“อย่าดื้อน่าวา วันนี้เดินทางทั้งวันยังไงก็ต้องอาบน้ำก่อนนอนเข้าใจไหม” ไม่ไหวจะเคลียร์จึงต่อว่าภรรยาแล้วจัดการอุ้มหล่อนพาเข้าไปในห้องน้ำจะอาบให้เองซะเลย
จับกดหัวไหล่หล่อนให้นั่งรออยู่ขอบอ่างจากุ๊ดซี่ก่อนตนเองจะเปิดน้ำและผสมน้ำสำหรับนอนแช่สองคน
แอบมองเป็นระยะๆ กลัวหล่อนจะหัวทิ่มพื้นก่อนน้ำจะเต็มอ่างซะก่อน รอกระทั่งน้ำได้ที่แล้วเพลิงกัลป์ก็จัดการกับเสื้อผ้าตัวเองแล้วเดินมาหาภรรยาสาวกระซิบสั่ง
“ถอดเสื้อผ้าออกเร็วเข้าเราจะอาบน้ำด้วยกัน”
“วามึนศีรษะค่ะคุณเพลิง”
“ฉันมียาให้”
เพลิงกัลป์บอกเพียงเท่านั้นโดยไม่ยอมให้ภรรยาได้เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในนัยน์ตาคู่คม...
วารยารู้สึกมึนศีรษะอย่างหนักอาจเพราะดื่มมากเกินไปกำลังเคลิ้มๆ หลับสติสตางค์ไม่เต็มร้อยเลยยอมทำตามคำสั่งสามีเลื่อนปลายนิ้วมาแกะกระดุม แต่ทำไมมันถึงแกะยากแกะเย็นอะไรอย่างนี้
สายตาเพลิงกัลป์จ้องมองอย่างลุ้นๆ แกะออก ไม่ออก ออก ไม่ออก ไม่ออก ต้องออกสิ! โธ่ แกะนานเกินไปแล้วนะวา!
“รีบแกะสิวาไม่อยากได้ยาเหรอ”
เร่งเร้าภรรยายกเอายามาล่อลวง หากหล่อนรู้ว่าในความหมายยาของเขาคืออะไรคงได้เผ่นจนป่าราบ
“วาแกะไม่ออกค่ะคุณพละ... ว้าย!”
ตอบได้เท่านั้นแล้วร่างกายวารยาก็โอนเอนหงายหลังตกลงไปในอ่างน้ำรวดเร็วจนเพลิงกัลป์คว้าไว้ไม่ทัน
หล่อนตกใจลืมความมึนศีรษะไปซะสนิทโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแล้วใช้มือลูบน้ำฟองออกจากใบหน้าตนเองหันเร็วไปทางสามีตั้งใจจะต่อว่าที่เขาไม่ช่วยก็ต้องแก้มแดงแปร๊ดที่เห็นเขาโป๊
เพลิงกัลป์ย่อกายนั่งลงในระดับสายตา “เธอนี่ซุ่มซ่ามจริง บอกให้จับผนังให้ดีๆ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง สร่างเมาเลยใช่ไหม”
“วะ... วาแค่มึนไม่ได้เมาสักหน่อย” วารยาเมินหน้าหนีไปทางอื่นรู้สึกหนาวเหน็บจนต้องยกสองมือขึ้นกอดตัวเอง แม้จะมีเสื้อผ้าครบแต่หล่อนก็อดที่จะไหวหวั่นไม่ได้
“เถียงเก่งจริง ขยับไปอีกฉันจะลงไปแช่น้ำด้วย อ้าว แล้วนั่นจะลุกไปไหน” ชายหนุ่มผวาเฮือกเอื้อมมือมากดหัวไหล่หล่อนให้นั่งลงที่เดิมแล้วก้าวตามไปนั่งซ้อนหลังดึงภรรยาเข้ามาใกล้เพื่อปลดประดุมเสื้อ ทว่าหล่อนไม่ยอมง่ายๆ ส่งมือเล็กมาจับมือเขาไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับไปไหน
“วาคิดว่า เราน่าจะดูใจกันไปก่อน ผะ... เผื่อว่าเราอาจไปกันไม่รอด” กล่าวแล้วก้มหน้างุด ทว่าคำพูดนั้นเหมือนเป็นดั่งสายลมที่เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งนั้น
“รู้ได้ไงว่าเราจะไปกันไม่รอด หรือคิดเองเออเองแล้วเก็บเอาไปคิดโดยไม่ถามฉันสักคำ”
“ก็เรา... ไม่ได้รักกันนี่คะ”
เสียงของวารยาแผ่วเบาลงมากในขณะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำนั้นออกไป เราไม่ได้รักกัน เพราะหล่อนรักเขาส่วนเขานั้นไม่ได้รักหล่อนเลยสักเสี้ยวหัวใจ
“อย่างี่เง่าไปหน่อยเลยวา อนาคตก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไปสิอย่าเอามาคิดปะปนกับปัจจุบัน”
เพลิงกัลป์บอกเสียงขุ่นหมองก่อนแกะมือบอบบางออกมาวางไว้บนต้นขาแกร่งใต้น้ำฟองสบู่ เริ่มต้นแกะกระดุมเสื้อภรรยาจากแถบล่างขึ้นมาข้างบนจนหมดสิ้น
“คุณเพลิง...” กระซิบแผ่วเมื่อปลายนิ้วเขาแตะลงขอบบราเซียร์เตรียมปลดมันออก
“อย่าคิดมากเลยนะเดี๋ยวมันก็ดีเอง เธอเป็นเมียฉันอย่าลืมสิวา” มองเสี้ยวดวงหน้าของภรรยาเห็นหล่อนพยักหน้าอนุญาตก็จัดการปลดมันออกแล้ววางปลายคางลงหัวไหล่หล่อนจูบไล้ต้นคอนวลเนียนขึ้นมาถึงใบหูเล็ก เลื่อนสองมือสากระคายลูบฝีข้างภรรยาขึ้นมาถึงทรวงอกเต่งตึง