นิมานั่งมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งนั่งพับเพียบเรียบร้อย พนมมือและหลับตาเหมือนกำลังภาวนาหรือขอพรกับพระประธานที่เธอได้บอกว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ นิมาหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปทองทิพย์ และอมยิ้มกับท่าทางสงบเสงี่ยมดูเป็นหญิงไทยมากเสียเหลือเกิน หากแต่ว่าเมื่อนึกถึงพาหนะคู่ใจ แล้วนิมาก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่นั่งพับเพียบแต้อยู่ตรงนี้นั้น จะเป็นสาวสวยที่ขับเจ้ามดดำยักษ์มอเตอร์ไซค์คันใหญ่นั่น นิมายังคงนั่งอมยิ้มอยู่จนกระทั่งทองทิพย์ลืมตาหันมามองพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ยิ้มอะไร รู้นะว่าแอบถ่ายรูปทิพย์เก็บไว้ ว่าแต่สวยหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถามพร้อมกับมองไปที่โทรศัพท์ซึ่งนิมายังคงถืออยู่ในมือ
“ก็คนสวย อย่างไรเสียรูปก็ต้องสวยอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่ให้ดูนิ่มจะเก็บไว้ดูคนเดียวค่ะ” นิมายิ้มทะเล้นพร้อมกับยักคิ้วล้อทองทิพย์
“นึกว่าเป็นคนใจดี ถ้าอย่างนั้นทิพย์ขอถ่ายเก็บไว้บ้างนะคะ เอาไว้ดูเวลาคิดถึง แต่อยากได้รูปคู่มากกว่า นะคะ นะ อนุญาตนะ”
ทองทิพย์ทำน้ำเสียงอ้อนวอนเสียจนนิมานึกขำ
“ไม่ต้องอ้อนขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”
“ขยับไปนั่งใกล้ๆ ได้ใช่ไหมคะ” ทองทิพย์ถามรอจนนิมาพยักหน้าอนุญาตเธอจึงขยับไปนั่งใกล้ รูปของทั้งสองสาวตอนนี้อยู่ในมือถือของทองทิพย์เรียบร้อยแล้ว เจ้าของโทรศัพท์กำลังเปิดดูพร้อมรอยยิ้มสวยๆ นิมาแอบชะเง้อมอง แต่เจ้าของเครื่อง โทรศัพท์อยากแกล้งจึงปิดหน้าจอไว้ไม่ให้เห็น
“ขอดูหน่อยนะคะ นะ” นิมาทำน้ำเสียงอ้อนล้อเลียนคล้ายๆ กับที่ทองทิพย์พูดไปเมื่อสักครู่
“ไม่ให้ดูค่ะ ทิพย์เป็นคนใจร้ายบอกไว้ตอนนี้เลย จะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียวเหมือนกันค่ะ” ทองทิพย์หัวเราะ เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่
ข้างๆ ทำหน้ามุ่ย
“ใจร้ายนะคะ” นิมารำพึงเบา
“ว่าคนอื่นในโบสถ์บาปนะคะ” ทองทิพย์หัวเราะเล็กๆ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากโบสถ์ ปล่อยให้คนหน้ามุ่ยนั่งมองตามอยู่ที่เดิม
นิมาเดินตามทองทิพย์ออกมาที่ท่าน้ำ ปลาจำนวนมากว่ายวนไปมารอคนมาให้อาหาร ทองทิพย์กำลังเพลินกับการค่อยๆ โยน
อาหารให้เจ้าปลาจำนวนมากที่กำลังมาวายวนอยู่ตรงหน้า นิมายืนอมยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางของคนที่เธอพามาทำบุญดูมีความสุขจากรอย
ยิ้มที่เธอได้เห็น
“ขอพรพระประธานตั้งนาน บอกได้ไหมคะ ว่าขออะไรกับท่าน” นิมาถาม
“ก็ขอให้ชีวิตมีความสุข ขอให้คนที่พบคือคนที่ใช่” ทองทิพย์พูดลอยๆ ไม่ได้หันมามองทางนิมาที่อมยิ้มกับคำพูดประโยคหลัง
ที่เพิ่งได้ยินไป
“แล้วคุณนิ่มล่ะคะ ขออะไร” ทองทิพย์หันมามองนิมาที่กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน
“ก็ขอให้มีความสุขค่ะ อันที่จริงชีวิตนิ่มก็มีความสุขอยู่นะคะ แต่สองสามวันมานี้รู้สึกดีมากๆ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พระท่านคง
ให้พร เพราะนิ่มมาทำบุญที่นี่บ่อยๆ” นิมาไม่กล้าสบตากับทองทิพย์ที่กำลังมองจ้องเธอตาแทบจะไม่กะพริบ
“ถ้าอย่างนั้นคุณนิ่มคงต้องพาทิพย์มาทำบุญบ่อยๆ นะคะ เราสองคนจะได้สมหวังด้วยกันทั้งคู่” ทองทิพย์อมยิ้ม นิมาก็ยิ้ม
อายๆ เสมองไปทางลำน้ำซึ่งเหล่าฝูงปลายังคงว่ายวนรอการให้อาหารจากเธอทั้งสอง
“คุณทิพย์ชอบทานก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่าคะ” นิมาถามขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทองทิพย์ทำท่าสงสัย
“ก่อนตอบคำถามขออะไรอย่างได้ไหมคะ” ทองทิพย์พูดยิ้มๆ
“บอกมาก่อนค่ะ”
“เลิกเรียกคุณกันดีกว่าค่ะ ชื่อเฉยๆ ก็พอ ดูห่างเหินกันเหลือเกินเวลาใส่คำว่าคุณนำหน้าเข้าไป เราสนิทกันมากพอที่จะเรียกชื่อกันและกันเฉยๆ ได้หรือยังคะ”
“คุณทิพย์คิดว่านิ่มสนิทพอหรือยังล่ะคะ” นิมาถามพร้อมรอยยิ้ม
“ทิพย์สนิทกับนิ่มตั้งแต่วันที่ไปวิ่งที่สวนสาธารณะด้วยกันแล้วค่ะ” ทองทิพย์ยิ้ม หลังจากที่เธอเรียกชื่อของนิ่มเฉยๆ ซึ่งเจ้าตัว
ดูจะยิ้มกว้างกว่า
“นิ่มก็รู้สึกสนิทกับทิพย์ตั้งแต่วันนั้นเหมือนกันค่ะ ตอบเรื่องก๋วยเตี๋ยวด้วยนะคะ ตกลงชอบหรือเปล่า” นิมาวกกลับมาขอคำ
ตอบกับคำถามก่อนหน้านี้
“ชอบค่ะ อาหารที่เมืองไทยอร่อยทุกอย่าง ทิพย์ชอบที่ใส่ถั่วป่นลงไปเหมือนเป็นการเพิ่มรสชาติและเพิ่มความเข้มข้นให้น้ำซุปของก๋วยเตี๋ยว พูดถึงก็อยากทานเลยค่ะ” ทองทิพย์แอบกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว นิมาหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นเข้า
“ไปค่ะ เดี๋ยวพาไปทานฉลองมิตรภาพและความรู้สึกดีๆ ที่เรามีให้กัน”
“น่าอายนะคะ” ทองทิพย์อมยิ้มอายๆ
“ไม่เห็นน่าอายเลยค่ะ เรื่องปกติ คนเราก็อยากทานโน่นทานนี่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ว่าเป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ข้างวัดนะคะ ทิพย์จะทานได้ไหม แต่นิ่มรับประกันความอร่อยได้ค่ะ ถ้าไม่อร่อยนะจะยอมให้ทำโทษเลยค่ะ” นิมาพูดด้วยความมั่นใจ แต่คนที่ได้ยินกลับ
ยิ้มอย่างมีเลศนัย
ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นร้านเล็กๆ อย่างที่นิมาบอก เก้าอี้กับโต๊ะก็เป็นงานทำมือทองทิพย์ยิ้มเมื่อได้เห็น แอบนึกชื่นชมอยู่ในใจที่คนทำสามารถนำไม้มากปะติดปะต่อจนเป็นโต๊ะเป็นเก้าอี้สำหรับลูกค้า แก้วน้ำพลาสติกที่ใส่น้ำผสมกับน้ำแข็งถูกวางลงตรงหน้าของเธอและนิมา ซึ่งอมยิ้มกับหน้าตาแปลกๆ ของทองทิพย์แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้ได้เห็นอยู่ แก้วน้ำพลาสติกสีสดใสกำลังถูกทองทิพย์ยกขึ้นค่อยๆ ดื่มน้ำเย็นๆ ชื่นใจโดยเฉพาะกลิ่นหอมๆ ที่เตะจมูกทำให้ทองทิพย์ยิ้มกว้างขึ้น
“หอมมากเลยค่ะ” ทองทิพย์บอกกับนิมาที่กำลังนั่งอมยิ้มอยู่ตรงหน้า
“น้ำใบเตยค่ะ คุณ” เสียงแม่ค้าที่กำลังปรุงก๋วยเตี๋ยวให้เธอทั้งสองเป็นผู้ให้คำตอบกับทองทิพย์ที่ดูจะสงสัยอยู่กับกลิ่นหอมๆ
จากน้ำที่เธอเพิ่งดื่มไปเมื่อสักครู่
“เตยหอมหรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถามแม่ค้าที่กำลังส่งยิ้มมาให้เธอและนิมา
“ใช่ค่ะ ไม่ยากค่ะ ลองไปทำที่บ้านดูก็ได้ค่ะ เจ้าของร้านขนมไทยคงแนะนำคุณได้” แม่ค้ายิ้มให้นิมา
“ขอบคุณนะคะ” ทองทิพย์ยิ้มและหันมาทำหน้าตาสงสัยกับนิมา
“นิ่มแวะมาทานก๋วยเตี๋ยวทุกครั้งที่มาทำบุญที่วัดนี้ค่ะ ก็เลยคุ้นเคยกับเจ้า ของร้านบ้าง และคุณพี่เธอก็เป็นลูกค้าที่ร้านขนม
เหมือนกันค่ะ ไปซื้อขนมมาทำบุญบ่อยๆ มีโอกาสได้พูดกันก็เลยรู้สึกคุ้นเคยกันบ้างค่ะ” นิมาอธิบายและยิ้มให้กับเจ้า ของร้าน
ก๋วยเตี๋ยวที่กำลังวางชามทั้งสองลงตรงหน้าเธอและทองทิพย์ กลิ่นน้ำซุปหอมๆ ลอยมาเตะจมูกทองทิพย์ แต่เธอก็ทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอยากจะทานเสียเหลือเกิน นิมาหยิบช้อนกับตะเกียบส่งให้ทองทิพย์ซึ่งกำลังเริ่มทานช้าๆ นั่นก็ดูเป็นปกติธรรมดาไม่มีคำพูดใดๆ จากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามทำให้นิมารู้สึกว่าท่าทางก๋วยเตี๋ยวคงจะไม่ถูกปากคนทานนัก เพราะมีเพียงความเงียบและรอยยิ้มจางๆ เพียงเท่านั้น
“ไม่อร่อยหรือคะ” นิมาถามขึ้นหลังจากรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรียบร้อยและตอนนี้เธอทั้งสองกำลังเดินกลับมาที่ลานจอดรถ
“คุยไว้เยอะ ไม่เห็นสมราคาคุยเลยค่ะ” ทองทิพย์พูดเสียงเรียบๆ
“แย่เลยสิคะ นึกว่าทิพย์จะชอบ” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ
“ต้องโดนลงโทษสิแบบนี้” ทองทิพย์พูดขึ้นลอยๆ แต่ตามองไปที่ไอศกรีม สีขาวๆ ที่คนขายกำลังตักใส่ลงในขนมปัง นิมาเห็น
ก็นึกขำ เพราะท่าทางคนที่มองอยู่คงจะอยากทาน
“ไถ่โทษด้วยไอศกรีมได้ไหมคะ” นิมาพูดขึ้นและหันไปยิ้มให้คนขายพร้อมกับสั่งไอศกรีมสองอัน
“ไม่เกี่ยวกันค่ะ กำลังคิดหาวิธีทำโทษคนขี้โม้อยู่ อย่าเอาเรื่องไอศกรีมมากลบเกลื่อนไม่มีทางค่ะ เอาไว้กลับไปที่ร้านก่อนค่อยบอกก็แล้วกันว่าจะทำโทษนิ่มอย่างไรดี” ทองทิพย์อมยิ้มที่ได้แกล้งนิมาที่ยิ้มเจื่อนไป
หลังจากกลับมาถึงร้าน นิมาก็รีบไปเตรียมชาหอมๆ พร้อมกับขนมหวานจานใหญ่มาวางให้ตรงหน้าของคนที่ดูนิ่งๆ เงียบๆ ไปหลังจากที่ได้ทานก๋วยเตี๋ยวซึ่งนั่นทำให้นิมารู้สึกผิด เพราะคิดว่าคงไม่ถูกปากทองทิพย์
“ชาหอมๆ คงทำให้ยิ้มกลับมาสวยเหมือนเดิมนะคะ ขอโทษนะคะที่พาไปทานอาหารไม่ถูกปาก” นิมาทำท่าพนมมือไหว้เป็นการขอโทษ
“ไม่ยกโทษให้ค่ะ” ทองทิพย์แกล้งทำเสียงเข้ม
“โหใจร้ายจริงๆ ถ้าอย่างนั้นคงต้องโดนทำโทษก่อนถึงจะยิ้มสวยๆ ได้ใช่หรือเปล่าคะ ก็ได้ถ้าอย่างนั้นขอเอาของไปเก็บก่อน
นะคะ” นิมายิ้มเจื่อนๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่มีอยู่ในใจ
“ทิพย์ขอไปล้างมือด้วยค่ะ”
นิมากำลังตรวจดูเอกสารบางอย่างเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นพนักงานของร้านจึงบอกอนุญาตให้เข้ามา คนที่เข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างหลังได้สักครู่ นิมาจึงหันมาก็เห็นทองทิพย์ยืนยิ้มสวยๆ ให้เธออยู่
“คิดออกแล้วค่ะ ว่าจะทำโทษคนขี้คุยอย่างไรดี” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้นให้นิมาที่ยืนเท้าสะเอวทำท่ากวนๆ อยู่ตรงหน้า
“ว่ามาค่ะ นิ่มพลาดไปแล้ว ตกลงจะลงโทษอย่างไรคะ”
“กอด” ทองทิพย์ยิ้มกว้างกางแขนทั้งสองข้างออก นิมาอมยิ้มก่อนที่จะเดินเข้าไปหาแต่โดยดี สองสาวกระชับอ้อมกอดของกันและกันอย่างแนบแน่นด้วยอยากบอกผ่านสัมผัสนี้กับความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่ในหัวใจ
“ชักเชื่อแล้วนะคะ ว่าร้าย” นิมาพูดขึ้น
“แต่น่ารักหรือเปล่าล่ะคะ” ทองทิพย์อมยิ้ม
“ก็พอได้ค่ะ” นิมายิ้มอายๆ หลบดวงตาดำขลับของทองทิพย์ที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ จูบเล็กๆ ถูกประทับลงที่แก้มอย่างแผ่ว
เบา แต่ใบหน้าของนิมารู้สึกร้อนผ่าวขึ้น มาทันทีที่ได้รับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้น
“ได้ทำโทษนิ่มแบบนี้บ่อยๆ ก็ดีสิ” ทองทิพย์พูด
“อย่าหวังเลยค่ะ ไม่หลงกลอีกแน่ๆ” นิมาพูดขึ้นแกล้งทำตาดุใส่
“อีกหน่อยคงไม่ต้องใช้เล่ห์กล แต่ทองทิพย์จะใช้ใจขอดีๆ คงไม่ได้รับการปฏิเสธนะคะ เพราะทิพย์รู้ว่านิ่มใจดี” ทองทิพย์ยิ้ม
สวยๆ ให้พร้อมดวงตาวาววับที่กำลังจ้องมองดวงตาคู่สวยของนิมา
“คอยดูนะคะ จะเล่นตัวเสียให้เข็ดเลย” นิมานึกขำคำพูดของตัวเอง
“สาวร้ายอย่างทิพย์ เข็ดยากเสียด้วยสิคะ” เผลอนิดเดียวนิมาก็โดนหอมแก้มอีกข้างไปเรียบร้อยแล้ว
“ทิพย์” นิมาตีเบาๆ ไปที่แขนของทองทิพย์
“วันนี้ขอตัวก่อนนะคะ ทิพย์มีธุระ เอาไว้ค่ำๆ โทรหานะ ขอให้ขนมขายดิบขายดีนะคะ ขอบคุณสำหรับก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ
ไอศกรีมกับขนมปังด้วยค่ะ” ทองทิพย์อมยิ้มแล้วรีบเผ่นออกไปจากห้องทันที
“โกหกกันนี่นา ร้ายจริงๆ” นิมายืนอมยิ้มใช้นิ้วไล้ไปที่แก้มของตัวเองซึ่งได้ รับจุมพิตอันอบอุ่นจากทองทิพย์ไปเมื่อสักครู่ อ้อมกอดอันอ่อนโยนนั้นทำให้เธอรู้สึกดีได้อย่างน่าประหลาด และนั่นทำให้นิมานึกถึงใครบางคนขึ้นมา
นัดรับประทานอาหารมื้อค่ำกับว่าที่พี่เขยกำลังสนุกสนานด้วยการสนทนา นิมารู้สึกดีและเคารพนับถือในตัวทองทัดตั้งแต่ครั้ง
แรกที่ได้พบกันจนกระทั่งมากถึงทุกวันนี้และเชื่อว่าความรู้สึกดีๆ ที่มีคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้
“นึกถึงวันแรกที่เปิดตัวพี่ทัดนะคะ พี่นาตื่นเต้นเสียจนเหมือนพามาให้พ่อกับแม่ดูตัว” นิมาหันมายิ้มทะเล้นให้พี่สาว
“มาแซวพี่นะ นิ่ม” นารินอมยิ้ม
“พี่ตื่นเต้นกว่าครับ เพราะพี่สาวนิ่มพูดอยู่ตลอดเลยว่า ถ้านิ่มไม่ชอบพี่ก็จะหมดสิทธิ์ที่จะเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ต่อ ทำเอา
จ๋อยไปเหมือนกัน ก็ไม่ต่างอะไรกับการพาไปแนะนำตัวกับผู้ใหญ่นะครับ” ทองทัดยิ้มให้นิมา
“พี่นาไปขู่พี่ทัดอย่างนั้นจริงๆ หรือคะ”
“ไม่ได้ขู่ พี่คิดอย่างนั้นจริงๆ นะ” นารินบอกกับน้องสาวของเธอ
“อย่างนี้ก็แย่สิคะ เหมือนเป็นการสร้างกฎเกณฑ์เลย แบบนี้ถ้านิ่มจะคบกับใครก็ต้องพามาให้พี่นาดูก่อนอย่างนั้นสิคะ” นิมายิ้ม
จ๋อยๆ ทำเอาทั้งว่าที่พี่เขยและพี่สาวหัวเราะออกมาทันที
“แน่นอน ว่าแต่ว่าพูดเหมือนมีใครอยู่ในใจหรือเปล่านะ” นารินลองแกล้งพูดหลอกล่อเผื่อว่าน้องสาวจะยอมบอกกับเธอ
“อย่ามาหลอกถามค่ะ ไม่สำเร็จแน่ๆ ค่ะ” นิมาหัวเราะคิกคัก
“พี่ก็ชักอยากจะเห็นนะครับ ใครจะเป็นผู้พิชิตใจน้องนิ่ม นาบอกว่าพามาดูตัวก็หลายคนแล้ว ไม่เห็นตกลงปลงใจคบใครสักที”
ทองทัดยิ้มให้นิมา
“สงสัยยังไม่เกิดค่ะ พี่ทัด” พูดจบเธอก็เหลือบไปเห็นคนที่เธอกำลังนึกถึงเปิดประตูเข้ามาในร้านพอดี นิมารู้สึกแปลกใจเพราะทองทัดที่หันไปมองตามสายตาของเธอกำลังยิ้มให้กับคนที่กำลังเดินเข้ามาและดูท่าจะตรงมาที่โต๊ะที่เธอนั่งอยู่ด้วย นิมายิ้มให้กับคนที่เดินเข้ามา แต่สีหน้าเรียบเฉยทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ สายตาที่มองมาที่เธอเหมือนเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“มาแล้วยายตัวร้าย” ทองทัดหันไปยิ้มให้กับคนที่เดินมาถึงที่โต๊ะ ประโยคที่พูดออกไปนั้นเขาตั้งใจให้เธอคนนั้นได้ยิน
“สวัสดีค่ะ” ทองทัดและนารินรับไหว้คนที่กำลังทักทาย
“โตขนาดนี้แล้ว พี่ยังกอดแกได้อยู่หรือเปล่า” ทองทัดลุกขึ้นยืนและเข้าสวม กอดคนที่กำลังทำให้นิมารู้สึกแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“คิดถึงแกมากเลย ไม่มีคนชวนทะเลาะ” ทองทัดหัวเราะ
“ใครกันแน่ชอบชวนทะเลาะ”
“สงบศึกก่อนมีแขก นี่พี่นา ว่าที่พี่สะใภ้ของแก”
“สวัสดีอีกครั้งค่ะ”
“นาครับ น้องสาวคนเดียวของผม ยายตัวร้ายที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ ทองทิพย์หรือเรียกสั้นๆ ว่าทิพย์ก็ได้ครับ” ทองทัดแนะนำให้ทั้งสองสาวที่เขารักให้ได้รู้จักกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณทิพย์” นารินทักทายทองทิพย์ที่กำลังยิ้มจางๆ ให้เธอ
“ยินดีเช่นกันค่ะ”
“แล้วก็นี่นิมาเป็นน้องสาวพี่นา เรียกว่า นิ่มก็ได้ น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับแก อ้อที่สำคัญเป็นเจ้าของร้านขนมไทยที่แกชอบ
นักชอบหนาด้วยนะ” ทองทัดบอกกับน้องสาว
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณนิมา” ทองทิพย์เอ่ยทักทายหลังจากที่ทองทัดแนะนำให้รู้จัก
“ยินดีค่ะ คุณทองทิพย์” นิมาทิ้งช่วงระหว่างการพูดยินดีกับชื่อของทองทิพย์ คำถามมีมากมายผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน แต่เธอไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้จากที่ไหน นิมามองจ้องดวงตานิ่งๆ ที่กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน สายตาคู่นั้นไม่ใช่สายตาของคนที่เธอได้เข้า
ไปอยู่ในอ้อมกอดเมื่อตอนสายๆ ของวันนี้ สายตาที่จ้องมองเธออยู่ดูมีเลศนัย ไม่ใช่สายตาอันอบอุ่นและดูอ่อนโยน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นิมาทำได้เพียงแค่คิด รอยยิ้มแปลกๆ ของทองทิพย์กำลังทำให้นิมานึกถึงความร้ายที่เธอได้ยินผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ
พูดอยู่บ่อยๆ
“กำลังจะร้ายละสิ” เสียงรำพึงเบาๆ ของนิมาไม่มีใครได้ยินนอกจากหัวใจของเธอเอง