"สวัสดีค่ะคุณลุง" พอพิมพ์ญาดาเดินเข้ามาในตัวบ้าน ก็เจอกับนายสุริยาพ่อของสุขายะ
"อ้าวหนูญาดามาแต่เช้าเลยนะลูก" สุริยารีบพับเก็บหนังสือพิมพ์ในมือเพื่อที่จะคุยกับหญิงสาว
"พอดีญาดาลืมโทรศัพท์ค่ะ"
"ขี้ลืมแบบนี้ไงถึงหาผัวไม่ได้" เขาเดินตามเข้ามา ก็เลยอดที่จะพูดประชดไม่ได้
"หมาในปากแกหาอะไรให้มันกินบ้างนะ จะได้ไม่เห่าคนอื่น"
พิมพ์ญาดากำลังโกรธ..แต่พอได้ยินพ่อของเขาพูดออกมาแบบนั้น หญิงสาวก็เลยเปลี่ยนปฏิกิริยาเป็นขำแทน
"พ่อ!!" ชายหนุ่มดุพ่อ แต่สายตาของเขามองไปที่หญิงสาวแบบเอาเรื่อง
"เรื่องที่หนูญาดาอยากจะเข้าไปฝึกงานในบริษัท เมื่อไรจะเข้าไปล่ะลูก"
"เข้าไปฝึกงานเหรอคะ?" พิมพ์ญาดาพยายามคิดถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดกับท่านไว้ เธอเคยพูดเรื่องนี้กับท่านงั้นเหรอ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
"ก็วันนั้นที่เราคุยกันไง ที่หนูบอกว่าอยากไปหาประสบการณ์ในบริษัทของลุง ก่อนที่จะไปทำงานที่บริษัทพ่อของหนูไง"
พิมพ์ญาดาเพิ่งเรียนจบมาหมาด ๆ เธอคิดว่าจะเข้าไปช่วยงานพ่อในบริษัท แต่ก็เกลียดแม่เลี้ยงที่ทำตัวใหญ่ในนั้นเธอก็เลยยังไม่เข้าไป
"พ่อหมายความว่ายังไง" จากที่กำลังจะเดินขึ้นบ้าน ชายหนุ่มหันกลับมาเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อตัวเองพูด
นาทีนี้พิมพ์ญาดาเข้าใจแล้วว่าท่านหมายถึงอะไร "ก็คงเร็ว ๆ นี้ล่ะค่ะ คุณลุงเตรียมตำแหน่งไว้ให้ญาดาได้เลยนะคะ"
"ได้เลยจ้า..หนูอยากทำตำแหน่งไหนบอกลุงมาเลยนะ เดี๋ยวลุงจัดการให้"
"ทีผู้หญิงคนนี้ทำไมให้เลือกตำแหน่งเองได้"
"วันนี้ลุงเตรียมห้องทำงานไว้ให้หนูเลยดีกว่า" สุริยาแกล้งไม่ได้ยินที่ลูกชายพูด ตอนนี้ท่านรู้แล้วว่าลูกชายคนเล็กของท่านต้องการเอาชนะผู้หญิงคนนี้ ท่านก็เลยยืมมือเธอเข้ามาช่วยกระตุกต่อมลูกชายหน่อย
"มีใครได้ยินที่ผมพูดไหมเนี่ย!"
แต่ทุกคนก็แกล้งไม่ได้ยินที่เขาพูด ชายหนุ่มยิ่งหัวเสียไปใหญ่
สักพักมีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาในบ้าน จากที่สุขายะกำลังโวยวายอยู่ เขาหยุดนิ่งมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น แล้วใบหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนสีไปในทันที
"คุณพ่อทานข้าวหรือยังคะ ชมทำแกงส้ม เห็นว่าคุณพ่อชอบก็เลยเอามาให้ค่ะ"
"พ่อกำลังนึกอยากทานอยู่พอดี" สุริยายังพูดไม่จบประโยคก็มีผู้ชายอีกคนเดินตามเข้ามา
"สวัสดีครับพ่อ" เขาคือลูกชายคนโต หรือพี่ชายของสุขายะนั่นเอง และเป็นสามีของชมพู่
"อ้าว พ่อนึกว่ายาออกไปที่บริษัทแล้ว"
พิมพ์ญาดามองไปดูหน้าผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เธอคิดว่าคงเป็นลูกชายคนโตของท่านแน่ เขาหล่อมากแถมยังแต่งตัวดีภูมิฐาน ซึ่งแตกต่างกับลูกชายคนเล็กมาก ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกัน แต่การแต่งตัวคนละเรื่องเลย
"มาพอดีเลยแม่กำลังจะให้คนไปชวนมาทานข้าวเช้าด้วยกัน" พิมพ์ประไพเดินออกมาพร้อมกับแม่บ้านที่ยกสำรับข้าวตามมาด้วย
"ชมเอาแกงส้มมาให้ด้วยค่ะคุณแม่"
"พอดีเลยแม่ได้ยินคุณพ่อบ่นว่าอยากทานแกงส้มฝีมือหนูชม..มากันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ดีแล้ว เดี๋ยวแม่จะแนะนำให้รู้จักกับหนู..."
"แม่ไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวผมแนะนำเอง" สุขายะพูดแทรกก่อนที่แม่จะแนะนำเธอให้พี่ชายและ พี่สะใภ้ได้รู้จัก
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างพ่อ แล้วเขาก็คว้าตัวเธอให้ยืนขึ้นมา พร้อมกับโอบเอวหญิงสาวไว้เหมือนสนิทสนมกันมาก
"เธอชื่อพิมพ์ญาดาเป็นเมียผมเองครับ" พอสิ้นสุดคำแนะนำเท่านั้นแหละ ทุกคนถึงกับสตั้น..แบบหยุดชะงัก ต่างก็หันมามองหน้ากัน
"คุณพูดอะไร" พิมพ์ญาดาพยายามจะแกะมือเขาออกจากเอวเธอ แต่ชายหนุ่มยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น
"อะไรนะครับที่รัก อ๋อคุณอยากจะรู้เหรอว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เขาคือพี่ชาย.....สุดที่รักของผมเอง" ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายไว้ เหมือนจะกวนบาทานิดหนึ่ง
"เรื่องนั้นฉันพอจะรู้แล้ว แต่คุณมากอดฉันทำไมปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!" หญิงสาวพูดเบา ๆ ให้เขาได้ยินแค่คนเดียว
"อะไรนะครับที่รัก..มันจะดีเหรอคนเยอะแยะอายเขาแย่"
"นายพูดบ้าอะไร..นายสุขา" ตอนนี้เหมือนกับทั้งสองดูหนังคนละม้วนกันเลย
"ก็ได้ผมยอมคุณก็ได้ครับ แค่นิดเดียวนะ"
"อะไรของนาย...อื้มมม!!!" หญิงสาวยังพูดไม่จบประโยคก็ถูกผู้ชายตัวสูงที่ยืนกอดเธออยู่ก้มลงมาจูบปากแบบไม่ให้เธอได้ตั้งตัว
เพล้ง!! แกงส้มในมือของชมพู่ยังไม่ได้ไปวางที่โต๊ะมันก็หล่นลงพื้น
"โอ้ย" แกงส้มร้อน ๆ กระเด็นถูกเท้าชมพู่เธอก็เลยร้องออกมาเพราะความแสบร้อน
"ชม" จากที่จูบปากผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เขารีบปล่อยเธอออก แล้วตรงมาที่.. " คุณเป็นอะไรไหมขยับออกมาก่อน"
ในขณะที่ทุกคนตกใจในการกระทำของเขาอยู่นั้น แต่คนที่ได้สติที่สุดกลับเป็นสุขายะ เขารีบพาชมพู่ออกจากเศษถ้วยที่แตก
"ชมคุณเป็นยังไงบ้าง" พี่ชายของเขารีบเข้ามาดูภรรยา
สุขายะได้สติขึ้นมาทันที เขารีบปล่อยเธอออก
?ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่