เพียะ!! ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงตบ สองร่างหอบหายใจสะท้าน รสจูบหยาบโลนรุนแรงทำเอาหัวใจสองดวงเต้นผิดปกติ และเธอจำต้องเรียกสติตัวเองด้วยการหยุดเขาให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
“ถ้าแกยังกล้าแตะต้องฉันอีก ฉันจะถอนตัวจากละครเรื่องนี้”
ดวงตาคมดุวาบขึ้น มองใบหน้าสวยงามของผู้หญิงที่เขากลับไปรู้สึกแค่เพื่อนไม่ได้อีก แล้วแค่นยิ้มหยัน เขารู้ว่าคนอย่างเธอไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ๆ แต่ก็กล้าเอามาขู่ ทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยของคนอย่างเขา
“เธอไม่ทำแบบนั้นแน่ มิตา”
“อย่ามาดูถูกฉัน ตอนนี้ฉันไม่ใช่มิตาคนเดิมแล้ว แกไม่รู้หรือไงว่าผัวฉันเป็นใคร แค่ถอนตัวจากละครเรื่องนี้มันง่ายมาก”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าถ้าเธอจะถอนตัว แป้งจะรู้สึกยังไง”
“อย่าเอายัยแป้งมาขู่ฉัน”
เพราะละครเรื่องนี้เป็นโปรเจคของเพื่อนรักที่ส่งน้องชายมาดูแลแทน หากเขาหรือเธอถอนตัวไปกลางคัน ทั้งปุณณดาและปิ่นต้องรู้ถึงความผิดปกตินี้ และแน่นอนว่าเธอกับเขาอาจโดนซักฟอกชุดใหญ่ เธอไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องผิดพลาดเหล่านั้นอีกแล้ว และไม่ต้องการให้เรื่องราวเหล่านั้นส่งผลให้เธอทำงานเสียหาย ทำคนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว มันแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งมันไม่ใช่เธอเลย
“ฉันรู้ว่าคนอย่างเธอมันไม่เคยแคร์ใคร ถ้าไม่มีความเป็นมืออาชีพพอ ก็ถอนตัวไปได้เลย”
“ปล่อยฉัน อย่ามายุ่ง อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก ฉันจะทนเห็นหน้าแกแค่สามสี่เดือนนี้เท่านั้น”
“มั่นใจได้ยังไง ว่าเรื่องนี้จะใช้เวลาแค่นั้นจริงๆ”
“ฉันจะขอให้เอาฉากที่มีฉันมาถ่ายก่อน เอาให้มันจบๆ ไป หลังจากจบเรื่องนี้ ฉันจะแต่งงานกับคุณเอกทันที”
คำพูดไร้เยื่อใยของเธอทำเอาเขาชะงัก จึงเป็นโอกาสให้เธอรวบรวมกำลังดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขาแล้วผลักอกแกร่งจนเขาเซถอยหลังไปหลายก้าว
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้หนีไปไหน เขาก็พุ่งเข้ากอดเอวเธอจากทางด้านหลัง รั้งไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีกครั้ง
“ไอ้พัชร์ ปล่อย”
“ถ้าฉันไม่ยอมให้เธอแต่งงานกับหมอนั่นล่ะ”
“แกมีสิทธิ์อะไร”
“ถ้าหมอนั่นมันรู้ว่าเธอมีฉันเป็นผัวอีกคน เธอจะได้ชูคอเป็นเมียไฮโซหมื่นล้านไหมนะ”
“เรื่องนั้นคุณเอกรู้แล้ว เขาไม่ได้สนใจ มันก็แค่อดีต อย่าเอามาขู่ฉันดีกว่า”
“แล้วถ้ามันเป็นปัจจุบันล่ะ ฉันอยากรู้นัก ว่าหมอนั่นจะว่ายังไง”
พูดจบก็ดันแผ่นหลังเล็กชิดผนังแล้วปล้ำจูบเธออีกครั้ง มือใหญ่บีบขยำความนุ่มหยุ่นอย่างแรงท่ามกลางการต่อสู้ดิ้นรนตบเขาจนใบหน้าขาวผ่องขึ้นรอยนิ้วมือแดงเป็นปื้นก่อนที่สองร่างจะถอยห่างจากกันอย่างอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบย่ำเศษใบไม้แห้งดังใกล้เข้ามาทุกที
“อ้าว พี่พัชร์ พี่มิตา ทำไมมาอยู่ตรงนี้กันล่ะคะ”
มยุรีมองหนุ่มสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงของคนทั้งคู่ ท่าทางอึดอัดกระดากอาย แถมใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยรอยนิ้วมือ มันทำให้เธอคิดอะไรดีๆ ไม่ได้เลย
“เอ่อ พี่มาคุยโทรศัพท์ บังเอิญเจอพัชร์พอดี ขอตัวก่อนนะ”
นางเอกสาวหนีออกจากจุดนี้อย่างรวดเร็ว ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นจะเข้ามาทันเห็นอะไรหรือเปล่า อยากคิดอะไรก็คิดไป คนที่มีข่าวฉาวบ่อยๆ อย่างเธอไม่แคร์อยู่แล้ว แค่ออกมาจากตรงนั้นได้ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปไกล แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
นางร้ายดาวรุ่งมองผู้หญิงที่เธอรู้สึกอิจฉาจนลับสายตา ก่อนหันกลับมามองผู้ชายที่เธอเพิ่งขึ้นขย่มมาเมื่อคืนหมาดๆ ด้วยสายตาคาดคั้นเอาคำตอบ
ดีแค่ไหนที่เธอเห็นเขาเดินมาทางนี้ เมื่อนับดอกกุหลาบของดารารุ่นพี่นั่นเสร็จก็รีบเดินออกมาตามหาเขา ด้วยคิดว่าถ้าเจอเขาในที่ลับตา อาจชวนเขาทำอะไรสนุกๆ กลางกองถ่ายดูสักครั้ง
“นี่มันหมายความว่ายังไงคะ พี่พัชร์ พี่กับพี่มิตาทำอะไรกัน”
“ไม่ได้ทำ”
“ไม่ได้ทำแล้วพี่สองคนจะอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไง อย่ามาโกหกยุรีนะ”
“แล้วเธอเข้ามาเห็นอะไรล่ะ”
“ก็ไม่เห็นไงคะ ยุรีเลยต้องถามพี่ ถ้ายุรีเข้ามาเห็นคาตา ยุรีคงไม่ยืนเฉยๆ แบบนี้แน่”
“ไม่เห็นอะไร ก็ตามนั้น หรือต่อให้เห็นก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง หุบปากของเธอให้สนิท ถ้าไม่อยากเดือดร้อน”
“พี่พัชร์ นี่หมายความว่าพี่เอากับพี่มิตาจริงๆ เหรอ เป็นเพื่อนกันประสาอะไรวะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“พี่จะทำแบบนี้กับยุรีไม่ได้ เมื่อคืนพี่ยังเอายุรีอยู่เลย ถ้าอยากนักก็ส่งข้อความมาสิคะ ยุรีจะรีบออกมาหาพี่ทันทีเลย”
“ก็ไม่ได้อยากเอาเธออีกแล้วไง น่ารำคาญว่ะ”
เขาสะบัดมือของเธอออกอย่างนึกรำคาญ คิดอยู่แล้วว่ายังไงเธอก็ต้องทำตัวแสดงความเป็นเจ้าของเขาแบบนี้ เห็นทีว่าเรื่องสนุกๆ ระหว่างเขากับเธอ คงต้องจบกันแค่นี้เสียแล้ว
มยุรีมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไป มือเล็กกำแน่นจนตัวสั่นไปหมด แม้รอยนิ้วมือแดงปื้นบนใบหน้านั้นจะยืนยันได้ว่านางเอกสาวที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาคงไม่ได้เต็มใจให้เขารังแก แต่ก็อดที่จะรู้สึกริษยาไม่ได้ เพราะผู้ชายของเธอดูจะแคร์ผู้หญิงคนนั้นมากจนเหยียบย้ำหัวใจเธอไม่เหลือชิ้นดี
คอยดูเถอะ ถ้าเธอมีหลักฐานเรื่องลับๆ ของสองคนนี้เมื่อไหร่ แฟนตัวจริงของแม่นั่นต้องได้รู้เรื่องนี้แน่นอน เธอสาบานเลย
“พัชร์ หน้าไปโดนอะไรมา”
ปิ่นเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นรอยนิ้วมือบนใบหน้าดาราในสังกัดที่เพิ่งเดินมาทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ด้านข้าง จึงจับคางของเขาหันพลิกหน้าซ้ายขวาเพื่อดูร่องรอยความบุบสลาย
“มิตาตบ”
“ฮะ อะไรนะ”
ผู้จัดการส่วนตัวตะโกนดังลั่นด้วยความตกใจ ทีมงานและนักแสดงที่นั่งพักผ่อนอยู่บริเวณนั้นจึงหันมามองอย่างต้องการใส่ใจ เธอจึงต้องลดเสียงลงราวกระซิบในประโยคถัดไปและรีบตบแป้งกลบเกลื่อนร่องรอยสีแดงนั้นให้พ้นจากสายตาสอดรู้สอดเห็น
“มิตาตบ นายไปทำอะไรให้มิตา อย่าบอกพี่นะว่า..”
“ครับ จูบ”
“พัชร์ นี่มันหมายความว่ายังไง ไหนว่าเธอสองคนจบเรื่องนั้นไปแล้วไง ต่างคนต่างมูฟออน ตอนนี้ยัยมิตาคบกับคุณเอกนายก็รู้”
“ครับ พอดีทะเลาะกันนิดหน่อย ผมเลยห้ามตัวเองไม่อยู่”
“ห้ามไม่อยู่ไม่ได้ จะบ้าหรือไง นายไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวกับมิตาอีกแล้วนะ ไหนว่าทำใจได้แล้วไง ทำไมเป็นแบบนี้ แล้วอย่างนี้งานจะล่มไหมเนี่ย”
“ผมไม่ได้เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน ไม่ต้องห่วงพี่ไปกังวลกับน้องสาวสุดที่รักของพี่เถอะครับ เห็นเมื่อกี้บอกว่าจะถอนตัว”
“ตายห่า ถอนตัวไม่ได้ ผู้ใหญ่เล่นงานตายเลย”
“ผมก็บอกไปแล้ว แต่เหมือนมิตาจะไม่เชื่อ แหงล่ะครับ แฟนเขาเป็นนักธุรกิจหมื่นล้าน แค่ค่าปรับนิดหน่อยคงมีปัญญาจ่ายให้ ถ้าตกงานก็คงจะเลี้ยงดูกันได้ เห็นว่าจบเรื่องนี้จะแต่งงานกับหมอนั่นแล้วนี่ ผู้ชายรวยก็ต้องรีบจับ”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้ พี่จะไปคุยกับมิตาเอง ส่วนนาย อยู่ให้ห่างๆ มิตาเอาไว้ อย่าไปยุ่งกับมิตาอีก ถ้ามันฟุ้งซ่านก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะ นางเอกเรื่องที่แล้วของนายก็มีซัมติงกันนี่ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ เหมาะกับนายนะ ขอเป็นแฟนเลย พี่สนับสนุน”
จะมีใครในโลกนี้ที่ลำบากใจและปวดหัวเท่าเธออีกไหม นั่นก็น้องสาว นี่ก็น้องชาย แถมทั้งคู่ยังเป็นดาราในสังกัดของเธออีกต่างหาก จะเข้าข้างใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่อาจทำได้ การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือต้องให้คนที่ยังมูฟออนไม่ได้ตามที่พูดรีบมีคนของใจเป็นตัวเป็นตนซะ ก่อนที่ทุกคนจะเดือดร้อนกันไปหมด
“ไม่ได้ชอบครับ”
“ไม่ชอบ แต่ไปหาที่คอนโดนี่นะ”
“ผมไปหาสาวที่คอนโดตั้งกี่คนแล้วครับ พี่ปิ่นทำเหมือนไม่เคยรู้”
“พี่รู้ แต่ก่อนหน้านี้นายยังมีแฟนได้เลย ขนาดไม่ได้ชอบอะไรมากมายนะ คนนี้ก็ลองคบกันดูก่อนไหม อาจจะเข้ากันได้ก็ได้นะ”
“ไม่ล่ะครับ เด็กไป ผมไม่ชอบ”
ปิ่นเบิกตาค้าง ทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้ด้วยใบหน้าสิ้นหวัง เธอรู้ว่าพัชร์เป็นคนเอาแต่ใจและเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองมาก เขายอมลงและเป็นผู้ชายแสนดีให้กับผู้หญิงเพียงคนเดียวมาตลอดสามสิบปี นั่นก็คือ ปุณณดา เท่านั้น
“เอาน่าพี่ปิ่น ผมไม่ทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่หรอกน่า พี่ก็รู้ว่าผมกับมิตาเป็นคู่กัดกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่แปลกหรอกที่จะทะเลาะกันบ่อยๆ เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้”
“แต่เมื่อก่อนที่เธอสองคนทะเลาะกัน นายไม่ได้จูบมิตาเหมือนตอนนี้นะ แล้วมิตาก็ไม่ได้ตบนายเหมือนตอนนี้ด้วย”
“ก็แค่หมั่นไส้ครับ ปากแดงๆ นั่นมันอวดดีกับผม เลยอดใจไม่ไหว”
“เฮ้อ พัชร์ นายกำลังจะกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลไปทุกที นั่นมันแฟนชาวบ้าน ต่อให้หมั่นไส้แค่ไหน นายก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรมิตาทั้งนั้น พี่จะย้ำกับนายอีกครั้ง ว่าอย่าแตะต้องมิตาอีก ถ้าทนไม่ไหวก็อยู่ให้ห่าง โฟกัสแค่เรื่องงาน แล้วรีบคบกับใครแบบจริงจังซะ พี่ขอร้อง อย่าให้มีข่าวฉาวหรือมีเรื่องราวเดือดร้อนเลยนะ คุณเอกเขาไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดา นายก็รู้”
“ผมไม่ได้กลัวผู้ชายคนนั้นหรอกนะพี่ปิ่น อีกเรื่องที่พี่ต้องเตือนน้องสาวของพี่ไม่ให้หลงใหลในความไฮโซของหมอนั่นไปจนหน้ามืดตามัว เพราะผมเห็นกับตาว่านายนั่นพาผู้หญิงคนอื่นเข้าไปเอากันในห้องวีที่ผับเมื่อคืนนี้”
“อะไรนะ คุณเอกทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ”
“ครับ ถึงไม่ยอมรับสายมิตาเมื่อคืนนี้ไง”
“โอย หนีเสือปะจระเข้จริงๆ น้องสาวฉัน”