แค่คิดกลางกายก็แข็งตึงขึ้นมาอีก ชายหนุ่มแทบอยากจะกระชากตัวเธอเข้ามาชิด ลูบไล้จูบซับไปทั่วร่างน่าเสน่หาเหมือนในความฝัน ทว่า...เขาทำแบบนั้นไม่ได้ อะไรบางอย่างในหัวยังคอยกระซิบเตือนว่าถ้าทำลงไปอาจถูกตบ ถูกด่า หรืออาจถูกตำรวจลากเข้าไปสงบสติอารมณ์ในคุกเลยก็ได้
“เอ่อ...คุณมาการ์ริโนใช่ไหมคะ”
เสียงหวานถามย้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงได้สติ เขารีบตอบเธอทันควัน
“ใช่” เขาตอบเป็นภาษาอิตาลีสั้นๆ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นภาษาอังกฤษ “แล้วคุณล่ะเป็นใคร”
มาปรากฏตัวในความฝันของผมได้ยังไง...
เขาถามต่อในใจ รู้ดีว่าหากพูดออกไปคงไม่พ้นถูกเธอกล่าวหาว่าเขาเป็นฝรั่งจอมเพี้ยน
“เอ่อ...ฉันชื่อกณิการ์ค่ะ เรียกฉันว่าหลินก็ได้ ฉันถูกส่งมาจากไปรยาโมเดลลิ่ง” หญิงสาวล้วงเอานามบัตรของไปรยาเพื่อนสนิทออกจากกระเป๋าถือ ส่งให้ชายหนุ่มดู “ฉันทราบมาว่าคุณต้องการนางแบบผมตรงยาวถึงเอวสีดำเท่านั้น และนางแบบที่ปุ่น เอ่อ...คุณไปรยาส่งมาแคนเซิลงานกันไปหมดแล้ว ฉันจึงอยากขอรับงานนี้ค่ะ”
กณิการ์เลียริมฝีปากที่แห้งผาก ขณะจ้องมองใบหน้าหล่อคมที่ก้มลงมองนามบัตรของไปรยาในมือของตน แล้วก็แอบกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ให้ตายเถอะ ทำไมเวนิตาไม่บอกสักคำว่าพ่อของเด็กหญิงหล่อเหลาคมคายถึงเพียงนี้ เขาตัวสูง...สูงมากๆ เทียบกันแล้วเธอสูงแค่อกเขาเท่านั้นเอง ชายหนุ่มมีดวงตาสีอำพันลุ่มลึก เรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติสีเดียวกับเวนิตา และมีเครื่องหน้าคมเข้มบาดใจราวกับเทพบุตรกรีกก็ไม่ปาน
หญิงสาวละสายตาจากแมทเทีย เมื่อเห็นดวงวิญญาณเวนิตาลอยไปลอยมาอยู่ตรงศีรษะของเขาอย่างดีใจ แต่ไม่เห็นใจคนที่ต้องอ้างชื่อเพื่อนมาโกหกพกลมแบบนี้เลย นี่หากไปรยารู้ว่าเธอเดินทางมาที่นี่เพื่อทำงานกับผู้ชายแปลกหน้า มิหนำซ้ำยังอยู่กันสองต่อสองเป็นเดือนๆ ไปรยาคงห้ามเด็ดขาด และคงเทศนาเธอยาวเป็นกระบุง
กณิการ์เดินทางมาที่นี่วันนี้ตามการชี้แนะของเวนิตาล้วนๆ วิญญาณเด็กหญิงบอกกับเธอว่าแมทเทียมักใช้บริการนางแบบจากโมเดลลิ่งของไปรยาเป็นประจำมาสองถึงสามปีแล้ว หนแรกเวนิตาแนะนำให้กณิการ์ขอความช่วยเหลือจากไปรยา แต่กณิการ์ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จะให้เดินฉับๆ เข้าไปบอกเพื่อนว่าเห็นผี ดูท่าจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่
กณิการ์จึงเลือกที่จะออกเดินทางมาหาแมทเทียโดยอ้างชื่อไปรยาให้ได้งาน หลังจากที่เวนิตาบอกเธอว่าวันนี้จะ ‘จัดการ’ นางแบบของบิดาคนล่าสุดให้เรียบร้อย แต่ด้วยวิธีไหน อย่างไร เด็กหญิงไม่ยอมบอก แต่กณิการ์ก็พอเดาได้ว่าขึ้นชื่อว่าผี ก็คงไปหลอกให้เขากลัว ให้เขาแคนเซิลงานละสิ
ตกลงเป็นผีดีหรือร้ายกันแน่เนี่ย...ดูสิ เธอลำบากใจจะตายอยู่แล้ว แต่เวนิตากลับลอยไปลอยมาพร้อมกับหัวเราะคิกคัก มิหนำซ้ำยังแอบเป่าผมพ่อตัวเองเล่นอยู่ได้ ชักหมั่นไส้ หรือจะไม่ช่วยซะเลยดีไหม
“ไม่ได้นะคะ” วิญญาณเด็กหญิงร้องออกมาเสียงหลง “พี่รับปากแล้วนะ”
กณิการ์แอบย่นจมูกใส่ และคิดต่อในใจว่า หากยังไม่อนุญาต ห้าม–อ่าน–ใจ–ฉัน!
แมทเทียเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่กณิการ์ทำหน้าแปลกๆ ใส่อากาศว่างเปล่าข้างกายเขา ชายหนุ่มหันมองซ้ายขวา แต่ไม่ยักเห็นอะไรแม้แต่แมลงวันสักตัว เขาหันกลับมามองหญิงสาวแปลกหน้าที่หัวเราะแหะๆ และยกมือขึ้นทำท่าทัดผมกับใบหูแก้เก้อทั้งที่เธอรวบผมมัดไปหมดทุกเส้น ไม่มีสักเส้นเหลือไว้ให้ทัดผมแล้ว
แมทเทียหลุดยิ้มขำ ก่อนหุบปากสนิท และพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่งขรึมเหมือนเก่า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้
ทั้งที่เธอเป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น...
หรืออาจเพราะเขาฝันถึงผู้หญิงที่เหมือนเธอราวกับแกะบ่อยๆ ก็ได้ มิหนำซ้ำยังเป็นความฝันที่สนิทสนมลึกซึ้งเกินเอ่ยกับใคร
“คุณได้อ่านสัญญาหรือยัง”
“สัญญา” กณิการ์เลิกคิ้วงุนงง “อ้อ...สัญญาการทำงานใช่ไหมคะ ยังเลยค่ะ พอดีเป็นเคสเร่งด่วน คุณรพี...” เธออ้างชื่อผู้จัดการสาวประเภทสองที่เคยทักทายปราศรัยกัน
“เลยแอบส่งฉันมาค่ะ และขอให้ฉันอ้อนวอนให้คุณรับฉันทำงานให้ได้ เธอกลัวเสียชื่อค่ะที่ส่งนางแบบมากี่คนก็มีปัญหากันหมด กลัวเรื่องถึงหูคุณไปรยาด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้เก็บเป็นความลับระหว่างเรานะคะ เดี๋ยวคุณไปรยาจะดุเธอเอา”
แมทเทียขมวดคิ้ว ทอดสายตามองใบหน้าอ่อนใส ดวงตากลมโต ท่าทางอ่อนโยนไร้เดียงสาของเธอแล้วก็ไม่แน่ใจว่าหากกณิการ์ทราบถึง ‘ข้อแม้’ ในสัญญา เธอจะยังตกลงรับงานอยู่ไหม
แต่เพราะแมทเทียมั่นใจว่าเธอคือผู้หญิงที่เขาตามหา ผู้หญิงที่เขาฝันถึงและอยากได้เธอมาเป็นนางแบบแทบบ้า...
ผู้หญิงที่เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะมีตัวตนจริง
งานนี้ต่อให้เธอไม่เสนอตัวมาเป็นนางแบบเอง เขาก็จะทำทุกอย่างให้ได้ผู้หญิงคนนี้มา ต่อให้ต้องใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องหรือชั่วช้าแค่ไหน เขาก็จะทำ!
“ไม่เห็นบอกพี่เลยว่าต้องเปลือย!”
กณิการ์โวยวายทันทีหลังดึงประตูห้องพักปิดและพยายามกดเสียงไม่ให้ดังออกไปนอกห้อง เธอโยนกระเป๋าเดินทางลงบนฟูกนอน ก่อนดึงมือไปเท้าสะเอว อีกมือถือกระดาษที่ระบุสัญญาการทำงานเป็นภาษาอังกฤษซึ่งแมทเทียโทร.ไปบอกให้เลขาฯ ของเขาที่อิตาลีส่งอีเมลมาให้
เมื่อครู่นี้เธอพยายามจะอ่านสัญญาก่อน แต่เขากลับโยกโย้ยึกยักว่าต้องเซ็นทันทีเพราะเขามีประชุมทางไกลด่วนจี๋ต้องรีบไปจัดการ เขานำสัญญาฉบับเก่าของนางแบบสามรายก่อนมาเทียบลวกๆ ด้วยว่าเหมือนกันทุกประการ ไม่มีอะไรน่ากังวล
และหากเธอไม่ไว้ใจเขา ‘เราคงร่วมงานกันไม่ได้’
เขาว่าอย่างนั้น...
กณิการ์หงุดหงิดและสงสัยขึ้นมาว่าในสัญญามีอะไรที่เขาไม่อยากให้เธอรู้ก่อนจรดปากกาหรืออย่างไร เธอลังเลนึกอยากบอกเลิกข้อตกลงกับเวนิตา ก็บิดาของเด็กหญิงดูเผด็จการ งี่เง่า เอาแต่ใจเสียขนาดนี้ นี่น่ะเหรอคุณพ่อแสนดีที่เวนิตายืนยันนักหนาว่าควรค่าแก่การที่เธอสละเวลาอันมีค่าเดินทางมาเพื่อช่วยชีวิตเขา
แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะโต้ตอบกลับหรือเอ่ยปากขอเวลาอ่านสัญญาแค่สักหนึ่งนาที เธอก็ถูกจับมือตวัดปากกาเซ็นลายเซ็นลงไปในสัญญาทั้งสองฉบับ...
...ด้วยมือเล็กๆ โปร่งใสของเวนิตา!