7
“คุณเสือคะปรางค์ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” ปรางค์รวีตัดสินใจพูด หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากที่นั่งเป็นอาหารตาของเพื่อนของเขา โดยที่วิตโตริโอไม่มีทีท่าว่าจะปกป้องเลยแม้แต่นิดเดียว
“อืมไปสิ” เขาหันมาพูดกับเธอ ก่อนจะสนทนากับเพื่อนต่อไป
“วิโตรู้สึกว่านายจะกินอาหารจานนี้เกินกว่าจานอื่นๆ นะ”
บุรินทร์ผู้ชายที่มีนิสัยเจ้าชู้ เอ่ยถามวิตโตริโอทันทีที่ร่างของปรางค์รวีเดินออกไปจากโต๊ะ
“ใครว่ากินนาน ฉันยังไม่ได้กินต่างหาก” เขาตอบเพื่อนสนิท สีหน้าของบรรดาเพื่อนๆ ที่อยู่ร่วมโต๊ะ ไม่เชื่อคำพูดของเขา ไม่คาดคิดว่าเพลย์บอยแห่งยุคจะปล่อยให้อาหารหวานลอยนวลได้นานขนาดนี้
“เป็นไปได้ยังไงวะอย่างนายเนี่ยเหรอยังไม่ได้กินอาหารหวานจานนี้ ฉันนึกว่าเสร็จนายไปนานแล้วเสียอีก” ธีรยุทธ์พูดเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ใกล้วิตโตริโอ ไม่เกินหนึ่งวันผู้หญิงคนนั้นต้องกรายมาเป็นอาหารหวานของหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ทุกราย
“อาหารจานนี้ฉันอยากจะพิถีพิถันในการกินมากกว่าจานอื่นๆ ค่อยๆ กินทีละนิดๆ มันถึงจะอร่อยและเร้าใจ บุ่มบ่ามกินอย่างตะกละตะกลามมันจะไปอร่อยอะไร กินไม่กี่ครั้งก็เบื่อพวกนายว่าจริงไหม” น้ำเสียงและสีหน้าของผู้พูดเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คืนนี้เป็นคืนที่เขาตั้งใจจะลิ้มลองอาหารหวานที่เก็บกักไว้มานานสองสัปดาห์ เขาไม่ชอบหักหาญน้ำใจผู้หญิงที่ไม่เต็มใจ มันไม่เร้าอารมณ์เท่ากับหญิงสาวที่สมยอม วิตโตริโอจึงใช้เสน่ห์ที่มีหว่านล้อมปรางค์รวีทีละนิด ให้เธอหลงมาติดกับและรัก จนไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เขาร้องขอได้
“เหมือนเดิมได้หรือเปล่าคนนี้น่ะ นายเบื่อเมื่อไหร่ฉันขอเซ้งต่อนะ ฉันก็อยากจะเร้าใจเหมือนนาย”
บุรินทร์รู้สึกพอใจในตัวปรางค์รวี เธอสวยใสและดูซื่อไม่เหมือนกับผู้หญิงที่ผ่านๆ มาของตน ที่กร้านโลกจนบางครั้งบุรินทร์รู้สึกเอียน
วิตโตริโอหันขวับมามองผู้พูด สายตาของเขาจ้องมองเพื่อนเขม็ง คำพูดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่บุรินทร์พูด ทุกครั้งที่เขาเบื่อคู่ควง หญิงสาวคนนั้นจะตกเป็นอาหารหวานของเพื่อนเขาคืนสองคืน ก่อนจะปล่อยทิ้งไปอย่างไม่เห็นคุณค่า แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน คำพูดของเพื่อนมันดูเสียดแทงหัวใจของเขายิ่งนัก รู้สึกไม่พอใจหากปรางค์รวีจะไปอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนอื่น
“ถ้าเบื่อนะแต่ว่าคงเบื่อยากนายรอไหวหรือเปล่าล่ะ สักสิบปียี่สิบปี” เขาพูดเสียงเรียบ หากแววตานั้นไม่ได้เรียบดั่งคำพูดเลยแม้แต่นิดเดียว แววตาที่เพื่อนรักเห็นบอกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ใครห้ามแตะ
“ไม่ให้ก็บอกมาสิไม่ต้องมาโยกโย้หรอก คนนี้มีหวงด้วยเว้ย”
บุรินทร์พูดติดตลกเพื่อให้บรรยากาศคลายความตึงเครียด การสนทนายุติลงเมื่อร่างของปรางค์รวีเดินมาถึงโต๊ะ
“คุณเสือคะกลับกันเถอะคะ นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว”
“ฉันลืมไปเลยว่าบอกปรางค์ว่าจะกลับไม่เกินเที่ยงคืน เรากลับกันเลยนะ” วิตโตริโอพูดเสียงคล้ายตกใจ “ฉันกลับก่อนนะเพื่อนโอกาสหน้าเจอกันใหม่”
วิตโตริโอบอกลาเพื่อนๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะ ลำแขนหนาของเขาโอบเอวบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ราวจะประกาศกลายๆ ให้ผองเพื่อนรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ปรางค์ฉันมีเรื่องจะเซอร์ไพร์ส” วิตโตริโอเอ่ยบอกปรางค์รวีหลังจากที่เดินออกมาจากผับ
“อะไรคะ” เธอถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวก็รู้แต่ปรางค์ต้องหลับตาก่อนนะ”
ไม่พูดเปล่าวิตโตริโอหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ที่อยู่ในกระเป๋า มาปิดทับดวงตาทั้งสองข้างของเธอ ผูกปลายผ้าไว้ด้านหลังศีรษะ ก่อนที่เขาจะกุมมือนุ่มไว้แน่น แล้วพาเธอเดินไปยังรถของตน
“ทำไมต้องปิดตาด้วยค่ะคุณเสือ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเซอร์ไพร์ส” เขาตอบขณะที่ประคองเธอนั่งบนเบาะรถ “ผมจะพาปรางค์ไปที่ที่หนึ่งก่อนนะ แล้วถึงจะพากลับบ้าน”
“ไปไหนคะ ไปนานรึเปล่า ปรางค์เป็นห่วงแม่”
“ไม่นานหรอกครับ” วิตโตริโอพูดจบ เขาก็นำพารถยนต์ออกจากจุดที่จอด มุ่งตรงไปยังสถานที่หนึ่งที่จัดเตรียมไว้ให้เธอโดยเฉพาะ
ปรางค์รวีไม่อาจมองเห็นสายตาของเขาในตอนนี้ได้ หากเธอมองเห็นหญิงสาวจะรู้ว่าทุกสิ่งอย่างที่เขาทำลงไปทั้งหมด ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพียงการสร้างภาพฉากใหญ่ของเขาเท่านั้น
ราวหนึ่งชั่วโมงเศษต่อมา พาหนะของวิตโตริโอมาหยุดหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมาเป็นคนแรก แล้วเดินอ้อมไปยังประตูอีกด้านหนึ่ง
“ค่อยๆ ก้าวลงมานะปรางค์” วิตโตริโอบอก ขณะที่มือใหญ่ประคองร่างเล็กลงมาจากรถยนต์
“ที่นี่ที่ไหนคะคุณเสือ” เธอถามด้วยความอยากรู้ ตลอดทางที่นั่งรถมา ปรางค์รวีถามเขาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบ
“เดี๋ยวปรางค์ก็รู้เอง” วิตโตริโอจะตอบเช่นนี้ทุกครั้งที่เธอถาม ยิ่งทำให้ปรางค์รวีอยากรู้เต็มแก่ว่า สถานที่ที่เขาพามานั้นคือที่ใด
ลมทะเลเอื่อยๆ ที่ปะทะร่างของปรางค์รวี เสียงคลื่นมวนตัวกระทบเข้าหาฝั่ง ทำให้ปรางค์รวีรู้ว่าขณะนี้เธอกำลังยืนอยู่บนชายหาดที่ไหนสักแห่ง
“คุณเสือพาปรางค์มาทะเลทำไมคะ”
“ก็บอกแล้วไงว่า เซอร์ไพร์ส” วิตโตริโอตอบเสียงนุ่ม ประคองร่างสมส่วนมาหยุดยืนกลางชายหาด ก่อนจะถอดผ้าที่ปิดตาของเธอออก
และทันทีที่ดวงตาของปรางค์รวีได้รับอิสระ เปลือกตาก็ค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า จนสามารถมองเห็นตัวอักษรที่เรียงร้อยเป็นถ้อยคำอยู่บนกำแพงบ้านหลังใหญ่
ตัวอักษรที่ปรากฏตกแต่งด้วยกลีบดอกกุหลาบสีขาว ล้อมตัวอักษรด้วยแสงไฟดวงเล็กจิ๋วหลายร้อยดวงและหลากสีสัน กระพริบไหวตามจังหวะ ทำให้ตัวอักษรที่เธอมองเห็นโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ตามผืนทรายโรยด้วยกลีบดอกไม้นานาชนิดกระจายอยู่ไปทั่ว หญิงสาวน้ำตารื้นเมื่อเห็นตัวอักษรที่ประดับไว้อยู่ เป็นประโยคที่อยากได้ยินจากปากของคนที่เธอรัก “ผมรักคุณปรางค์รวี”