"เดี๋ยวฉันมานะ" ขณะที่วิเวียร์กำลังจะส่งรูปให้เพื่อนดู ชมจันทร์เห็นว่าหัวหน้าเดินไปทางด้านหลังของบริษัทก็เลยจะตามไปดู
"แล้วนั่นยัยชมจะไปไหน"
"คงไปเข้าห้องน้ำมั้ง แล้วไหนรูปที่จะให้ดู"
"ลืมเลย..นี่ไง" ว่าแล้ววีเวียร์ก็ส่งให้กับอันนาได้ดู
"หึ..ไม่เหลือหรอก" พออันนาเห็นรูปผู้ชายในโทรศัพท์ของเพื่อน ก็รู้ได้ในทันทีว่าคงไม่เหลือ
"อะไรไม่เหลือของเธอ"
"คงมีคนจองไปแล้วล่ะ ถ้าไม่มีแฟนก็คงมีเมียมีลูกไปแล้ว หล่อขนาดนี้"
"ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ ภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้มีใครเลย"
"พูดเหมือนว่าเธอจะมีสิทธิ์งั้นแหละ"
"เผื่อสวรรค์เห็นใจฉันบ้างไง"
"ตื่นได้แล้วมัวแต่ฝันอยู่ได้ แล้วนี่ยัยชมจะเข้างานทันไหมเนี่ย"
"เราตามไปดีไหมหรือว่าจะไปรอที่แผนก"
หลังบริษัท..
"คุณอย่าลืมสิว่าคุณมีครอบครัวแล้ว ส่วนผมก็อยากมีครอบครัวเป็นของผมเองบ้าง"
"ทีตอนนั้นไม่เห็นคุณพูดแบบนี้เลย เพราะมันใช่ไหม" ตอนนั้นที่เพ็ญพักตร์หมายถึง ก็คือตอนที่เพ็ญพักตร์พยายามผลักดันให้ฝ่ายชายได้มีหน้าที่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
"เราจบกันแค่นี้เถอะ ผมไม่อยากทำบาปไปมากกว่านี้ และอีกอย่างถ้าคนรู้เรื่องเรามีหวังตกงานกันแพ็คคู่แน่" เพราะบริษัทนี้ไม่สนับสนุนให้มีเรื่องชู้สาว
"แต่ก่อนไม่เห็นคุณกลัวอะไรเลยนี่คะ ฉันสัญญาก็ได้ว่าจะหาเรื่องหย่าให้เร็วที่สุด"
"หย่า?" นี่เรากำลังเห็นอะไรอยู่เนี่ย พวกเขาเป็นชู้กันงั้นเหรอ?
"ใคร!?" ทั้งสองที่ยืนคุยกันอยู่ หันมองไปตรงที่เห็นเงาแว๊บๆ
"ต้องมีคนเห็นเราคุยกันแน่เลย"
"ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าเราอย่ามาคุยกันที่บริษัท" ว่าแล้วฝ่ายชายก็รีบวิ่งออกมาดูว่าเป็นใครที่แอบฟังอยู่เมื่อครู่
ในแผนก..
"แกไปไหนมา"
"จุ๊จุ๊" ชมจันทร์ส่งสัญญาณบอกเพื่อนห้ามพูดอะไร
"สวัสดีครับคุณชม"
"สวัสดีค่ะ"
"เมื่อกี้คุณชมอยู่ที่ไหนครับ"
"ฉันก็อยู่กับเพื่อนนี่ไงคะ คุณชาคริตมีอะไรหรือเปล่าคะ"
ชาคริตมองไปดูเพ็ญพักตร์ที่เดินตามหลังมาเล็กน้อย "ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ"
พอชาคริตไปแล้วเพ็ญพักตร์ก็เดินมายืนกอดอกอยู่หน้าโต๊ะทำงานของชมจันทร์
"ฉันหวังว่าเธอคงไม่หาเรื่องใส่ตัวนะ"
"คะ? เมื่อกี้พี่พูดกับชมเหรอคะ" ชมจันทร์เงยหน้าขึ้นมองเหมือนว่า ไม่แน่ใจว่าเพ็ญพักตร์พูดกับเธอไหม
"มองอะไรกัน" ลูกน้องที่นั่งอยู่แถวนั้นให้ความสนใจว่าทั้งสองจะมีเรื่องอะไรกันอีกไหม
"มีเรื่องอะไรกันอีกหรือเปล่า" พอเพ็ญพักตร์ไปแล้วเพื่อนทั้งสองถึงได้หันมาถามชมจันทร์ดู
ชมจันทร์ส่ายหน้าเล็กน้อย เรื่องนี้เธอคงพูดไม่ได้
เย็นวันนั้น..
"สวัสดีครับคุณชม"
"สวัสดีค่ะ คุณชาคริตไม่กลับบ้านเหรอคะ"
"ผมว่าจะรอชวนคุณไปทานข้าวเย็นด้วยกัน"
"วันนี้คงไม่ได้ค่ะ ชมต้องรีบไปโรง..เอ่อ..ไปธุระค่ะ" ทำไมสายตาเขาที่มองเธอถึงได้เปลี่ยนไป หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้า
"คุณรีบไปธุระเหรอครับ ขึ้นรถสิ ผมจะไปส่ง"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันลืมไปว่าธุระฉันไม่รีบเท่าไร ไปนะคะ"
"ช่วงนี้รถโดยสารไม่ว่างหรอกครับ ผมว่าคุณไปกับผมดีกว่า" ชาคริตรีบเดินไปประกบหลัง กำลังจะพาชมจันทร์ขึ้นรถของตัวเอง
ชมจันทร์มองหาลู่ทางเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ก่อน และเธอก็เห็นว่ามีรถคันหนึ่งสตาร์ทเครื่องจอดอยู่ไม่ไกลนี่เอง
"ฉันไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ รถเพื่อนฉันมาพอดีเลย ขอตัวนะคะ" หญิงสาวไม่รอช้ารีบสาวเท้าเดินไปที่รถคันนั้น..
แกร็ก! ลองเปิดประตูรถดูก็เห็นว่ารถไม่ได้ล็อก เธอก็เลยถือวิสาสะก้าวเข้าไปนั่งข้างคนขับ
"ฉันขอโทษด้วยนะคะ คือว่าฉันขอ..?" ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่ารถคันนี้เป็นของใคร..