เธอฝันเหมือนเดิมอีกแล้ว...
ภายในห้องนอนสีขาวที่ผ้าม่านยาวจรดพื้นกำลังปลิวไสวตามแรงลม กณิการ์นั่งอยู่บนเตียงนอนหกฟุตในชุดนอนระบายลูกไม้ ดวงตากลมจ้องมองเด็กหญิงวัยประมาณห้าขวบที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ปลายเตียงตรงหน้า เด็กคนนั้นสวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนยาวสีขาวกับกระโปรงสีน้ำเงิน เรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติและไล่สีอ่อนจนเกือบเป็นสีบลอนด์ทองที่ปลายผมถักเป็นเปียยาวจนถึงสะโพก เธอมีปานแดงรูปร่างคล้ายดาวที่ข้อมือขวา และกำลังมองมาด้วยประกายตาที่กณิการ์อ่านไม่ออก
แม้จะเหมือนเด็กผู้หญิงต่างชาติธรรมดาๆ แต่ร่างนั้นกลับโปร่งแสงจนสามารถมองทะลุเห็นกำแพงห้องทางด้านหลังได้
กณิการ์กำผ้าห่มบนตักแน่น พยายามเอ่ยปากถามสาเหตุที่เธอต้องฝันซ้ำๆ แบบนี้ติดๆ กันมาตลอดหลายคืน แต่กลับมิอาจกระทำ ราวกับเธอถูกจับขึงให้นั่งนิ่งหุบปากสนิทอยู่เช่นนั้นด้วยมือปริศนานับพันมือที่มองไม่เห็น
“พ่อ” เสียงใสกังวานดังขึ้นทั้งๆ ที่ปากเล็กๆ แทบไม่ขยับ และกณิการ์ฟังภาษาของเด็กน้อยเข้าใจโดยที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเธอพูดออกมาเป็นภาษาอะไร “ช่วยพ่อหนูด้วย...”
หญิงสาวขมวดคิ้ว แม้เข้าใจเนื้อความแต่กลับไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่เด็กหญิงเอ่ย เธอไม่รู้จักเด็กคนนี้แน่นอน ไม่รู้จักพ่อของเด็กด้วย แล้วเธอจะช่วยอะไรใครได้อย่างไร...
ในเมื่อช่วยให้ตัวเองตื่นจากความฝันยังทำไม่ได้เลย!
“คุณหลินคะ”
กณิการ์รู้สึกตัวตื่นเพราะสัมผัสที่ต้นแขนและเสียงเรียกแผ่วเบาราวกับไกลแสนไกล เธอลืมตามองเพดานที่เห็นเป็นภาพซ้อนทับกัน ก่อนปิดเปลือกตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง หนนี้จึงเห็นหน้าสุจีราที่ยืนอยู่ข้างเตียงชัดเจน
หญิงสาวขยับตัวด้วยความรู้สึกร้าวระบมไปทั้งร่าง ก่อนระลึกได้ว่าครั้งสุดท้ายที่มีสติก่อนหลับไปคือเธอกำลังขับรถไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้ไปรยา แต่เธอวูบหลับไปเสียตอนไหนก็ไม่รู้
“ดีจังค่ะที่คุณหลินฟื้นเสียที” สุจีรารินน้ำใส่แก้วมาจับหลอดป้อนให้ “นี่คุณหลับไปสามวันเลยนะคะ จำได้ไหมคะว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”
กณิการ์ละปากจากหลอด ก่อนสั่นศีรษะ
“คุณขับรถชนต้นไม้ที่เกาะกลางถนนค่ะ สงสัยจะหลับใน”
กณิการ์นิ่งไป ก่อนทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลียแล้วปิดเปลือกตาลง เธอพยักหน้าเบาๆ เมื่อสุรีจาแจ้งว่าจะออกไปตามพยาบาลให้มาดูอาการ และทิ้งเธอไว้กับความเงียบงัน
ครู่หนึ่งเสียงกุกกักที่ข้างเตียงทำให้กณิการ์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอคิดว่าจะเห็นสุจีราเปิดประตูเข้ามาพร้อมแพทย์หรือพยาบาล หากแต่สิ่งที่เห็นนั้นทำให้กณิการ์สะดุ้งลุกพรวดจากเตียงทันควัน เธอเบิกตาโต จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก
เด็กผู้หญิงชาวต่างชาติผู้ถักผมเปียยาวถึงสะโพก สวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาว กระโปรงสีน้ำเงิน มีปานแดงรูปร่างคล้ายภาพวาดดวงดาวที่ข้อมือขวา และร่างกายเล็กๆ นั่นโปร่งแสงเสียจนมองทะลุได้...
กำลังยืนอยู่ข้างเตียงเธอ!
“พี่เห็นหนูเหรอ” เธอถาม หนนี้ในความเป็นจริง กณิการ์ได้ยินเป็นภาษาไทยชัดแจ๋วราวกับเจ้าของภาษา และเนื้อเสียงของเด็กหญิงก็ช่างกังวานใสเหมือนในฝันของกณิการ์ทุกประการ “พี่เห็นหนูใช่ไหมคะ พี่เห็นหนูแล้ว! ไชโย!!!”
กณิการ์นิ่งอึ้ง มองร่างเล็กๆ ลอยขึ้นจากพื้นและลอยไปลอยมาในอากาศ จนเธออยากลองหยิกแขนหยิกแก้มตัวเองดูให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันอยู่จริงๆ แต่ความปวดระบมทั่วร่างขณะนี้ราวกับเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดีว่าเธอกำลังตื่น...เธอไม่ได้ฝันไป!
“หนูชื่อเวนิตา มาการ์ริโน เรียกหนูว่านิต้าก็ได้” ร่างเล็กโปร่งใสลอยลงมาตรงหน้ากณิการ์ด้วยรอยยิ้มกว้างขวางจนเกิดลักยิ้มบุ๋มที่ข้างแก้มขาวนวล “พี่หลิน หนูอยากจะขอให้พี่ช่วย”
เธอเปลี่ยนสีหน้าเป็นออดอ้อน ก่อนเบิกตาโตเมื่อกณิการ์หงายหลังตึงในวินาทีต่อมา
“พี่หลิน! เป็นไรอะ”
“ว้าย คุณหลิน คุณพยาบาลคะ มาดูคุณหลินหน่อยค่ะ คุณหลินๆ เป็นอะไรคะ”
หลายเสียงดังอวลอยู่ในสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดของกณิการ์ ก่อนที่เธอจะรู้สึกเหมือนสติสตังถูกจับเหวี่ยงในอากาศจนมึนงงสับสนไปหมด และจมลงสู่นิทราอันไร้ความฝันเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน
โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
ชีวิตของกณิการ์จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป!