จ้อนไปส่งณปภัชแล้วก็เดินกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้านายหนุ่ม บ้านหลังใหญ่หลังนี้ไม่มีแม่บ้านหรือแม้แต่คนใช้ เพราะนายของมันชอบความเป็นส่วนตัว จะมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละสามวัน ส่วนกับข้าวนั้นนายของมันไปกินที่โรงอาหารกับคนงาน
“ผมพาน้องไอซ์ไปห้องพักแล้วนะนาย” ไอ้จ้อนเข้ามารายงานนายหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“น้องไอซ์? มึงไปสนิทกับ ‘อี’ เด็กนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไอ้จ้อน” หฤทย์ปิดหนังสือคู่มือทำปุ๋ยหมักในมือทันทีด้วยความระคายหูเมื่อไอ้จ้อนพูดถึงณปภัชอย่างสนิทสนม
“ไม่ได้สนิทอะไรหรอกครับ เพิ่งรู้จักกันเอง ว่าแต่นายพาเธอมาทำตำแหน่งอะไรในไร่เราครับ” เมื่อเรียก ‘น้อง’ แล้วเจ้านายไม่พอใจ มันจึงเปลี่ยนคำเรียกหญิงสาว
“ก็ทำเหมือนคนงานทั่วไปเรานั่นแหละ”
“เธอจะไหวเหรอนาย ตัวเล็กแค่นั้นเอง”
“แล้วมึงเสือกไรด้วยไอ้จ้อน อยากอยู่ที่นี่ก็ต้องอดทน มาทำงานไม่ได้มาเป็นคุณนายของไร่”
“ไอ้จ้อนไม่ได้บอกสักหน่อยว่ามาเป็นคุณนาย” มันพึมพำกับตัวเอง แต่ว่าพึมพำเป็นเสียงออกมาทำให้นายหนุ่มของมันตวัดตามองพร้อมกับเท้าใหญ่ยกขึ้นยันขาของมันทันที
ตุ้บ!
“นายถีบไอ้จ้อนทำไม”
“มึงพูดไม่เข้าหูกู งานอะไรหนักๆ ให้เด็กนั่นทำ ไม่ว่าจะงานผู้ชายผู้หญิงก็ให้มันทำ ให้มันลำบากที่สุด ลำบากจนทนอยู่ที่ไร่กูไม่ได้”
“แล้วนายจะพาเธอมาทำไมถ้าไม่อยากให้เธออยู่”
“พ่อกูสั่ง กูขัดไม่ได้” เขาตอบเสียงห้วนแล้วยกเท้าขึ้นมาเกยก่ายโต๊ะกลางโซฟาตรงหน้าตัวเอง และคำตอบของหฤทย์ก็ทำให้ไอ้จ้อนพูดตอบต่อไม่ได้จึงได้แต่ก้มหน้าเงียบ
“กูจะไปดูโรงปุ๋ยหมักว่าคนงานทำตามสูตรที่กูสอนทำรึเปล่า” แล้วเขาก็ยกเท้าลงจากโต๊ะกลางโซฟามาลงพื้นแล้วยันกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงองอาจของตัวเอง ส่วนไอ้จ้อนที่สูงเพียงระดับไหล่ของนายก็ได้แต่แหงนเงยหน้าขึ้นมองหน้าเจ้านายของมัน
“มึงไปทำงานของมึงได้แล้ว อ้อ...ไปดูเด็กนั่นด้วยว่าจัดของเสร็จรึยัง พาไปที่โรงปุ๋ยหมักด้วยล่ะ”
“นายจะให้เธอทำงานเลยเหรอครับ”
“เออสิวะ!” แล้วหฤทย์ก็เดินจากไปทันที ส่วนไอ้จ้อนก็รีบเดินตามไปเพื่อจะไปทำตามคำสั่งของเจ้านายของมัน
ณปภัชมาถึงโรงปุ๋ยหมักที่ตอนนี้คนงานกำลังช่วยกันทำปุ๋ยหมักไว้ใช้ในไร่ส้ม และมองไปยังกลางโรงปุ๋ยหมักก็เห็นเจ้าของไร่กำลังช่วยคนงานทำปุ๋ยหมักเช่นกัน เขาดูเอาจริงเอาจังกับงานตรงหน้า สาวน้อยยืนมองเขาไม่ยอมขยับขาก้าวเดินตามจ้อนไปในโรงปุ๋ยหมักจนจ้อนต้องเดินย้อนกลับมาเอ่ยเรียกชวนเธอตามเข้าไปในโรงปุ๋ยหมัก
“คะ...พี่จ้อน” เมื่อสติกลับมากับเนื้อกับตัวก็รีบสาวเท้าเดินตามจ้อนเข้าไปในโรงหมักปุ๋ย กลิ่นปุ๋ยหมักอบอวลไปทั่วทำให้ต้องยกมือขึ้นปิดจมูก และมีเสียงห้วนดังลอยขึ้นมากระทบหูของเธอ
“ทนไม่ได้ก็ไสหัวไป อย่ามาเกะกะตา” หฤทย์เห็นตั้งแต่ไอ้จ้อนเดินนำทางหล่อนมาที่นี่แล้ว เขาอยากรู้นักว่าแม่เลี้ยงตัวน้อยจะทนได้กี่น้ำกัน หากต้องทำงานหนักทำงานทุกอย่างในไร่ของเขาแบบนี้ เขาจะทำทุกอย่างให้ณปภัชร้องไห้หอบผ้าออกจากไร่เลยคอยดู
“ใครบอกว่าฉันทนไม่ได้” เธอตอบกลับพร้อมกับเอามือที่ปิดจมูกออก
“หึ! ปากดี! งั้นก็มาทำปุ๋ยหมัก อย่าคิดว่ามาที่นี่เธอจะอยู่สุขสบาย ไอ้จ้อนบอกแม่บ้านที่ไปทำความสะอาดบ้านให้กูด้วยล่ะว่าไม่ต้องไปทำความสะอาด เพราะกูจะให้ยัยเด็กนี้ไปทำแทน” สั่งจบเขาก็หมุนตัวเดินออกจากโรงหมักปุ๋ยทำเอาคนงานที่ได้ยินพากันขมวดคิ้วกับความอารมณ์แปรปรวนของนายหนุ่มตัวเอง ปกติหฤทย์เป็นคนใจดี แต่ทำไมวันนี้ดูเกรี้ยวกราดชอบกลตั้งแต่มาถึงแล้ว
“เดี๋ยวไอ้จ้อนให้คนงานช่วยสอนงานนะครับ” จ้อนหันมาเอ่ยบอกณปภัช
“ค่ะ พี่จ้อน”
“ไม่ไหวก็บอกนะครับ”
“ไอซ์ไหวค่ะ งานแค่นี้เอง”
“ทำความสะอาดอีกนะครับ”
“ไอซ์ทำได้ค่ะ เขาต้องการ ไอซ์ก็จะทำค่ะ”
“อดทนหน่อยนะครับ ไม่รู้ว่านายเป็นอะไร ทำไมถึงใจร้ายผิดปกติแบบนี้”
“เขาร้ายเฉพาะกับไอซ์เท่านั้นแหละค่ะ” เธอตอบแล้วเดินตามจ้อนไปยังที่คนงานกำลังช่วยกันผสมปุ๋ยหมักกวนปุ๋ยหมักในถัง แม้กลิ่นจะเหม็นแต่ก็พอทนได้
จ้อนไม่ตอบกลับและเงียบ พาหญิงสาวมาแนะนำกับคนงานทุกคน และให้คนงานช่วยสอนณปภัชทำงาน ดูท่าแล้วคงต้องสอนทุกอย่างแบบละเอียด ตัวเล็กบางระหงจะสู้งานไร่ได้ยังไง ไอ้จ้อนก็ไม่เข้าใจนายของตนเองว่าทำไมถึงเอาหญิงสาวเปราะบางมาทรมานที่ไร่แบบนี้กัน
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
ขณะกำลังเดินดูคนงานที่กำลังใส่ปุ๋ยให้ต้นส้มอยู่นั้น เขาก็หยุดเดินล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมาดูว่าใครโทรมาหาตนเอง พอเห็นว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้าก็แค่นขำในลำคอก่อนจะกดรับสายแล้วกรอกเสียงห้วนแข็งส่งไปในสายทันที
“ว่ายังไงครับพ่อ เป็นห่วงเมียเด็กเหรอถึงได้โทรมา ผมไม่ฆ่า ‘นัง’ เด็กนั่นหรอกน่า ไม่ต้องห่วง”
“นั่นปากแกเหรอไอ้โหด”
“ครับ ปากผมเองที่พูดกับพ่อ ว่าไงครับ ถ้าจะโทรมาถามเรื่องเมียเด็กก็ไม่ต้องถามผม เพราะผมไม่มีอะไรจะเล่า อยากรู้อะไรทำไมไม่โทรถามกันเองล่ะครับผม”
“ไอ้ลูกเวร! มึงเนี่ยนะไอ้โหด มึงช่วยทำดีๆ กับหนูไอซ์หน่อยไม่ได้รึไงฮะ!”
“ไม่ได้หรอกครับ เกลียด!”
“หนูไอซ์ทำอะไรให้มึงถึงเกลียดนักหนา เพิ่งเจอกันเองนะเว้ย! แล้วจงเกลียดจงชังหนูไอซ์อะไรขนาดนั้นฮึ”
“เกลียดที่พ่อเอาเด็กนั่นมาแทนที่แม่ เกลียดที่เด็กนั่นมายั่วพ่อจนเสียคนตอนแก่” เขาตอบสวนกลับคนในสาย
“มึงเนี่ยนะไอ้โหด พ่อก็แก่แล้ว มึงจะอะไรนักหนา จะอยู่ได้อีกกี่ปีกันเชียว พ่อก็อยากได้หลาน มึงทั้งสามคนก็ไม่ยอมมีเมียสักที”
“พ่อเลยต้องมีเมียว่างั้น”
“เออ!”
“ตลกแล้วพ่อ ถ้าพ่อโทรมาบอกให้ผมดูแลยัยหนูไอซ์ของพ่อก็ฝันเถอะ โหดจะทำทุกอย่างให้เมียเด็กพ่อทนไม่ได้ร้องไห้กลับไปซบอกพ่อ หรือไม่ก็ร้องไห้ไปขอหย่าพ่อเลยคอยดู”
“พ่อจะรอวันนั้น ให้มันรู้ไปว่าใครกันแน่จะร้องไห้มาซบอกพ่อ หนูไอซ์หรือมึงไอ้โหด”
“ทำไมผมต้องไปซบอกพ่อด้วยล่ะ”
“คอยดูก็แล้วกัน ถนอมเมียพ่อด้วยล่ะ อย่าใจร้ายมากนัก เดี๋ยวเขาเกลียด”
“เกลียดไปสิ ผมก็เกลียดยัยนั่นเหมือนกัน”
“อย่ามาขอให้พ่อช่วยล่ะ แค่นี้แหละ อ่อนโยนกับหนูไอซ์บ้างก็แล้วกันไอ้โหด”
“ให้ตายผมก็ไม่อ่อนโยน จะกระทืบเสียด้วยซ้ำ ไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงผมกระทืบไปแล้ว”
“ปากดีเหลือเกิน แค่นี้แหละ พ่อโทรหาหนูไอซ์ก่อน”
“ตอนนี้เวลางาน ถ้าจะโทรหาก็ตอนเย็นครับพ่อ”
“มึงใช้น้องทำงานตั้งแต่วันแรกเลยเหรอไอ้โหด”
“แน่นอน มาทำงานก็ต้องทำงานสิ ไม่ได้มาเป็นคุณนายสักหน่อย แค่นี้แหละครับ ผมต้องทำงานไม่ได้ว่างเหมือนพ่อ”
แล้วเขาก็ตัดวางสายไปทันที ยิ่งพ่อแสดงความเป็นห่วงณปภัช เขายิ่งเกลียดหล่อนมากขึ้นเท่าทวีคูณ เกลียดเพราะหล่อนกล้ามาแทนที่แม่ของเขา กล้าดียังไงมาเป็นแม่เลี้ยงวัยกระเตาะของเขา มาดูกันว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน รับรองว่าอาทิตย์แรกก็หอบผ้าหอบผ่อนออกจากไร่เขาแน่นอน