ใช่... เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ ทั้งที่เกือบจะเปลือยอยู่แล้ว แต่เธอจะเข้าหน้าเขาติดได้อย่างไรเล่า เพราะหลังจากใช้เวลาด้วยกันในช่วงเช้า ต่อให้คนตาบอดก็รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ แถมดูท่าหลังจากนี้คงจะไม่ปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างปกติอีกด้วย ถึงได้รีบมาหาเพื่อนสนิทเพื่อหาทางแก้ปัญหานี้ด้วยกัน
แต่เมื่อเห็นสีหน้าอ่อนล้าของฟ้าใส กลับทำให้เธอไม่กล้าที่จะหางานให้เพื่อน เพราะเธอก็ได้ข่าวมาว่าคู่กรณีที่หายหน้าไปยี่สิบปีคนนั้นกำลังจะกลับมาแล้วเช่นกัน
“วันนี้เธอจะไปไหนบ้าง” ปลายฝันเปลี่ยนเรื่อง พลางคิดว่าถ้าไม่มีธุระอะไร กะว่าจะชวนไปเดินเล่นตากแอร์ในห้างซะหน่อย ไหนๆ ก็ลางานมาแล้วทั้งวัน
“ไปสนามบินน่ะ” ฟ้าใสตอบ ความจริงเธอไม่อยากจะไปเท่าไหร่ แต่ก็ต้องไป
“ไปทำไม”
“คุณอัคนีจะกลับมาจากอังกฤษวันนี้” เสียงใสสั่นไหวเบาๆ เมื่อเอ่ยชื่อของคนที่เธอหวาดกลัว
“ห๊ะ! ไอ้คนนิสัยเสียนั่นมาถึงวันนี้เหรอ ฉันนึกว่าจะช้ากว่านี้ซะอีก” ปลายฝันพูดเสียงดังเมื่อนึกถึงคนที่ชอบรังแกฟ้าใสเมื่อตอนเด็ก
“เบาๆ สิ” ฟ้าใสปราม
“แล้วคิดยังไงถึงกลับมา นึกว่าไปแล้วไปลับแล้วซะอีก” ปลายฝันพูดถึงอย่างแค้นใจ แต่ก็สะใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำร้ายฟ้าใสจนต้องถูกส่งไปเรียนที่อังกฤษกว่ายี่สิบปี
“คุณพ่อบอกจะให้เขามาดูแลงานที่นี่”
“เฮอะ คนใจร้อนพรรค์นั้นน่ะนะ บริษัทเจ๊งแน่”
ฟ้าใสไม่พูดอะไรก็ได้แต่เงียบ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากเจอเขา แต่อีกใจกลับรู้สึกโหยหาถึงพี่ชายที่แสนดี ไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า แต่ว่าข่าวที่เธอได้ยินมาตลอดยี่สิบปี คือ เขาไม่เคยเปลี่ยนเลย คนใจร้าย ขี้โมโห อารมณ์รุนแรงนั่น ยังคงสมชื่อของเขาอยู่ตลอดเวลา
สนามบิน
ตอนนี้ทั้งอดิราช ฟ้าใสและปลายฝันต่างก็มายืนรออยู่ที่ทางออก เพื่อรอรับนายน้อยของบ้าน แต่แล้วนัยน์ตาสวยปลายฝันก็เหลือบไปเห็นอีกคนที่เจอกันครั้งแรกบนเตียงของเขาเมื่อเช้านี้ ก่อนที่เธอจะหนีไม่เจอหน้าเขาทั้งวัน
“คุณแดเนียล!”
“สวัสดีที่รัก” ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสบายๆ เอ่ยทักทายเธอราวกับคนสนิท
“ใครน่ะฝัน” ฟ้าใสถามเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาทัก
“ก็คนที่ฉันเล่าให้ฟังไง”
“เจ้านายของเธอน่ะเหรอ!”
“ว่าไงเจ้าแดน” อดิราชเอ่ยทักชายหนุ่มราวกับรู้จักดีเหมือนกัน ก่อนที่แดเนียลจะยกมือไหว้สวยไม่แพ้คนไทย
“สวัสดีครับคุณพ่อ มารับไฟเหรอครับ” ชายหนุ่มถาม แต่หากสายตากลับมองไปที่ปลายฝันอย่างไม่วางตา เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้งที่นี่ หลังจากที่เจ้าหล่อนเดินหนีเขาไป แถมวันนี้ก็ลางานทั้งวัน
“ใช่ ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่” อดิราชรู้สึกชื่นชมชายหนุ่มตรงหน้า ที่เป็นถึงประธานบริษัทวิศวกรที่มีสาขาไปทั่วโลก
“พอดีผมมาดูงานในแถบเอเชียน่ะครับ แต่คิดว่าคงได้อยู่ที่ประเทศไทยนานหน่อย” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มกริ่มไปให้หญิงสาวที่ตัวเอง ‘ถูกใจ’ ที่ยืนหน้าตึงอยู่กับหญิงสาวตัวเล็กหน้าหวาน
“อยู่นานๆ ก็ดี เจ้าไฟมันจะได้มีเพื่อน”
“ครับ”
“ฟ้า ฉันขอตัวไปห้องน้ำเดี๋ยวมานะ” ปลายฝันที่ไม่สะดวกใจจะยืนอยู่ข้างๆ เจ้านายหนุ่มหล่อของตน ต้องแวบออกไปสูดอากาศเพราะตรงนี้มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เป็นเพราะสายตาคมๆ ของเขาที่มองมาที่เธอตลอดเวลา เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน ทำไมถึงไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ เหมือนเมื่อเช้าที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้ากระมังที่ทำให้เธอต้องหนีหน้าเขาตลอดเวลา
ปลายฝันล้างหน้าล้างตาเพื่อดับความรู้สึกอึดอัดของเธอ ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล หญิงสาวมองตัวเองที่อยู่กระจก และคิดว่าใช่เธอจริงๆ หรือ เพราะตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยหน้าแดงเพราะผู้ชาย แดงจนร้อนเห่อออกมา ทั้งๆ ที่เธอทำงานกับผู้ชายส่วนใหญ่ แต่ก็เพิ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก พอยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งปวดหัว แต่พอไม่ได้คิดอะไร ใบหน้าหล่อๆ นั่นก็ลอยเข้ามาในหัวเธอทุกที สงสัยเธอต้องเข้าวัดสงบจิตสงบใจบ้างเสียแล้ว
“ออกมาแล้วเหรอคุณปลายฝัน” เสียงทุ้มดังขึ้นทันทีที่เห็นร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ว้ายคุณ! ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้คะ” ปลายฝันถามอย่างตกใจ
ชายหนุ่มยักไหล่ขึ้นเล็กน้อยแล้วตอบคำถาม
“พอดีเห็นคุณไปนาน ก็เลยมาตาม”
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเย็นชา อย่างพยายามที่จะปิดรอยของการหวั่นไหว เพราะคิดว่าคงเป็นแค่ช่วงนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอได้พบกันเจ้าของบริษัทสาขาแม่เลยตื่นเต้นไปหน่อย
“เย็นชาจังเลยนะที่รัก” แดเนียลยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาว ทั้งที่เมื่อคืนยังนอนเป็นแมวนอนแสนเชื่องจนเขาแทบอดใจไม่ไหวแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้นะ
“เลิกเรียกฉันว่าที่รักด้วยค่ะ มันน่าขนลุก”
“ดุจัง” เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้าวเดินตามหญิงสาวให้ทัน
หลังจากที่รอมาเป็นเวลานาน ร่างสูงในชุดหนังสีดำก็เดินออกมาจากช่องผู้โดยสารขาออก อัคนีเดินออกมาด้วยท่วงท่าที่มีแต่ความมั่นใจ ก่อนจะมองหาผู้เป็นบิดาที่บอกจะมารับถึงสนามบิน
“เจ้าไฟ ทางนี้!” อดิราชเรียกลูกชายที่ออกมาจากช่องผู้โดยสารขาออกด้วยความดีใจ แต่ด้วยความที่ว่าเขานั่งรถเข็นมาทำให้เขาไม่สามารถวิ่งไปกอดเจ้าลูกชายให้หายคิดถึงได้ ถึงแม้ว่าเขาจะดุ จะด่าบ้าง แต่ก็ไม่เคยหยุดความคิดถึงที่ห่างไปนานถึงยี่สิบปีได้
“พ่อ...” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ก็จะตรงไปยังร่างของบิดาที่นั่งอยู่บนรถเข็น ก่อนจะก้มลงกอดเบาๆ “คิดถึงครับ”
“ถ้าฉันไม่เรียกแกจะกลับมั้ยฮึ” ผู้เป็นพ่อกอดตอบด้วยความคิดถึง