีบรวบฝ่ามือนุ่มนิ่มเอาไว้คล้ายต้องการรั้งให้อยู่ต่อ ไม่อยากให้เธอหนีลงจากรถไปในช่วงเวลาที่กำลังได้โอกาสเหมาะเช่นนี้
“เดี๋ยวสิน้องแพง จะรีบหนีพี่ไปไหน”
“พี่เพื่อนลงไปยืนรอโน่นแล้ว แพงต้องไปแล้วค่ะ”
พูดพลางปรายตาไปยังพี่สาวตน ที่กำลังยืนรอให้แม่บ้านมาเปิดประตู และยังมองมาที่รถคล้ายกำลังสงสัยว่าทำไมเธอจึงยังไม่ตามลงไป แต่ปฐพีกลับไม่ฟังคำขอร้องของเธอ เพราะเขายังไม่อยากกลับไปตอนนี้ คิดว่าเดี๋ยวสักพักพิมพ์ณาราก็คงจะเข้าบ้านไปก่อน หากเห็นว่าพิมพ์มาดายังไม่ยอมตามลงไป
“เดี๋ยวน้องเพื่อนก็เข้าไปก่อนเองแหละ”
ชายหนุ่มเอี้ยวหน้าไปมองคนที่กำลังพูดถึงตามสายตาของหญิงสาวตรงหน้า สักพักก็เห็นฝ่ายนั้นเดินเข้าบ้านไปอย่างเงียบๆ เหมือนจะรู้ว่าคนข้างในรถไม่ต้องการให้เธอยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไป
“พี่ปราบต์…เอ่อ…มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ก็พี่อยากอยู่ใกล้ชิดน้องแพง ยังไม่หายคิดถึงเลย”
“เอ่อ…”
คนฟังยิ้มเฝื่อน พลางเสมองไปทางอื่นโดยไม่ยอมสบตาคนพูด เมื่อเขาเปิดใจกันซึ่งๆ หน้าชนิดหมดเปลือก แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาคิดอย่างไร แต่ในวันนี้ใจเธอยังคงร้องบอกว่ารักเขาในฐานะอะไร และไม่อาจคาดเดาได้ว่าในวันข้างหน้านั้นความรู้สึกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และเธอเองก็เคยบอกไปแล้วว่าคิดกับเขาเช่นไร แต่อีกฝ่ายนั้นพร้อมที่จะรอเสมอ
“พักนี้พี่ไม่ค่อยว่างเลย เวลาที่จะมาเจอกันก็น้อยเต็มที”
“ก็พี่ปราบต์ต้องทำงานนี่คะ”
“ไปเที่ยวกันมั้ย”
“คะ”
คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นอย่างนึกแปลกใจ เมื่อเขาเอ่ยชวนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และหากเธอจะไปจริงๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร ด้วยเขาเป็นที่ไว้วางใจของทางบ้านเธออยู่แล้ว และเหมือนจะเป็นที่รักใคร่ของคนในบ้านเธอเสียด้วย การที่เขาพาเธอไปไหนต่อไหนจึงไม่เป็นเรื่องน่าห่วงอะไร เพราะเขาคือคนที่ทางบ้านเชื่อมั่นว่าสามารถดูแลเธอได้
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็…จู่ๆ พี่ปราบต์ก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ นี่คะ ไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ ชวนกะทันหันแบบนี้แพงตั้งหลักไม่ทันน่ะค่ะ”
“ไปเที่ยวชุมพรกับพี่มั้ย พี่จะลงไปดูสวนปาล์ม”
“ชวนพี่เพื่อนไปด้วยสิคะ จะได้สนุก ไปกันสองคนเหงาแย่เลย”
“แล้วทำไมน้องแพงถึงไม่คิดว่า พี่อยากไปกับน้องแพงแค่สองคนบ้าง”
“พี่เพื่อนจะคิดยังไง ถ้าพี่ปราบต์ไม่ชวน”
ปฐพีลอบถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็งในอารมณ์ เมื่อพิมพ์มาดานั้นเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่มักจะชวนพี่สาวของตนตามติดไปด้วยทุกครั้งเมื่อยามเขาพาเธอออกไปข้างนอก และมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลยสักนิด “ถามน้องเพื่อนดูก่อนสิ ว่าอยากไปมั้ย เผื่อบางทีพี่สาวน้องแพงเขาอาจจะอยากนอนอยู่บ้านบ้างก็ได้”
“พี่ปราบต์นั่นแหละชวน นะคะ ให้พี่เพื่อนไปด้วย นะๆ”
หญิงสาวกอดแขนชายหนุ่มเอาไว้ พลางมองด้วยสายตาเว้าวอน รอยยิ้มเผยเขี้ยวเสน่ห์ของเธอหลอมละลายใจชายหนุ่มตรงหน้า ราวมีมนตร์เสน่ห์สะกดใจให้ลุ่มหลง จนต้องยอมตามใจเธออีกครั้ง
“ตามใจน้องแพงก็แล้วกัน”
“พี่ปราบต์น่ารักที่สุด”
รอยยิ้มสดใสเปื้อนอยู่บนใบหน้าด้วยความดีใจ หญิงสาวโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มตรงหน้าอย่างลืมตัว ลืมคิดไปว่าเขาไม่ได้เห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเหมือนวันวาน และคิดน้อยไปนิดว่านั่นคือสิ่งไม่สมควรกระทำ เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสกับผิวแก้มสาก เลือดในกายหนุ่มก็วิ่งพล่าน พานให้ร้อนรุ่มอยู่ในหัวอก นึกอยากจับเธอมาทำโทษเสียให้หลาบจำ ที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในภาวะแสนทรมานเช่นนี้
“น้องแพง…”
มือหนารั้งศีรษะเล็กเอาไว้ เมื่อเธอกำลังจะผละออกห่างด้วยรู้ตัวว่าไม่สมควร ชายหนุ่มพยายามสูดลมหายใจให้ลึกแล้วหลับตานิ่งเพื่อข่มความต้องการภายในเอาไว้ ไม่ให้ล่วงเกินกันมากไปกว่านี้ ทั้งที่เขาอยากจะสัมผัสกับกลีบปากนุ่มที่อยู่ห่างเพียงปลายนิ้วกั้น ลิ้มลองให้สมกับที่เฝ้ารอมานาน แต่เพราะม่านบางๆ ของคำว่าพี่ชายและน้องสาวที่เธอได้นำมาขวางกั้นไว้ ก็ทำได้เพียงแนบหน้าผากของตนเข้ากับหน้าผากนวลเนียนอย่างแสนเสียดาย มันใกล้ชิดเสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รุ่มร้อนของกันและกัน
“อย่าทำแบบนี้อีก รู้มั้ยครับ”
ปลายนิ้วแกร่งไล้กลีบปากนุ่มเล่นแผ่วเบา ขณะกระซิบเสียงเบาหวิว ความแนบชิดเพียงปลายนิ้วเอื้อมมีพลังรุนแรงที่ทำให้หัวใจหนุ่มเต้นแรง แต่เขาพยายามบอกตัวเองว่าการอดเปรี้ยวไว้กินหวานนั้น เมื่อถึงเวลารสชาติของมันจะติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม และเมื่อวันนั้นมาถึงเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้ห่างกายไปไหน
“แพงขอโทษค่ะ ที่ทำอะไรลงไปโดยไม่ยั้งคิด”
“พี่ไม่รับรองความปลอดภัย กลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ แล้วรังแก
น้องแพงก่อนที่จะถึงเวลาอันเหมาะสม”
คำพูดนั้นมาพร้อมกับแววตาทอประกาย ที่คนฟังถึงกับใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็น เขาไม่เคยรุกหนักเท่าครั้งนี้มาก่อน การที่เขาจู่โจมกันเช่นนี้ ทำให้พิมพ์มาดาเริ่มหวาดหวั่น เพราะคิดว่าเขาคงไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปอยู่ในอ้อมกอดชายอื่นอย่างแน่นอน
“พี่ปราบต์พูดอะไรก็ไม่รู้ ไปดีกว่า”
หญิงสาวออกแรงยันกายออกห่าง เมื่อเขามองมาด้วยแววตาจริงจัง และยังรุกหนักด้วยคำพูดจองจำเอาไว้ ท่าทางของเธอทำให้เขามองมาพร้อมรอยยิ้มขบขัน มือบางคว้ากระเป๋าสะพายมาแนบอก รีบเปิดประตูรถลงไปทันที
ปฐพีมองตามแผ่นหลังของคนที่รักจนสุดหัวใจ อยู่รอให้เธอเดินเข้าบ้านไปจนลับสายตา แล้วจึงขับรถออกไปอย่างช้าๆ เนื่องจากมั่นใจว่าเธอเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว