เหยื่อกาม #11 - ถูกลากตัว

1432 คำ
หลายวันต่อมา.. แกร๊ก| บานประตูไม้ถูกผลักเปิดออกด้วยฝีมือของหญิงชรา ในมือถือถ้วยโจ๊กกับแผงยาก้าวเดินเข้ามาในบ้าน "เจ้าแคทตื่นมากินข้าวกินยาเช้าก่อนลูก" เสียงอ่อนนุ่มติดจะเป็นห่วงดังเรียกขึ้น ทำให้แคทที่กำลังนอนหลับอยู่สะดุ้งลืมตาตื่น "อื้อ~ แค่กๆ" มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไอเบาๆเมื่อรู้สึกคันคอเล็กน้อย เธอค่อยๆดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางงัวเงียเพราะยังไม่หายดีเท่าไหร่ "อาการเอ็งเป็นยังไงบ้าง ตัวก็ไม่ร้อนแล้วนี่" จันทร์เอ่ยถาม พลางยื่นหลังมือไปอังหน้าผากของคนตรงหน้า "เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะยายจันทร์ เหลือคันคอกับรู้สึกเพลียนิดหน่อยค่ะ" "อืมๆ กินข้าวกินยาซะจะได้นอนพักต่อให้หาย" หญิงชราพยักหน้ารับรู้ แล้วเอื้อมมือไปหยิบถ้วยโจ๊กยื่นไปให้ "ค่ะ ขอบคุณมากนะคะยายจันทร์..ที่คอยดูแลหนู ถ้าไม่มียายหนูอาจจะคงตายไปแล้วก็ได้" คนป่วยน้ำตาคลอเบ้าประนมมือไหว้ขอบคุณผู้ที่ช่วยชีวิตและช่วยเหลือตน พร้อมกับรับถ้วยข้าวมาถือไว้ "ก็เอ็งมันหลานเพื่อนรักยาย..ก็ไม่ต่างจากหลานยายคนนึงแหละ ไม่ให้ยายช่วยเหลือเอ็งและจะให้ไปช่วยเหลือหมาที่ไหนล่ะ" "ฮือ..ฮึก" ได้ยินแค่นั้นน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้างด้วยความตื้นตันใจ หากเธอทำตามความใฝ่ฝันได้เมื่อไหร่เธอจะไม่มีทางลืมบุญคุณยายจันทร์เลยกับหลาน จะพาไปให้พ้นจากที่ห่วยๆนี่ "ไม่ต้องร้อง รีบกินซะจะได้พักผ่อนต่อ" ไม่ว่าเปล่ามือสากก็เอื้อมไปลูบศีรษะทุยเล็กเบาๆ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "เอ่อ..เดี๋ยวกินเสร็จแล้วอย่าลืมโทรไปหาแม่เอ็งด้วยนะ มันเป็นห่วง" 'แม่' ใช่สิเธอลืมไปเลย ตั้งแต่ป่วยก็ไม่ได้ไปเยี่ยมหาและไม่ได้ติดต่อแม่กับยายตัวเองเลย รวมไปถึงเพื่อนๆด้วย ป่านนี้ทุกคนคงเป็นห่วงแย่แล้วมั้ง การที่เธอกับแม่และยายไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เพราะว่าเมื่อสองปีก่อน ยายของเธอได้ป่วยติดเตียงเนื่องจากหมอตรวจพบไข้มันในเลือดสูง จึงต้องพักรักษาอยู่ที่บ้านพักพิเศษในโรงพยาบาลของญาติเพื่อนพ่อเนเน่ หรืออีกหนึ่งสถานะคือเป็นพ่อบุญธรรมเธอด้วย ซึ่งพ่อและแม่ของเนเน่ได้เมตตาอุปการะไว้ "ยะ..ยายได้บอกเรื่องนั่นกับแม่ไปหรือยังคะ" "เปล่าไม่ได้บอก บอกแค่เอ็งไม่สบายเพราะโหมงานหนัก" "อ้อค่ะ" "หาอะไร" จันทร์เอ่ยถาม เมื่อเห็นหลานเพื่อนหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ "โทรศัพท์น่ะค่ะ คงน่าจะลืมไว้ที่นั่น" แคทตอบกลับเสียงเบาในประโยคท้ายเพราะเพิ่งจำได้ว่าตัวเองไม่ได้หยิบอะไรกลับมาเลย ทั้งกระเป๋าทั้งโทรศัพท์มือถือลืมไว้ที่บ่อนหมด "งั้นเอาของยายไปโทร" เจ้าตัวพยักหน้ารับคำ พร้อมกับยื่นมือไปรับโทรศัพท์มือถือรุ่นปุ่มกดมาจากมือคนเป็นยายมาวางไว้ แล้วก้มหน้าค่อยๆตักข้าวกินทีละนิดทว่าได้แค่ไม่กี่คำเธอก็รู้สึกอิ่ม มือเล็กวางถ้วยข้าวไว้ในถาดดังเดิม ก่อนจะหยิบยาในแก้วมายัดใส่ปากตามด้วยกระดกน้ำตาม ทันทีที่อีกฝ่ายกินเสร็จหญิงชราก็หยัดกายลุกขึ้น พลางหยิบถาด "ยายไปและ แล้วอย่าลืมโทรหาแม่เอ็งล่ะ" "ค่ะยาย ขอบคุณนะคะ" "อืมๆ โทรศัพท์ถ้าใช้เสร็จก็วางไว้ข้างที่นอนนั่นแหละเดี๋ยวยายค่อยมาเอา" พูดแค่นั้นจันทร์ก็เปิดประตูออกจากบ้านไป แคทหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรไปหาผู้เป็นแม่ (ฮัลโหล) รอสายไม่นานคนปลายสายก็ดังกรอกเข้ามา "แม่..นี่หนูเองนะ" (แคทเหรอลูก เป็นยังไงบ้างเป็นอะไรทำไมไม่โทรมาบอกแม่เลย แม่เป็นห่วงแทบแย่) "พอดีโทรศัพท์หนูหายอะค่ะ แล้วก็เพิ่งจะดีขึ้นด้วย แม่กับยายเป็นยังไงบ้างคะ คิดถึงจังเลย" (แม่กับยายก็คิดถึงลูกมากๆเหมือนกัน ยายเขากินไม่ค่อยได้นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ พะวงเป็นห่วงลูก ดีนะยายจันทร์โทรมาบอกแม่ ไม่งั้นแม่คงไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกแม่โหมงานหนักจนป่วยหนักขนาดนี้) "หนูขอโทษนะคะที่ทำให้แม่กับยายเป็นห่วง หนูแค่อยากซื้อบ้านเร็วๆ อยากพายายกับแม่มาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม" (แม่รู้ แต่ลูกก็ต้องพักผ่อนบ้างถ้าเป็นอะไรขึ้นมาแม่กับยายจะอยู่ยังไง) "แค่กๆ..โอเคค่ะ หนูสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่หักโหมงานหนักจนป่วยแบบนี้อีกแล้ว" (อืมๆ แล้วนี่กินข้าวกินยาหรือยังเห็นยังไออยู่เลย) "กินแล้วค่ะ ยายจันทร์เอามาให้เพิ่งจะกลับไปเมื่อกี้ แล้วแม่กับยายทำอะไรอยู่คะกินข้าวกันหรือยัง" (กินแล้วลูก เพิ่งเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยายเพิ่งเสร็จ ว่าจะเปิดทีวีให้เขาดูอยู่) "อ้อ งั้นแม่ทำอะไรต่อเถอะค่ะหนูไม่กวนแล้ว รักแม่กับยายมากๆเลยน้า" (จ้ะลูก..แม่กับยายก็รักแคทที่สุด) "ค่ะ เดี๋ยวหนูหายดีเมื่อไหร่จะรีบไปหานะ" (จ้ะ) สิ้นเสียงการตอบกลับจากปลายสาย เธอจึงกดวาง ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือลงบนพื้นข้างที่นอน แล้วเอนตัวนอนลงไปอีกครั้ง แกร๊ก| ปึ้ง! "อื้อ~" เสียงคนถีบประตูเปิดเข้ามาในบ้านดังสนั่นขณะที่แคทยังนอนซมอยู่บนฟูกเพราะความเพลีย ปลุกเธอที่เพิ่งผล็อยหลับไปอีกครั้งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงให้รู้สึกตัวตื่น "พะ..พวกแกเป็นใคร? เข้ามาในบ้านฉันทำไม" ร่างอรชรรีบดีดตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นชายแปลกหน้าสองคนพรวดพราดเข้ามาในบ้านอย่างไร้มารยาท และกำลังเข้ามาประชิดตัวเธอ อะไรอีกเนี่ย ชีวิตของเธอจะต้องมาเจอเรื่องบ้าอะไรอีก จะปล้นจะอะไรก็ได้แต่ขออย่างเดียวเธอขออย่าให้เจอแบบคืนนั้นก็พอ ไม่งั้นคงรับมันไม่ไหว "....." ชายแปลกหน้าไม่ตอบอะไรโผล่เข้าไปจับกระชากตัวเธอหมายจะลากให้ตามพวกเขามา แต่ทว่าหญิงสาวกลับดิ้นพล่านพร้อมกับกรีดร้องเสียงหลง "กรี๊ดดดดด!..ปล่อย ปล่อยนะ ปล่อย" ปลั่ก! ครั้นได้จังหวะเธอก็ยกขาถีบเข้าไปเต็มๆกลางระหว่างขาของชายแปลกหน้าคนหนึ่งเพื่อหาทางหนี ในตอนที่อีกฝ่ายเผลอ "อั่ก.." ทำเอาชายคนนั้นถึงกับจุกเบาๆ ก่อนที่ชายอีกคนจะเข้าไปคว้าตัวเธอมาได้ทัน "โอ๊ยยยย..ปล่อยนะเว้ย อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ได้รู้จักพวกนาย" "ฤทธิ์เยอะนักเหรอมึง มานี่..ไปกับพวกกูดีๆมันจะตายไหมฮะ" "อึก ปะ..ไปไหนฉันไม่ไป" ใบหน้าหวานเหยเกไปด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกคนที่จับตัวอยู่บีบปลายคางเต็มแรง และคลายปล่อยในนาทีต่อมา "ต้องไป นายกูมีเรื่องจะถามอะไรมึงนิดหน่อย" "นายพวกแกเป็นใครฉันไม่รู้จัก จะถามอะไรฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น" "กูไม่ได้มีหน้าที่มายืนตอบคำถาม" พูดจบชายนั้นก็กระชากตัวเธอให้เดินตามมาพร้อมกับชายอีกคนก็คอยคุมทั้งผลักเธออยู่ด้านหลัง ขณะที่หญิงสาวไม่ยอมดีดดิ้นพลางกรีดร้องหวังให้คนมาช่วย "ไม่ ฉันไม่ไป..ปล่อย ปล่อยนะไอ้บ้าปล่อย ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย.." "ฮึ่ย! มึงจะแหกปากทำไมวะ ร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอก" "อึก" 'ก็จริงอย่างที่มันว่า เพราะครั้งที่แล้วเธอก็ร้องแทบตายไม่มีใครกล้าช่วยสักคน' ความกลัวทำให้หยาดน้ำตาค่อยๆรื้นเอ่อออกมาคลอเบ้า สุดท้ายแคทจึงยอมสงบปากสงบคำลงตามชายแปลกหน้าไป แม้จะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกมันจะลากเธอไปที่ไหน "เดินนิ่งๆดิ กูไม่พามึงไปฆ่าหรอกน่า" ---------------------------------------
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม