บทที่ 6 หวั่นไหว
คอนโดหรู ของอาชวี
เพลงรักและปันดาวเตรียมพร้อมที่จะไปมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เจ้ากรรมนายเวรของเธออย่างอาชา กลับยังหัวเราะท้องคัดท้องแข็งจะเป็นจะตาย เนื่องจาก เมื่อคืนเธอนั้นนอนไม่ค่อยจะหลับ เพราะคิดวนเวียนถึงอาชวี ผลคือ ตื่นมาเป็นยายเพิ้ง ตาแดงๆ สภาพนี้ไม่น่ารอด เมื่อเพื่อนชายเจอถึงกับหัวเราจนแทบหายใจไม่ทัน ทำให้เธอฉุนกึก! จึงตบกบาลเข้าให้
ผั๊วะ
"....." อาชา
“เชี่ย...หัวเราะไรนักหนาวะ ไอ้ชา” เพลงรักถามเสียงขุ่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำว่ะ ดูมึงดิวะ สภาพแบบนี้มึงไม่ได้นอนชะ ฮ่า ฮ๋า ฮ่า สารภาพมาเดี๋ยวนี้ ว่าเมื่อคืนมึงทำไรอยู่” เจ้ากรรมนายเวรของเพลงรักถาม พลางหัวเราะลั่น เพลงรักเลยหยิบแซนด์วิชยัดเข้าปากเพื่อนจนเต็มปากเต็มคำ
“แค่กๆๆๆ มึงจะฆ่ากูเหรอไอ้เพลง แค่กๆๆๆ” อาชาตาขุ่น รีบดึงเอาแซนด์วิชออกมาจากปาก
“สม หัวเราะดีนัก” ปันดาวสมน้ำหน้า
“ยัยดาว ปากมึงนี่นะ” ชายหนุ่มหันไปทำตาเขียวใส่ปันดาว คนสวยยักไหล่ไม่แคร์
“ตกลงแกได้นอนปะ” อาชาถามอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ขำ เพราะกลัวถูกยัดแซนด์วิชเข้าปากอีก
“นอน” พูดเสียงขุ่น
“สตอ นอนบ้านมึงเหรอ ดูสภาพตัวมึงด้วยอีดอก” อาชาว่าเข้าให้
“เออ กูนอนไม่หลับ” ยอมรับไป มันจะได้เลิกหัวเราะเธอ
“ไม นอนไม่หลับ” มันยังอยากรู้
“…..” เพลงรัก
“ไม่ตอบหรา” อาชา ปันดาวมองเพื่อนนิ่งๆ
“กูคิดหลายเรื่อง” เพลงรักพูด
“คิดเรื่อง?” อาชา
“…..” เพลงรัก
“ไม่ตอบ...งั้น...มึงคิดถึงเรื่องของอาวี?” อาชาขยี้ตรงจุด ชัดทุกประเด็น
“เชี่ย ...มึงจะเปิดสำนักเลยไหม” เพลงรักถามเพื่อน
“มึงจะออกทุนให้” อาชาถาม
“เรื่องไร อามึงดิ รวยจะตาย” คนสวยพูด เพื่อนหนุ่มกรอกตาเบื่อ ๆ
"ว่าแต่ เมื่อคืนมึงนอนยังไง ถึงมีสถาพนี้ได้" ยังไม่จบ
"...กู เอ่อ คือ กูฝันถึงอาวี..." เอ่ยอ้อมแอ้ม เพื่อนหนุ่มหูผึ่ง ตาโตเท่าไข่ห่าน แล้วโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น
"มึงคิดเรื่องอากูมากเหรอ ถึงเก็บไปฝัน" ดวงตาของอาชาวาววับ จนเพลงรักหน้าแดง
"อื้อ คิด มาก" อ้อมแอ้มตอบกลับไป เพื่อนหนุ่มเหล่มอง พลางหรี่ตา
"แบบไหน..." อยากรู้มาก
"....." เพลงรัก
"มึงจะอยากรู้ไปทำไม อะไรที่มึงไม่สมควรจะรู้ มึงก็อย่าถามไอ้เพลงเลย มันเป็นผู้หญิง มันอายเป็นนะ เหมือนกูนี่แหละ" ปันดาวพูด เพลงรักพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงเห็นด้วย แต่เพื่อนชายเพียงหนึ่งเดียวกลับกรอกตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ
"...เฮอะ" หมดคำจะพูด จึงได้แต่เบะปาก
“เราจะไปมหา’ ลัยกันยัง” ปันดาวถาม
"อื้อ ไปสิ" เพลงรักตอบกลับ
“ปะ ๆ ไปมหา'ลัยกัน” เพลงรักลากแขนปันดาว แล้วรีบเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวๆๆๆๆ” อาชาจับแขนเพลงรักไว้แทบไม่ทัน
“ไรอีก” จ้องตาเพื่อน
“รออากูก่อน” อาชาว่า
"รอทำไม" เพลงรักหน้าแดง ความฝันเมื่อคืนมันเด่นชัด ไหนจะเรื่องเมื่อคืนอีก เธอจึงมีอาการขัด ๆ เขิน ๆ ถ้าเจอหน้าเขา ควรจะทำตัวยังไง จะมองหน้าเขาติดไหม
"ก็อากูจะไปส่ง" อาชาว่า
"ไม่ต้อง กูไปเอง ถ้ามึงอยากให้อามึงไปส่ง งั้นก็รอไปพร้อมอามึงเหอะ" เพลงรักพูดแล้วลากแขนเพื่อนเดินไปทันที
"อากูกำลังมา"
"อากำลังจะไปส่ง มาสิ เดี๋ยวสาย"
ยังพูดไม่ทันขาดคำ ผู้ที่ถูกกล่าวถึงก็เดินเข้ามาพอดี เพลงรักหันไปมอง ภาพของเมื่อคืนฉายซ้ำเข้ามา ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำ แต่ถึงจะแดงแปร๊ดแค่ไหน สายตาสวยคู่นั้นก็ยังแวววาวเป็นประกายแห่งความท้าทาย และเมื่ออาชวีได้สบตากับเธอ เขาก็เกิดความวูบวาบที่ท่อนเนื้อขึ้นมาทันที
แม้จะเขินอาย แต่ความคิดถึงและภาพจำเมื่อคืนมันยังลุกโชนอยู่ในสมองและร่างกาย เพลงรักจึงไม่รู้ตัว ว่าเธอนั้นมองสบตากับอาเพื่อนด้วยสายตาแห่งความกระหายและหยาดเยิ้ม รอคอยให้เขากระโจนเข้าใส่ และกัดกินให้เต็มอิ่ม
ด้วยอารมณ์ทางเพศของอาชวียังคุกกรุ่นอยู่ เมื่อถูกสาวสวยส่งสายตาท้าทายและฉ่ำปรือมาให้ มีหรือที่แท่งยักษ์ของเขาจะไม่ขยายตัวขึ้น
แท่งทวนใหญ่ของอาชวีแข็งปั๋งพาดเป็นลำ หัวหยักนั้นโผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน มีน้ำปริ่มๆ ขังอยู่ในรูเล็กของหัวหยัก ชายหนุ่มจึงต้องหยุดเดินก่อน ไม่อย่างนั้น อาชาผู้เป็นหลาน และสองสาวตรงหน้านี้ ต้องเห็นความใหญ่ยาวของแท่งเนื้อเขาเป็นแน่
“อาส์” หนุ่มใหญ่ครางในลำคอเบา ๆ เมื่อความหงี่เล่นงานเขาแต่เช้าแบบนี้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะสาวสวยเพื่อนหลานชายคนนี้คนเดียว ถ้าเขาและเธอไม่จูบกันเมื่อคืน หัวใจและร่างกายคงไม่ต้องการเธอจนแทบระงับไม่ได้แบบนี้
อาชวีกัดฟันกรอด ๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ใบหูแดงก่ำ เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์ที่พุ่งสูงอย่างยากลำบาก เพราะท่อนเนื้อของเขาตอนนี้ มันแทบไม่ยอมฟังเขาเลย ในสมองของเขา มันสั่งการวนเวียนแต่จับคนสวยโก้งโค้ง แล้วนำท่อนยักษ์อวบใหญ่มุดเข้าออกรูสวาทอันคับแน่น จากนััน ภาพแห่งการมโนสำนึก มันก็ฉายชัดขึ้นมา เป็นภาพที่เขาร่วมรักกับเพื่อนหลานอย่างเร่าร้อนและถึงพริกถึงขิง
เสียงครวญครางกระเส่าอยู่ในสมอง จนเขาต้องหายใจหอบถี่ เพราะต้องต่อสู้กับความอยากทางอารมณ์และทางกาย
เมื่อคืนเขานั้นแทบไม่ได้นอน เพราะจะหลับทีไร ภาพและเสียงที่เขาและคนสวยกอดจูบกัน มันก็โผล่มาทุกที กลับกลายเป็นว่า นอกจากจะหลับไม่ลงแล้ว เขายังต้องจัดการกับแก่นกายที่มันแสนจะปวดร้าวนี้จนเกือบถึงตอนเช้า
แถมพอออกมาจากห้องนอน ก็เจอสายตาแห่งความฉ่ำปรือของเพื่อนหลานเข้าไปอีก อะไรๆ ที่ยังไม่มอดดับ มันก็ติดไฟขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้หนักหนาจริงๆ หนุ่มใหญ่คิดอย่างปวดร้าวในหัวใจ
อาชามองทั้งคู่ เห็นบรรยากาศดูแปลกไป เปรียบเสมือนอยู่ท่ามกลางเพลิงพิศวาส เขาก็อมยิ้ม คงคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแน่ ๆ เขาควรจะรีบออกไป ก่อนที่จะกระอักเลือดตายเพราะสายตาของอาและเพื่อน นักศึกษาหนุ่มคิดในใจ
ปันดาวเองก็มองหน้าอาเพื่อน และมองเพลงรัก ก็เห็นว่าเพื่อนของตนนั้นมีใบหน้าที่แดงก่ำ ตาวาว ๆ ส่วนอาของเพื่อนก็ไม่แตกต่างกัน เพราะใบหูของเขามันแดงจัด แต่ทว่้าใบหน้ากลับเรียบสนิท แต่เธอก็พอมองออกว่า ทั้งคู่มีอะไรบางอย่างที่มันสื่อสัมพันธ์กัน เหมือนอยู่ในห้วงสิเน่หายังไงยังงั้นเลย
มือเล็กนุ่มสะกิดแขนเพื่อนชายยิก ๆ เมื่อเห็นว่าอาชามองอากับเพื่อนแล้วยิ้มกริ่มเหมือนคนบ้า เธอก็กรอกตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะสะกิดเบา ๆ อีกครั้ง แต่อาชากลับไม่รู้สึกตัว ปันดาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นจึงตีไปที่ต้นแขนอันอุดมไปด้วยกล้ามล่ำบึ้กเต็มแรง
เพียะ
“โอ๊ย!” อาชาร้อง เป็นผลทำให้อาชวีและเพลงรักได้สติ หนุ่มใหญ่สบตากับเพื่อนหลานรักอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ฟังดูแล้วมันแตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก
“ไปมหา’ ลัยได้แล้ว เดี๋ยวช่วงเย็นอาจะพาไปกินไอติม” อาชวีบอก หลานชายก็ค้านเสียงหลง
“โธ่อาครับ ผมไม่ใช่เด็กสามขวบนะครับ จะได้ให้อาพาไปกินไอติมได้” อาชาหน้ามุ่ย ปันดาวขำ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อาชาสามขวบ น่าร้ากกกกกก” ปันดาวหยอก เมื่อถูกสาวล้อ นักศึกษาหนุ่มก็หน้าแดง ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เพื่อนสาว แล้วบีบปลายจมูกของเธอแรงๆ ปันดาวชะงักกึก! ความชิดใกล้นี้ เธอไม่เคยสัมผัส จริงอยู่ที่พวกเธอเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่ปี 1 แต่เพื่อนชายก็ไม่เคยที่จะแตะเนื้อต้องตัวเธอแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาจับเขาแตะ ใบหน้าหวานของปันดาวแดงระเรื่อ หัวใจของสาวมหาลัยก็เต้นโครมคราม ก่อนที่เธอจะรีบหันหน้าหนี
อาชาสะดุดลมหายใจของตนเอง เมื่อความใกล้ชิดนี้มีผลต่อหัวใจของเขา หัวใจหนุ่มเต้นรัวเร็ว จนเขานึกแปลกใจ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเขาจะชอบปันดาวเข้าให้!
อาชาสับสน เขาไม่อยากเชื่อว่าจะชอบเธอได้ เพราะสนิทกันมานาน ก็ไม่เคยรู้สึกว่าจะชอบซักที ถ้างั้นต้องลองกับสาวคนอื่นๆ ดู จะได้รู้ว่าที่เขาเป็นมันคืออะไร!