ตอนที่ 1 เด็กสาวใต้การปกครอง (2) จบ

1680 คำ
“พี่วิน ไม่ใช่เรื่องน่าขำ” ธนาตย์ตวาดใส่พี่ชายเสียงเขียวแล้วเพ่งมองสาวสวยสายตาไม่เป็นมิตร ไม่ชอบที่ถูกขุดคุ้ยเรื่องไม่กี่เดือนก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่เขาโคตรจะลำบากกว่าจะผ่านมันมาได้ เกือบเสียลูกเสียเมียไปเพราะความเจ้าคิดเจ้าแค้นของผู้หญิงคนเดียว สำหรับคนอื่นอาจจะมองเป็นเรื่องขำขันแต่สำหรับเขามันไม่ขำเลยสักนิด “เออ โทษที” ชวินทร์พยายามก้มหน้าเก็บซ่อนอารมณ์ “พราวแค่แซวเล่นนิดเดียวเองค่ะคุณธันอย่าโกรธเลยนะคะ ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ความจริงทั้งนั้นไม่มีใครครหาหรอกค่ะ มีแค่จะอิจฉาคุณเอ๋ยภรรยาของคุณธันที่ได้สามีดีแสนดีแบบนี้” “ขอบคุณคุณดาราพราวมากนะครับที่ให้ความสนใจเรื่องในครอบครัวผมมากขนาดนี้!” ความจริงอยากจะพูดอะไรมากกว่านั้นทว่าเห็นแก่หน้าพี่ชายไม่อยากให้มีปัญหากันเวลาทำงาน “แหม นิดหน่อยเองค่ะ” ดาราพราวแสยะยิ้มมุมปาก ใช้ปลายนิ้วปัดป่ายเส้นผมออกไปด้านหลังเผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจที่ทะลักทะลวงออกมาจากชุดสวย ละสายตาจากธนาตย์กลับมามองชวินทร์ “ที่พราวมาทักทายเพราะอยากขอนัดคุณวินดินเนอร์น่ะค่ะ ภายในสัปดาห์นี้พอจะมีเวลาว่างให้พราวไหมคะ” โอ้โห! มามุกนี้เลยเหรอ จากที่กลั้นหัวเราะเรื่องน้องชายชวินทร์ก็ต้องปวดหัว ดูจากสีหน้าแววตาและการวางตัวแล้วโอกาสเสียตัวอีกครั้งมีมากฉะนั้นขอชิงหลบก่อนแล้วกัน “มื้อเที่ยงได้แต่มื้อเย็นคงไม่ได้ครับ” “ทำไมล่ะคะ” “คือเมียที่บ้านหึงโหดมากครับ” “เมียที่บ้าน!!?” สาวสวยอุทานเสียงดังแข่งกับดนตรีสด มือข้างที่กำลังจะปัดผมอีกข้างอวดหน้าอกใหญ่ทะลักชุดเป็นต้องสะดุดเสียฟอร์มหน้าแตกพังยับเยิน บ้าเอ๊ย คุณวินมีเมียตอนไหน ปีที่แล้วตอนวันไนท์สแตนด้วยกันเขายังโสดสนิทไม่มีคนแนบกายอยู่เลย ดาราพราวหน้านิ่วคิ้วขมวดหลายวินาทีกว่าจะปรับอารมณ์ได้และทำตัวให้เป็นปกติที่สุด “เอ่อ... งั้นพราวขออนุญาตจองตัวคุณวินไว้เลยนะคะ วันนัดเที่ยงวันไหนพราวจะบอกผ่านเลขาอีกครั้ง” “ได้ครับ ถ้าไม่ติดอะไรผมยินดีเสมอยังไงคุณพราวก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนสำคัญของผม” ชวินทร์ยิ้มเป็นมิตร เน้นย้ำให้สาวสวยรู้ตัวว่าเป็นได้แค่นั้นให้เลื่อนมาเป็นอย่างอื่นคงจะไม่ได้ “ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ดาราพราวปรายสายตามองทางธนาตย์ตอนท้ายก่อนจะลุกขึ้นรวดเร็วแบบไม่รักษามาดอะไรทั้งนั้น กระแทกส้นสูงดังกึงก้องกลับไปยังโต๊ะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว คล้อยหลังสาวสวยสองพี่น้องพร้อมใจหัวเราะออกมา ตลกสีหน้าของดาราพราวที่ตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่าชวินทร์ไม่ได้โสดอีกแล้ว “ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้สวยซะเปล่าแต่เสียมารยาทพูดเรื่องครอบครัวของคนอื่นอยู่ได้นานสองนาน” ธนาตย์บ่นยาวไม่ชอบให้ใครมาพูดเรื่องในครอบครัวตัวเองเหมือนเป็นบทละครตลกสามารถหยิบยกมาพูดตอนไหนก็ได้ “ช่วยไม่ได้ก็ช่วงนั้นข่าวนายมันดังสุดๆ เลยนี่หว่า” “พอเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วพี่วินไม่งั้นผมจะอ้วกใส่พี่ตรงนี้แหละ แค่นึกถึงก็คันคอจะแย่ผู้หญิงอะไรขี้อิจฉาเอ๋ยเป็นบ้า” “ใจเย็นๆ เว้ย” คนฟังกลั้นหัวเราะอีกครั้ง “หวังว่าพี่คงไม่ได้ชอบคุณพราวอะไรนั่นหรอกนะ ไม่งั้นผมฟ้องพี่คีย์ให้กันท่าความรักข้างเดียวของพี่แน่ น้องไม่ใช่ของเล่น” “เฮ้ย! อย่าไปเล่นกับของสูงเชียวนะ” แทบสำลักเบียร์ร้องห้ามอย่างเร็ว ก็พี่ชายคนโตของบ้านดันโหดสุดแถมเด็ดขาดสุด ลองได้พูดได้สั่งอะไรขึ้นมาน้องทั้งสองอย่างพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์โต้เถียง ชวินทร์หยิบทิชชู่มาซับเบียร์มุมปากก่อนพูดต่อ “ความจริงคุณพราวก็ใช้ได้นะ สวย เก่ง เด็ด เสียแต่ตัวพี่มีพันธะทางใจแล้วคงหมดสิทธิ์มองคุณพราว ในเมื่อข้าวหอมไม่ชอบให้พี่ไปสนิทกับผู้หญิงอื่น พี่ก็จะไม่ทำ แต่ถ้าโดนรุกกลับบ้างก็อย่างอแงเสียงดังแล้วกัน” กล่าวจบก็หัวเราะชอบใจคำพูดตัวเองส่วนธนาตย์นั้นมองด้วยสายตาระยิบระยับเชียร์พี่ชายให้รุกสุดใจ ข้อหาที่ 1 มั่วมากในกามารมณ์ ข้อหาที่ 2 เที่ยวกลางคืนและกลับบ้านดึกเกินห้าทุ่ม รวมสองข้อหามีโทษขั้นรุนแรงต้องถูกลงโทษเพิ่มไปอีกสามวัน ไม่ต้องมามองหน้า ไม่ต้องมายิ้มให้ ไม่ต้องมาเฉียดเข้าใกล้และครั้งนี้อย่าหวังเลยว่าข้าวหอมจะยอมหายโกรธง่ายๆ “จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร...” หญิงสาวกระซิบพึงพำขณะเขียนสิ่งเหล่านั้นลงบนกระดาษ นำไปแปะหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนชายหนุ่ม ป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่กลับบ้าน คนรอชักจะหงุดหงิด ฐานิดาปิดฝาปากกานำกลับไปเก็บในลิ้นชัก เดินย้อนกลับมาตรวจความเรียบร้อยของข้อความดังกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง สองมือยกขึ้นกอดอก หมุนกายในชุดนอนเบาบางหันหลังหมายจะเดินออกจากห้อง เอื้อมมือไปหมุนลูกบิดเปิดประตูออกกว้างทว่าต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเจ้าของห้องยืนกอดอกมองมาแววตาเอาเรื่อง ไม่จริงน่า มาถึงตอนไหน! มือเล็กกระตุกดึงประตูปิดลงในวินาทีนั้น กะพริบตาปริบยกมือขึ้นวางทาบบนหัวใจ สูดลมหายใจเข้าลึกและเปิดออกไปอีกครั้งไม่ลืมที่จะเชิดปลายคางใส่ผู้ปกครองหนุ่ม “ช่วยหลีกทางด้วยค่ะ ข้าวหอมจะกลับห้องนอน” “เข้ามาถึงถ้ำแล้วจะให้พ่อเสือยอมปล่อยลูกแกะตัวอวบได้ยังไงจ๊ะ” ข้างหลังมีเสียงของธนาตย์เดินผ่านกลับไปยังห้องนอน เขาได้ยินแต่ไม่สน ซึ่งความหมายของคำว่า ‘อวบ’ ในที่นี้คือน่ากินแต่คำนั้นกลับแสลงหูคนฟังซะงั้นถึงได้อารมณ์พุ่งปรี๊ดตวาดกลับเสียงดัง “ข้าวหอมไม่ได้อ้วนสักหน่อยน้ำหนักลดตั้งหนึ่งกิโลฯ ถอยไปนะคนเกเรนิสัยไม่ดี ข้าวหอมง่วงนอน อยากกลับห้อง” ฐานิดาวาดมือออกข้างหน้าผลักแผ่นอกกำยำออกห่าง ทว่าเขาไม่ขยับสักนิดแถมยังรุดกายเข้ามาในห้อง เล่นหูเล่นตาแพรวพราวใช้แผ่นอกกำยำชนหน้าอกหล่อนให้ยอมก้าวถอยหลังกลับเข้าไปข้างใน หญิงสาวถอยเร็วจนเกือบสะดุดล้มแข้งขาพันกันไปหมด ดวงหน้าเห่อร้อนแดงจัดลามลงมาถึงต้นคอขาวสุขภาพดี นาทีนี้ทั้งโกรธทั้งอาย ร้อนวูบไปทั้งทรวงอก ไม่รู้จะวางตัวยังไงจึงยกมือขึ้นกอดหน้าอกเชิดหน้าใส่ไม่ยอมพูดอะไรกับผู้ปกครองหนุ่ม “ห้าทุ่มสิบห้านาทีไม่ขาดไม่เกิน” ชายหนุ่มลดนาฬิกาข้อมือลงพลางดึงกระดาษสีสันสวยออกมาอ่านลายมือน่ารัก อ่านไปก็ทำสีหน้าท่าทางกวนอารมณ์ไปด้วยทำให้เจ้าของลายมือชักจะโกรธ “ถ้าคุณวินไม่อยากอ่านก็เอาคืนมาค่ะ” “ไม่คืน มีปัญหาอะไรไหม” “มีค่ะ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!” หญิงสาวพยายามแย่งคืนทว่าทำได้ยาก เขายกมือขึ้นสูงสุดตัวกระโดดยังไงก็คว้าไม่ถึง แย่งคืนยากนักสุดท้ายคนตัวเล็กก็แผลงฤทธิ์ซัดหมัดใส่กลางหน้าท้องกำยำเต็มแรง อาศัยช่วงเขางอตัวจุกแย่งกระดาษแผ่นเล็กคืน “ข้าวหอมไม่ได้ตั้งใจรุนแรงนะคะ แต่คุณวินบังคับให้ข้าวหอมรุนแรงเอง แบร่... ฝันดีนะคะคนลามก!” “ฮึ่ม! ไม่แผลงฤทธิ์สักวันได้ไหม” วงแขนแข็งแรงรัดเอวคอดไว้แน่นแต่ยังเจ็บหน้าท้องแปลบๆ ทำให้ทั้งสองล้มลงบนเตียงจุกหนักยิ่งกว่าเดิมอีก “เอาหน้าไปไกลๆ เลยนะข้าวหอมเหม็นเหล้า” “ไม่เห็นจะเหม็นเลย” “บอกว่าเหม็นก็ต้องเหม็นสิคะทำไมต้องเถียง อีกอย่างข้าวหอมก็ไม่ได้ออกฤทธิ์เดชอะไรเลยคุณวินคิดไปเองทั้งนั้น ปล่อยนะคะ โอ๊ย! ตัวหนักเหมือนพ่อหมียังจะมานอนทับเขาอยู่ได้นานสองนาน” คนตัวเล็กถูกกักกันใต้ร่างใหญ่ร้องโวยวายหน้าแดงก่ำพยายามดิ้นรนให้เขาลุกออกจากตัวเองแต่ก็ไม่สำเร็จ โกรธยังไม่หายไม่ยอมให้รังแกง่ายๆ หรอก คิดได้อย่างนั้นแรงฮึดสู้มหาศาลก็มา ใบหน้าชวินทร์เหยเกบิดเบี้ยวไปหมด แม่คุณเอ๊ย ขยับทีอะไรต่อมิอะไรก็ชนแขนบ้างชนแผ่นอกบ้างชนหน้าท้องบ้าง “อย่าดิ้นแรงสิข้าวหอม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่รับประกันความปลอดภัยให้นะ” “ทะ... ทำไมคะ” นัยน์ตาฐานิดาไหวระริกกลอกไปมามองตรงนั้นทีตรงนี้ทีไม่กล้าขยับร่างกายตามคำสั่งกึ่งคำขู่นั้น คนเจ้าเล่ห์ไม่ตอบคำถามด้วยปากแต่ใช้แววตาตอบ เลื่อนระดับสายตามองดวงตาคู่สวยเรื่อยลงมายังจมูก ริมฝีปาก ปลายคาง ต้นคอ และหยุดอยู่ตรงทรวงอกใต้ร่มผ้าที่ปราศจากบราเซียร์ เท่านั้นแหละคนใต้ร่างก็กรีดร้องเสียลั่นห้องหูเขาแทบแตกจึงต้องรีบพลิกกายออกจากร่างอรชรมองตามหล่อนที่รีบปีนลงจากเตียงวิ่งออกจากห้องเร็วสุดชีวิต เจ้าของใบหน้าหล่อเหลานอกจากจะไม่ซีเรียสแล้วยังหัวเราะลั่น เอ็นดูดวงตาขวยเขินกับพวงแก้มแดงระเรื่อ “เด็กดื้อเอ๊ย เก็บความรู้สึกไม่เป็นหรือยังไงนะ” ............. อ่าตอน 2 ในหน้าถัดไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม