กระจกรถลีมูซีนสุดหรูสีดำเงาวับในส่วนของห้องผู้โดยสารถูกลดต่ำลงจนเหลือครึ่งบาน สายตาคมกล้าที่ไม่ต่างจากพญาอินทรีจ้องมองร่างระหงสมส่วนในชุดฟอร์มสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์นิ่งนาน
“ญานิดา...”
ลูเซียสพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา หัวใจคล้ายกับถูกสะกดด้วยมนต์ขลังจนไม่อาจจะละสายตาจากสาวงามตรงหน้าได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่แล้วก็เหมือนถูกขวานจามลงมาแรงๆ ที่ศีรษะ เมื่อจู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งที่เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นหัวหน้าแผนกการตลาดในสายการบินตัวเองเดินเข้ามาจับมือถือแขนหญิงสาวที่ตัวเองถูกตาต้องใจ และพากันเดินหายเข้าไปในตัวอาคารด้วยท่าทางสนิทสนม
กรามกระด้างขบกันแน่น ก่อนจะเลื่อนกระจกรถขึ้นจนมิด ความขัดเคืองเต้นเร่าอยู่ในอก รู้สึกไม่ต่างจากถูกตบหน้าอย่างแรง
คนอย่างลูเซียส เมเนนเดซไม่เคยชายตาแลผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต ไม่ว่าจะสวยหยาดเยิ้มแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับญานิดาแม่พนักงานบัญชีสาว กลับทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงที่สุดในชีวิต ร่างกายขานรับเสน่ห์นางอย่างรุนแรง แค่เพียงได้สบตากับสาวเจ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
‘ให้ตายเถอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายแสนเพอร์เฟ็กต์อย่างเขาจะต้องมาหลงงมงายกับผู้หญิงที่มีเจ้าของอยู่แล้วอย่างนี้ ระยำ!’
“จอดตรงนี้แหละ”
เมื่อรถแล่นผ่านจุดที่ญานิดาเดินหายเข้าไป ลูเซียสจึงสั่งให้จอดรถทันที แม้ว่าปกติเขาจะไม่ได้เข้าที่ประตูนี้ก็ตาม
ช่วงขาเพรียวกำยำที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขายาวสีดำเนื้อดีก้าวลงมาจากรถทันทีที่มันจอดสนิท ก่อนจะมุ่งหน้าเดินเข้าไปในตัวอาคารหลังเดียวกับที่เขาเห็นญานิดากับแฟนหนุ่มหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งโกรธ ทั้งเกลียดตัวเองยิ่งนัก ที่ไม่อาจจะสลัดแม่สาวน้อยหน้าหวานอย่างญานิดาให้หลุดออกไปจากสมองได้เหมือนอย่างที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้เซ็กซ์ เอ็กซ์ อึ๋ม ไปกว่าผู้หญิงพวกนั้นแม้แต่น้อย ดูออกจะชืดจืด ไร้อารมณ์น่าเบื่อเสียมากกว่า แต่เขากลับต้องการหล่อนจนแทบคลั่ง!
ร่างกำยำก้าวยาวๆ ไปตามทางเดินที่ปูด้วยพรมหนานุ่มราคาแพงระยับ ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรเย็นชาแข็งกระด้างจนพนักงานที่เดินผ่านต้องก้มหน้าหลบตาด้วยความหวาดกลัว
ใช่สิ ถึงลูเซียสจะหล่อเลิศ แต่เขาก็ดุร้ายน่ากลัว อารมณ์รุนแรง และเอาแต่ใจอย่างที่สุด แต่ความแย่ๆ พวกนี้ก็ถูกกลบทับด้วยความฉลาดเป็นกรดที่เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ลูเซียสใจแข็งไม่ต่างจากภูผา สายตาคมกล้าสีดำสนิทนั้นเต็มไปคมอาวุธที่พร้อมจะเชือดคู่แข่งให้ตายคามือ รอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากที่อิสตรีทั่วโลกยกให้เป็นรอยยิ้มของ ‘เทพบุตรในฝัน’ แต่สำหรับคู่แข่งทั้งหลายที่เคยตายคาสนามธุรกิจกลับขนานนามมันเป็นรอยยิ้มของ ‘อสูรร้าย’
“สวัสดีครับท่านประธาน”
รปภ.วัยฉกรรจ์ที่มีหน้าที่ประจำนั่นก็คือคอยเปิด-ปิดประตูลิฟต์ให้กับผู้ทรงอำนาจที่สุดของสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์ นั่นก็คือลูเซียส เมเนนเดซ คุณชายที่สามแห่งตระกูลใหญ่ของเอเธนส์ กล่าวทักทาย ก่อนจะรีบกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์ให้อย่างยำเกรง
“ขอบใจ”
ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหยุดในลิฟต์ด้วยท่าทางสง่างามไร้ที่ติ ก่อนจะปล่อยให้ลิฟต์นำพาร่างกายที่กำลังตื่นตัวอย่างน่าละอาย ตั้งแต่แอบมองแม่พนักงานบัญชีสาวในระยะไกล ขึ้นสู่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารแห่งนี้
สมองที่ไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องงาน ตอนนี้กำลังสับสนอย่างหนัก และมันก็ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลากระชากลมหายใจของลูเซียสบูดบึ้งตามไปด้วย จนเอมี่เลขาฯ หน้าห้องที่กำลังจะอ้าปากถามเรื่องประชุมต้องหุบปากลงทันที และก้มหน้าทำงานต่อด้วยความหวาดเกรง
ยามอารมณ์ดีเจ้านายของหล่อนก็ดีใจหาย แต่เวลาร้ายก็ร้ายสุดขั้ว ขนาดบรรดาพี่น้องตระกูลเมเนนเดซด้วยกันเองยังไม่กล้าเข้ามายุ่ง
“ผมต้องการประวัติของหัวหน้าแผนกการตลาดเดี๋ยวนี้”
เสียงกระด้างที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีดังออกมาจากอินเตอร์คอม เอมี่รีบกระวีกระวาดตอบออกไปอย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ ดิฉันจะรีบนำขึ้นมาให้ แต่...เอ่อ เป็นสาขาไหนคะ”
เนื่องจากสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์มีหัวหน้าแผนกการตลาดหลายคน ทำให้เอมี่ต้องรีบถามเพื่อป้องกันการผิดพลาด
“เอามาทั้งหมดนั่นแหละ เร็วเข้า!”
“ค่ะท่านประธาน”
หลังรับคำสั่งจากเจ้านาย เอมี่เลขาฯ ที่ลูเซียสเป็นคนคัดสรรมากับมือก็ต้องรีบลนลานกดหาผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้รีบนำประวัติของหัวหน้าแผนกการตลาดทั้งหมดขึ้นมาให้โดยด่วน
“เอามาเร็วเข้านะ ท่านประธานอารมณ์ไม่ค่อยดี”
“จะรีบให้เด็กเอาขึ้นไปให้ แต่สงสัยจังว่าใครไปทำอะไรให้ท่านประธานอารมณ์บูดแต่เช้าแบบนี้” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลดังออกมาตามสาย
“ก็คงพวกสามสี่คนที่เธอจะเอาประวัติขึ้นมาให้ฉันนั่นแหละ ถ้าเบาะๆ ก็แค่พักงาน แต่ถ้าหนักหนาก็คงต้องไปหางานอื่นทำ เอ่อ...แค่นี้นะ รีบเอาขึ้นมาให้ด้วยล่ะ” พูดจบเอมี่ก็วางสาย นั่งกระวนกระวายรอคอยสิ่งที่ลูเซียสต้องการด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ
และเพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็นำแฟ้มประวัติขึ้นมาส่งให้กับเอมี่ เลขาฯ วัยดึกยิ้มออกมาอย่างโล่งอก กล่าวขอบคุณ ก่อนจะรีบนำเข้าไปให้เจ้านายของตัวเองอย่างรีบร้อน
“ได้แล้วค่ะท่านประธาน”
ลูเซียสที่กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกค่อยๆ หันกลับมา แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามากระทบกับศีรษะทุยได้รูปสวย ทำให้ชายหนุ่มดูน่าเกรงขามมากขึ้นอีกเท่าตัว
“วางไว้ และออกไปได้แล้ว”
“ค่ะท่านประธาน” เอมี่แทบจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานสุดโอ่อ่าของลูเซียสเลยทีเดียวก็ว่าได้
และเมื่ออยู่ตามลำพัง นัยน์ตาสีดำสนิทก็จับจ้องที่แฟ้มสามสี่อันตรงหน้านิ่ง มือใหญ่สีแทนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมายื่นมาหยิบแฟ้มตรงหน้าไปเปิดอ่าน
“นรากร อัติมา ไม่ใช่คนนี้” แฟ้มแรกถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลูเซียสจะเปิดแฟ้มที่สอง
“สายัณ อมรพันธ์ นี่ก็ไม่ใช่” แฟ้มที่สองก็ยังไม่มีเค้าเหมือนกับผู้ชายคนที่เขาเห็นว่าอยู่กับญานิดาเมื่อเช้านี้
มือใหญ่วางแฟ้มที่สองทับบนแฟ้มแรกอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มที่สามขึ้นมาเปิดออก และคราวนี้สายตาของเขาก็เหมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่งอยู่กับชื่อ-สกุล และรูปถ่ายของผู้ชายในแฟ้มประวัตินี้
“กรรชัย เมธวัน หัวหน้าแผนก การตลาด ส่วนการทำโฆษณา”
ความไม่เป็นมิตรฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของลูเซียสอย่างชัดเจน เขาเกลียดผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เกลียด! ที่มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่า ตัวเองกำลังเจอะเจอกับความพ่ายแพ้ ซึ่งมันเป็นครั้งแรกในชีวิต
ปัง!
มือใหญ่ปิดแฟ้มลงก่อนจะกระแทกมันลงบนโต๊ะทำงานไม้โบราณของตัวเองอย่างแรง ลมหายใจแห่งความเดือดดาลระเบิดตูมตามอยู่ในอก ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชแบบนี้มาก่อนเลย หลงรักผู้หญิงที่มีเจ้าของอยู่แล้ว แถมยังมีหน้าอยากเห็นเจ้าของของเจ้าหล่อนอีกนะ
‘เป็นไงล่ะ? เห็นแล้วรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า’
กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น นัยน์ตาคมกล้าวาววับด้วยความเกรี้ยวกราด
ไม่มีทางเสียล่ะ ที่คนอย่างนายลูเซียส เมเนนเดซ ผู้ชายที่เย่อหยิ่งในสายเลือดของตัวเองจะต้องไปรบราฆ่าฟันกับผู้ชายคนละชั้นกันแบบนั้น เพื่อให้ได้ผู้หญิงเกรดต่ำอย่างญานิดามาครอบครอง
‘ก็แค่อยากได้ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งมาขึ้นเตียงเท่านั้นแหละ พอหายอยากแล้วก็เขี่ยทิ้ง เหมือนกับที่เคยทำเป็นปกติในชีวิตประจำวันยังไงล่ะ’
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเกลื่อนใบหน้าคมสัน พึงพอใจกับความคิดของตัวเองเป็นที่สุด แม้ร่างกายของเขาจะยังคงไม่ยอมสงบ แต่หากคืนนี้เขาได้สุดเหวี่ยงกับนางแบบหุ่นเซ็กซี ลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกเด็ดๆ สักคน แค่นี้ญานิดาก็จะกลายเป็นแค่เศษขยะความทรงจำ ที่พรุ่งนี้เขาก็จะลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย
“คุณเอมี่ มารับแฟ้มประวัติไปได้แล้ว”
“ค่ะท่านประธาน”
เพียงไม่ถึงสิบวินาทีเลขาฯ ร่างอวบก็รีบวิ่งหน้าตั้งเข้ามาทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ลูเซียสหรี่ตาแคบมองเอมี่เลขาฯ ที่เขาเลือกมาเองกับมือด้วยความชื่นชม เอมี่ทำงานเก่ง แม้จะไม่สวยก็ตาม ริคคาโดเคยถามเขาว่า ทำไมถึงเลือกเอมี่มาเป็นเลขาฯ ทำไมไม่เลือกสาวๆ สวยๆ หุ่นดีๆ จะได้เจริญหูเจริญตา แต่เขาก็ตอบกลับไปว่า ที่นี่มันคือที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเจริญหูเจริญตา เพราะความเจริญหูเจริญตาควรอยู่บนเตียงเท่านั้น
“ผมอยากได้แผนการตลาดใหม่ๆ ให้ทางฝ่ายการตลาดนำขึ้นมาให้ผมก่อนสิบโมงเช้าด้วย”
“เอ่อ...ค่ะท่านประธาน”
เอมี่กำลังจะถอยหลังออกจากห้อง แต่เสียงทรงอำนาจของลูเซียสที่ดังออกมาอีกก็หยุดหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“และงบดุลในไตรมาสนี้ด้วย”
“ค่ะ ดิฉันจะรีบนำขึ้นมาให้ค่ะท่านประธาน” เอมี่ก้มหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะรีบก้าวออกไปจากห้องทำงานของลูเซียสอย่างรวดเร็ว