ตอนที่ 10

2792 คำ
นิมารีบลงจากรถทันทีเมื่อเจ้ามดดำคันยักษ์จอดสนิทอยู่บริเวณหน้าร้านของเธอ ทองทิพย์มองตามก่อนที่จะเดินตามเข้าไปด้านในร้าน พนักงานกำลังช่วยกับเก็บข้าวของเพื่อเตรียมปิดร้าน นิมาเดินเข้าไปพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานก่อนที่จะหายเข้าไปด้านใน ทองทิพย์ได้แต่มองตาม “คุณทิพย์รับชากับขนมนะคะ” พนักงานของร้านที่คุ้นเคยกับเธออยู่บ้างเดินเข้ามาถาม อาจจะด้วยเพราะเจ้าของร้านคงสั่งไว้ ทองทิพย์คิด “ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณนิ่มจะออกมาอีกหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถาม “คงไม่แล้วค่ะ เห็นว่าจะเข้าไปดูบัญชี สั่งให้พวกเราช่วยกันเก็บร้านแล้วก็อยู่ดูแลจนกว่าคุณทิพย์จะกลับค่ะ” พนักงานพูด เหมือนเป็นการรายงานให้ทองทิพย์ได้รับรู้ “ถ้าอย่างนั้นขนมกับชาไม่ต้องก็ได้ค่ะ พวกคุณจะได้กลับบ้านกัน ขอบคุณมากนะคะ” ทองทิพย์บอกขอบคุณพนักงานของร้าน ที่นิมาสั่งให้มาคอยดูแลเธอ “ขอบคุณค่ะ คุณทิพย์ วันหลังเชิญใหม่นะคะ” พนักงานของร้านนึกขอบคุณในความมีน้ำใจของทองทิพย์ เพราะพวกเธอจะได้ กลับบ้านเร็วขึ้น ทองทิพย์ยังคนเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าร้าน รอจนกระทั่งชั้นล่างของตัวร้านปิดไฟลง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพนักงานของร้านกลับกันไปหมดแล้ว คงเหลือเพียงนิมา ไฟชั้นบนถูกเปิดสว่างขึ้น ทองทิพย์จึงกดโทรศัพท์โทรหานิมาในทันที แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ทองทิพย์จึงเลือกใช้การส่งข้อความเป็นวิธีการต่อไป “ทิพย์จะรออยู่หน้าร้าน จนกว่านิ่มจะออกมา ถ้าไม่ได้บอกคำว่าฝันดีก่อนนอน ทิพย์จะไม่ยอมกลับ” ข้อความถูกส่งเข้าเครื่องโทรศัพท์ของนิมาได้สักครู่ แต่ท่า ทางเจ้าตัวจะไม่ค่อยสนใจนัก พอดีกับที่นารินพี่ สาวของเธอโทรเข้ามา “ค่ะ พี่นา” นิมารับสาย “พี่กลับดึกหน่อยนะ นิ่ม ไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ พี่ทัดจะขับรถไปส่ง ว่าแต่นิ่มถึงบ้านเรียบร้อยแล้วนะ” นารินถาม “ถึงนานแล้วค่ะ” “คุณทิพย์กับไปแล้วหรือ” นารินถาม “คงอย่างนั้นมั้งคะ พอมาถึงนิ่มก็เข้าห้องมาดูบัญชี เด็กที่ร้านต้อนรับแทนตอนนี้ร้านปิดแล้วคงกลับไปแล้วค่ะ” นิมารู้สึกผิดที่ พูดไม่จริงกับพี่สาวของเธอ แต่ถ้าหากบอกความจริงพี่สาวของเธอก็อาจจะไม่สบายใจ รวมถึงทองทัดซึ่งก็คงจะต้องห่วงน้องสาวด้วย เช่นกัน “เราก็แย่นะ ทำไมไม่ดูแลคุณทิพย์ก่อนค่อยไปเคลียร์งาน” “นิ่มรู้สึกเหนื่อยๆ ขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะคะ เที่ยวให้สนุกนะคะ” “เปลี่ยนเรื่องเลยนะเรา โอเค ขอบใจนะจ๊ะ ฝันดีนะ นิ่ม” “ขอบคุณค่ะ พี่นา” “หลังจากวางสายจากพี่สาวของเธอ นิมาก็เดินมาแง้มม่านหน้าต่างห้อง นอน มองลงไปที่ลานจอดรถหน้าร้าน เจ้าของ มอเตอร์ไซค์สีดำคันใหญ่ยังคงเดินไปเดินมาอยู่บริเวณลานจอดหน้าร้านของเธอยังไม่ไปไหน นิมาจึงตัดสินใจที่จะไปเปิดดูข้อความที่ได้รับจากทองทิพย์ “คิดบ้าอะไรของเขาอยู่นะ รอได้ก็รอไป” นิมาบ่นพึมพำอยู่สักครู่ จึงเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวเข้านอน และ เธอเองคิดว่าอีกไม่นานนักทองทิพย์ก็คงจะกลับไป ทองทิพย์ยังคงเดินไปเดินมา เพราะว่าถ้าหยุดอยู่นิ่งๆ เมื่อไหร่มีหวังเธอคง โดนยุงกัดตายแน่ เสื้อแขนยาวเธอถอดออกแล้วเพราะอากาศข้างนอกร้อนมาก และตอนนี้กำลังคิดว่าตัวเองมาทำบ้าบออะไรอยู่ตรงนี้ แต่ความคิดนั้นก็กำลังสร้างรอยยิ้มเล็กๆ ให้เธอ บางทีการมาเดินไปเดินมาหนียุงอยู่แบบนี้อาจจะทำให้ได้รู้อะไรบางอย่างก็เป็นได้ ทองทิพย์มองขึ้นไปที่ชั้นบนซึ่งไฟยังคงเปิดอยู่ “เรื่องการเอาชนะคน มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ” ทองทิพย์พูดขึ้นพร้อมรอย ยิ้มเล็กๆ ในความมืด นิมารู้สึกสบายตัวหลังจากการอาบน้ำ กลิ่นหอมๆ ของสบู่ที่ยังคงมีอยู่ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้น ร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันจากการทำงาน ทำให้เธอยิ้มกับที่นอนนุ่มๆ ที่อยู่ตรงหน้า “ถึงเวลาพักผ่อนแล้วสินะ” นิมาพูดกับตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนห่มผ้าห่มให้กระชับกับบริเวณหน้าอกของตัวเอง ไฟหัวเตียง ถูกปิดลงความมืดกำลังเข้าปกคลุมภายในห้องนอนของเธอ นิมาค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ ทองทิพย์มองขึ้นไปที่บริเวณชั้นบนของร้านอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ไฟถูกปิดลง ความมืดมิดเข้าครอบคลุมในทุกพื้นที่ มีเพียงแสง สว่างจากไฟดวงเล็กๆ ซึ่งมีอยู่ไม่มากนักในบริเวณที่เธอเดินไปเดินมาอยู่ในขณะนี้ “ท่าทางคงจะต้องเดินไปเดินมาจนเช้าเสียแล้วเรา” ทองทิพย์พูดกับตัวเองหลังจากที่เห็นไฟจากห้องด้านบนของร้านนิมาดับ ลง แต่ไม่นานนักไฟชั้นล่างก็กลับ มาสว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มของทองทิพย์ และประตูหน้าร้านก็ถูกเปิดออกต้อน รับเธออีกครั้ง เช่นกัน “มีอะไรก็ว่ามาค่ะ แล้วก็รีบกลับบ้านไปได้แล้ว นิ่มง่วง” นิมาพูดน้ำเสียงเหมือนบ่นๆ แกมรำคาญ “ยุงกัดแขนลายไปหมดแล้วค่ะ” ทองทิพย์พูดน้ำเสียงอ้อนๆ แต่แอบอมยิ้มตอนนิมาเผลอ “ก็สมควรแล้วค่ะ บ้านช่องไม่กลับมายืนบริจาคเลือดให้ยุงอยู่ได้” นิมาบ่นพึมพำ “เป็นห่วงกลัวว่าทิพย์จะโดนยุ่งกัดตายละสิคะ ถึงได้ยอมลงมา” ทองทิพย์พูดพร้อมกับมองสบตาของนิมา “เป็นห่วงตัวเองมากกว่า กลัวจะไม่ได้หลับได้นอน ตกลงมีอะไรก็ว่ามาค่ะ” “เมื่อย” ทองทิพย์อมยิ้ม “ก็กลับไปบ้านพักผ่อนสิคะ” นิมาพูดน้ำเสียงดุๆ “ขอเข้าไปนั่งข้างในสักสิบนาทีนะคะ สัญญาค่ะ แค่สิบนาที” ทองทิพย์ทำสายตาอ้อนวอน “อย่ามาสัญญาดีกว่าค่ะ ถ้าทำไม่ได้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนนิ่มไม่รู้ว่าตอนไหนเป็นคุณทองทิพย์ ตอนไปเป็นทิพย์กันแน่ เอาเป็นว่าเพื่อตัวนิ่มเอง ซึ่งจะได้ไม่ต้องโดนพี่ทัดต่อว่า เชิญค่ะ คุณทองทิพย์” นิมาทำท่าโค้งต้อนรับให้ทองทิพย์เข้ามาในร้าน “คนเราก็นะ เป็นห่วงก็ไม่ยอมรับมาดีๆ” ทองทิพย์เดินอมยิ้มเข้ามาภายใน พอเดินเข้ามาด้านในที่มีแสงสว่าง นิมาจึงได้เห็น ผื่นจากรอยยุงกัดที่แขนทั้งสองข้างของทองทิพย์ ซึ่งนิมาเองชักไม่แน่ใจว่าเป็นผื่นจากยุงกัดหรือผื่นจากการแพ้อาหารกันแน่ “ยุงแถวนี้คงอิ่มหนำสำราญนะคะ ดูแขนสิ” นิมาจับแขนทองทิพย์ยกขึ้นเล็ก น้อยเพื่อให้เจ้าตัวได้เห็น “ก็ดีแล้วค่ะ กำลังอยากได้คะแนนความสงสารอยู่พอดีเลย ว่าแต่ว่าสงสารไหม” ทองทิพย์ขยับเข้ามากระซิบถามใกล้ๆ “ไม่” นิมาพูดเสียงแข็ง “ใจร้าย” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ “ก็ร้ายพอกันนั่นแหละ เดี๋ยวนิ่มจะไปหายามาให้นะคะ” นิมารีบเดินไปทันที เพราะหัวใจมันมีอาการแกว่งๆ อย่างไรชอบกล เมื่อทองทิพย์ขยับเข้ามาใกล้ๆ ไม่รู้ว่าทำไมทั้งๆ ที่เตรียมใจมาอย่างดีว่า จะไม่ยอมให้หัวใจตัวเองหวั่นไหวไปกับคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอีก “ขอบคุณนะคะ น่ารักจริงๆ” ทองทิพย์อมยิ้มมองตามนิมาที่กำลังเดินไปทางด้านในของตัวร้าน และกลับออกมาในเวลาไม่ นานนักพร้อมยา “คิดว่าแพ้กุ้งด้วยหรือเปล่าคะ หรือว่าแค่ยุงกัด” นิมาถาม เพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าผื่นที่เห็นเกิดจากอาการแพ้กุ้งด้วยหรือไม่ “น่าจะแค่ยุงกัดค่ะ เพราะถ้าผื่นจากแพ้กุ้งละก็ ป่านนี้ทิพย์คงแปลงร่างเป็นวานรไปแล้ว คงคันกว่านี้เยอะค่ะ” ทองทิพย์หัวเราะเล็กๆ แต่แอบเห็นคนที่กำลังช่วยทายาให้อมยิ้มอยู่ด้วยเช่นกัน ทองทิพย์ขยับเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆ นิมาเพื่อคนที่ช่วยจะได้ทายาให้ได้สะดวกขึ้น ริมฝีปากสีแดงอมชมพูของคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาช่วยดูรอยยุงกัดและค่อยๆ ทายาทำให้ทองทิพย์รู้สึกว่าตัวเองอยากสัมผัสกับริมฝีปากเรียวบางของนิมา แต่เธอก็รั้งรอจนกระทั่งนิมาช่วยทายาจนเสร็จเรียบร้อย ทองทิพย์จึงค่อยๆ ประทับริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบากับริมฝีปากสีแดงอมชมพูอันนุ่มนวลของนิมา “ทิพย์เดี๋ยวเถอะนะ” นิมาพูดเสียงดุ “ขอบคุณค่ะ ฝันดีนะ กลับได้แล้ว ได้ทำอย่างที่ตั้งใจแล้วค่ะ” ทองทิพย์รีบเดินออกไปจากร้านและหันกลับมาทำหน้าทะเล้น พร้อมทำท่าส่งจูบให้นิมาที่กำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดกับท่าทางกวนๆ ของทองทิพย์ เสียงเจ้ามดดำคันยักษ์ได้เคลื่อนออกไปแล้ว นิมา จึงเดินออกไปดูและปิดประตูหน้าร้าน รอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นโดยไม่รู้ ตัว สัมผัสอุ่นๆ นั้นยังไม่จางหายไปไหน นิมาใช้นิ้วแตะเบาๆ ไปที่ริมฝีปากของตัวเอง ก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไปนอนอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่เกิดขึ้นทั้งบนใบหน้าและในหัวใจ ของเธอ “ฝันดีค่ะ” นิมาพูดจบก็ปิดไฟหัวเตียงและหลับตาลงอีกครั้งก่อนที่จะหลับไปพร้อมรอยยิ้มนั้น แสงสีทองของวันใหม่ๆ กำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้า นิมารู้สึกว่าตัวเองหลับสบายและได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ลุก ขึ้นยืดเส้นยืดสายด้วยการทำโยคะท่าง่ายๆ ก่อนที่จะไปอาบน้ำเพื่อเตรียมเปิดร้านเหมือนเช่นทุกวัน ป่านนี้พี่สาวของเธอคงยังนอนหลับสนิทอยู่เป็นแน่ ไม่รู้ว่าเมื่อคืนกลับมาตอนไหน นิมาเดินไปบิดลูกบิดประตูห้องนอนพี่สาวของเธอ มันถูกล็อกอยู่นั่นก็แสดงว่า คนที่อยู่ข้างในยัง คงหลับอยู่อย่างแน่นอน เสียงลูกค้ารายแรกเปิดประตูเข้ามา นิมาก็ยังคงง่วนอยู่กับการจัดร้านโดยไม่ได้มองว่าลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาเป็นใคร จน กระทั่งได้ยินเสียงทักทาย เธอจึงยิ้มออกในทันที “คุณแม่ค้าคะ รบกวนสั่งขนมหน่อยค่ะ” นิมายิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักของเธอ “เฮ้ยคุณพุด” นิมาเข้าสวมกอดเพื่อนรักของเธอหลังจากที่ไม่ได้พบกันนานพอสมควร “คิดถึงแม่ค้าขนมหวานจะแย่ รู้ตัวบ้างไหม” พุทธชาดสวมกอดนิมาเพื่อนของเธอแนบแน่นเช่นเดียวกัน “พุดมีเรื่องอยากให้ช่วย พุดช่วยกอดนิ่มไว้แบบนี้สักครู่นะ แล้วคุยไปเรื่อยๆ เอาแบบว่าเราคิดถึงกันมากๆ อะไรประมาณนี้” นิมาบอกกับพุทธชาดหลังจากที่เห็นทองทิพย์ยินมองเธอผ่านกระจกใสจากประตูด้านหน้าร้าน “จะเล่นบ้าอะไรแต่เช้าล่ะ” พุทธชาดไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนพูดนักจนกระทั่งมองไปที่กระจกเงาซึ่งตั้งอยู่ด้านใน ทางด้านหลัง ของนิมา เธอมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาดูดีกำลังจ้องมองมาทางเธอกับนิมา ที่แม่เพื่อนรักของเธอกอดเธอแน่นเสียจนแทบจะหายใจไม่ออก ผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนมองเธอทั้งสอง จ้องเขม็งและสายตาก็ดูดุขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังหวงแม่ค้าคนสวยที่เธอกอดอยู่ พุทธชาดคิด “นี่นิ่ม เพื่อนจะรอดไหม ถ้าเดินออกไปหน้าร้านตอนนี้ ดูสิผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อฉันให้ได้เลยนะ” พุทธชาด รู้สึกอย่างที่บอกกับนิมา “ไว้จะเล่าให้ฟัง ทำเนียนๆ ไปก่อน คิดเสียว่า นิ่มเป็นคุณรักษาแฟนพุดก็แล้วกัน นะเล่นให้ดูเหมือนเป็นแฟน ช่วยเพื่อนหน่อยนะ” นิมาพูดเหมือนขอร้อง “ลองดู น่าสนุกดีเหมือนกัน ตกลงเพื่อนฉันเป็นที่หมายตาของสาวสวยคนนั้นใช่ไหม” พุทธชาดเริ่มถามขึ้น “เรื่องมันยาว นิ่มจะคลายอ้อมกอดแล้วนะ ละครก็จะเริ่มขึ้นในทันที” “หาเรื่องให้เพื่อนแต่เช้าเลย นิ่มเอ๋ย” พุทธชาดพูดเหมือนบ่นๆ แต่ก็เล่นละครไปตามที่เพื่อนของเธอขอร้อง และแอบนึกขำที่นิมาลงทุนถึงกระทั่งหอมแก้มเธอทั้งซ้ายทั้งขวาจนแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ “นี่เธอไม่จูบปากฉันเสียเลยล่ะ ถ้าอยากให้สาวคนนั้นเลิกยุ่งกับเธอไปเลยละก็” พุทธชาดพูดแหย่เพื่อนแต่ไม่คิดว่าไอ้เพื่อน จะทำจริงๆ นิมาประทับริมฝีปากเบาๆ ไปที่ริมฝีปากของพุทธชาด “จูบแล้ว เหมือนคุณรักจูบไหมล่ะ” นิมาอมยิ้มมองสบตาเพื่อนที่ก็อมยิ้ม พุทธชาดแอบมองไปที่กระจกเงาบานเดิม ผู้หญิงสาว สวยคนนั้นหายไปแล้ว “มันอะไรกันจ๊ะ เล่ามาเสียดีๆ มันเกิดอะไรขึ้น ไม่ชอบเขาหรืออย่างไรถึงได้เล่นพิเรนทร์แบบนี้” พุทธชาดถามเพื่อนเธอตรงๆ “เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟัง เรื่องมันยาว แต่ขอบคุณมากนะ คุณพุดที่ช่วย” “ถามจริงๆ ว่าไม่ชอบ หรือแกล้งยั่วให้หึงกันแน่” พุทธชาดรู้สึกแปลกๆ “ทำไมถึงคิดว่ายั่วให้หึงล่ะ” นิมาถามกลับ “อาการมันฟ้อง” พุทธชาดหัวเราะขึ้นทันทีเมื่อได้พูดออกไป “อาการอะไร” “ก็เห็นแอบชำเลืองเขาอยู่บ่อยๆ ไม่เป็นห่วงบ้างหรืออย่างไรว่าเขาจะเข้าใจผิดจนหายไปเลย” พุทธชาดอมยิ้มเมื่อแกล้งขู่ เพื่อนจนดูหน้าจ๋อยลงทันที “หายไปก็ดี จะได้หมดปัญหา” นิมาพูดเสียงเข้มแต่ยังคงลอบมองออกไปทางด้านหน้าร้าน “ถ้าเป็นห่วงก็ออกไปตามกลับมาดีกว่าไหม พุดจะยืนยันเองว่าเราสองคนเล่นละครกัน ตกลงงอนกันเรื่องอะไร แล้วทำไมมีแฟนแล้วเพื่อนไม่รู้” พุทธชาดตั้งคำถามหลายคำถามจนนิมาไม่รู้จะเริ่มต้นตอบคำถามไหนก่อน “แฟนที่ไหนกัน” “โอ้โห รับมาเลยดีกว่าว่าชอบเขาอยู่เหมือนกัน เพื่อนน่ะมีประสบการณ์มาก่อนนะ นิ่มมองผู้หญิงคนนั้น เหมือนคุณรักมองพุด เลยรู้ตัวบ้างไหม” พุทธชาดยิ้มให้เพื่อนของเธอที่ดูเหมือนกำลังยอมรับกับสิ่งที่เธอได้พูดไปเมื่อสักครู่ “มันเริ่มขึ้น แล้วมันกำลังจะมีปัญหาตามมา” นิมาบอกกับเพื่อนของเธอ “ก็เลยจะรีบผลักเขาออกไป โดยใช้เพื่อนเป็นสะพานใช่หรือเปล่า” “ประมาณนั้น” นิมายิ้มจางๆ ให้พุทธชาดที่เข้าสวมกอดปลอบใจเพื่อนรักของเธอ “ไว้ค่อยนัดคุยกัน วันนี้สั่งขนมก่อน พุดต้องรีบไป เอาอย่างนี้นะ คืนนี้ปิดร้านแล้วโทรหาพุด แล้วก็จัดขนมตามรายการส่งที่ร้านเหมือนเดิมนะ อ้อคุณรักษาของพุดฝากความคิดถึงมาถึงแม่ค้าขนมหวานด้วยนะ ไปก่อนแล้ว คืนนี้คุยกัน เออว่าแต่สาวสวยของนิ่มไม่ได้ดักรอพุดอยู่หน้าร้านใช่ไหม สายตาน่ากลัวมาก” พุทธชาดหัวเราะที่ได้แหย่เพื่อนให้ยิ้มได้ “ถ้าเจอหน้าร้านก็ช่วยจัดการให้หน่อยก็แล้วกัน” นิมาพูดยิ้มๆ “จัดการอย่างไรดี อธิบายให้เขาเข้าใจว่าเรื่องที่เห็นไม่ใช่เป็นอย่างที่เห็นใช่หรือเปล่า นิ่ม” พุทธชาดหันมายักคิ้วล้อเลียน เพื่อนและรีบเดินออกจากร้านไป นิมามองตามพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน จนเห็นรถของพุทธชาดขับออกไปเธอจึงหันกลับมาทำ งานของเธอต่อ เสียงประตูหน้าร้านก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง นิมาก็พูดเหมือนทุกครั้งโดยที่ไม่ทันได้หันมามองว่าเป็นใคร “สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” นิมาทักทายเหมือนเช่นทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้ามาภาย ในร้าน แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ นิมาจึงหันมาดูว่า คนที่เข้ามาเป็นใคร “ทิพย์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม