บทที่ 7 เปิดทาง
“ไปทำกินเอง ไม่มีมือมีเท้าหรือไง ถึงให้คนอื่นมาประเคนให้”
“เดี๋ยวรินทำกินเองก็ได้ค่ะ” มิชรินทร์ยิ้มขื่น จากนั้นเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องครัว ไว้ดึกกว่านี้ค่อยลงมาหาอะไรกิน ทนหิวหน่อยแล้วกัน
หากตอนนี้อยู่ต่อคงได้ปะทะคารมกับคนตัวสูง หากเขาไม่พอใจขึ้นมาคงเฉดหัวเธอออกจากบ้าน ค่าจ้างและข้อเสนอของคุณหญิงจะถือว่าเป็นโมฆะ
ทนหน่อยนะริน….สามวันเท่านั้น! เพื่ออนาคต และเพื่อเงิน
ผ่านไป 2 ชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ระหว่างที่รอให้คุณชายตระกูลอัลออกไปจากห้องครัว มิชรินทร์ได้อาบน้ำเพื่อดับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวนิด ๆ ต่อคนตัวสูง เธอสวมชุดนอนผ้าซาติน เป็นชุดกระโปรงสายเดี่ยวตัวสั้น ด้านหน้าดีไซน์คอยู เผยให้เห็นร่องอกที่ใหญ่จนเกินตัวของเธอ และเม็ดปทุมโผล่ออกมาผ่านผ้าซาตินที่สวมใส่
คนตัวเล็กไม่ได้สวมชุดชั้นในตอนนอน เพราะมันนอนสบายไม่อึดอัด
ร่างเล็กค่อย ๆ แง้มประตูห้องออกมา มองซ้ายมองขวาที สังเกตว่ามีคุณชายอัลเฟรดอยู่ข้างนอกไหม เมื่อไม่พบคนตัวเล็กก็เดินปรี่ตรงดิ่งไปยังห้องครัว
มือบางเปิดตู้เย็นกวาดสายตามองหาของกิน จะเป็นข้าวหรือผลไม้ก็ได้พอให้ประทังชีวิต บ้านคนรวยคงมีติดตู้อยู่ตลอด พลันเมื่อเปิดประตูเข้ามา กลับพบแค่ความว่างเปล่า มีแต่ของสด ไก่สด เนื้อหมู ผัก
และคนตัวเล็กปากเก่งไปอย่างนั้น ลืมไปเสียสนิทเลยว่า
เธอทำอาหารไม่เป็น….
เรียวปากสีหวานเม้มเข้าหากันแน่น ใช้มือควานหาผลไม้ในตู้เย็น อย่างกับขโมย เพียงชั่วพริบตาแววตาคู่งามพลันเหลือบไปเห็นผลไม้อยู่ในถังขยะทั้งหมด
มิชรินทร์กรอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย ทำไมผู้ชายคนนี้ร้ายกับเธอจังนะ
“คราวนี้จะกินอะไรดีล่ะ รู้งี้ให้คุณแม่สอนทำอาหารก็ดี” เธอพึ่งรู้ตัวก็คราวนี้ไม่น่าหลงระเริงกับความรวย ความสบาย เพียงชั่วพริบตาเดียว บ้านของเธอกลับกลายเป็นเพียงคนจนเท่านั้น เงินที่หามาได้ต่างหมดไปกับการพนัน และข้อสัญญาที่ตกลงไว้กับลูกค้า
คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างแรง เดินคอตกมานั่งที่เก้าอี้ เห็นขวดไวน์ตั้งอยู่บนโต๊ะพร้อมกับแก้วหนึ่งใบ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยแม้แต่ดื่มมันเลยด้วยซ้ำ จวบจนอายุ 24 ปี ยังคงเป็นคนไม่เข้าสังคม ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
ในเมื่อไวน์ขวดนี้เป็นสิ่งที่คนร่างสูงชอบ เธอจะเอาไปเททิ้งให้หมด ดูซิว่าตื่นมาคนตัวสูงจะทำหน้ายังไง มิชรินทร์นึกสนุกในใจอยากท้าทายอำนาจของทายาทตระกูลดัง
“ก่อนจะทิ้งขอชิมสักหน่อยแล้วกัน”
ว่าแล้วเจ้าของใบหน้างามก็จัดการรินไวน์ใส่แก้ว ยกขึ้นจิบ ๆ เพื่อลิ้มลองรสชาติของมัน
“อื้มรสชาติไม่เลว…” มือบางยกขวดไวน์รินใส่แก้วอีกครั้ง แล้วกระดกขึ้นจนหมดแก้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า จนหมดขวด
จนตอนนี้เวลาประมาณสามทุ่ม มิชรินทร์เริ่มมีอาการหน้าแดง และมึนเมา คนตัวเล็กเดินเซไปเซมาขึ้นบันใด พยายามประคองสติของตัวเองให้ไปถึงห้อง จากนั้นมือเล็กเอื้อมมือเปิดประตูห้อง เดินเข้าไปทิ้งตัวลงบนเตียง
ฟุบ
ร่างบางนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงอย่างสบายใจ รับรู้ถึงความเย็นจากแอร์ภายในห้องมันเย็นฉ่ำจนรู้สึกหนาว มิชรินทร์ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด ก่อนจะออกจากห้องคงเผลอเปิดแอร์เอาไว้แหละมั้ง แต่หารู้หรือไม่ว่า
เธอเข้าห้องผิด….
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา มองเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง ตั้งแต่เธอเดินเซไปมา เปิดประตูห้องของเขา แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสบายใจ แบบนี้
เธอตั้งใจจะอ่อยเขา…. บนเนื้อตัวของคนตัวเล็กหอมหวานปนด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ
“หึ” คนตัวสูงยกยิ้มมุมปาก ผู้หญิงคนนี้ร้ายไม่เบา ในเมื่อเธอตั้งใจจะอ่อย เขาจะสนองให้
อัลเฟรดมองสำรวจคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นมือหนาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงของตัวเองออก พลางขึ้นคร่อมร่างเล็กที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่ใต้ร่างของเขา เธอนอนหลับอย่างไม่รู้เรื่อง
รู้ราวอะไร
ชายหนุ่มเคลื่อนมือสอดเข้าไป ใต้กระโปรงตัวสั้นของเธอแล้วเลิกมันขึ้นไปไว้เหนือเอว เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบและเอวที่คอดกิ่ว เขายกยิ้มอย่างพึงพอใจไล้มือสอดเข้าไปยังที่อยู่ของเนินเนื้ออันนุ่มนิ่ม “หือ? ไม่ได้ใส่งั้นเหรอ”
เมื่อคนตัวสูงรู้ว่าคนตัวเล็กที่นอนอยู่ใต้ร่างไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน นั่นทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง แบบนี้จะได้ไม่รู้สึกผิด ในเมื่อเธอตั้งใจเสนอตัวให้เขาเอง จากนั้นมือหนาก็จัดการถอดชุดนอนผ้า
ซาตินของร่างบางนี้ทิ้งไป เพราะมันเกะกะ เผยให้เห็นหน้าอกที่ใหญ่จนเกินตัวของคนตัวเล็กใต้ร่าง
ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เคลื่อนมือเข้าไปกอบกุมเนินเนื้ออันนุ่มนิ่มแล้วออกแรงบีบมันอย่างแรง
“อ…อื้อ!” คนตัวเล็กรับรู้ถึงแรงกดทับด้านบน และแรงบีบขย้ำบริเวณหน้าอก จึงส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆ
มิชรินทร์ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมามองคนตัวสูงด้านบนด้วยสติอันเลือนรางจากพิษแอลกอฮอลล์ที่อยู่ในร่างกาย อัลเฟรดเห็นใบหน้างามจ้องมองเขาตาแป๋ว พยายามดิ้นออกจากร่างสูงของเขา คนตัวสูงจึงจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า
“อย่าขยับ”
“น…หนาวค่ะ รินขอผ้าห่ม” เรียวปากสีหวานเอ่ย พร้อมกับเอื้อมมือจะหยิบผ้าห่มด้านข้าง
“ไม่ต้อง”
“….”
ดวงตาคมกริบตวัดขึ้นมองคนใต้ร่างด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง จากนั้นรวบแขนทั้งสองข้างของมิชรินทร์เอาไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว
คนตัวเล็กถึงกับส่ายใบหน้าไปมา เพื่อขับไล่อาการมึนเมา
“อะ…อ๊ะ..!เจ็บค่ะ” มิชรินทร์ร้องเสียงหลง เมื่อมือข้างหนึ่งของอัลเฟรดก็เคลื่อนลงไปแหวกกางเกงชั้นในลายลูกไม้ แหวกผ่านกลีบสีหวาน แล้วสอดนิ้วเข้าไปหนึ่งนิ้วในรูรักของเธอ
อัลเฟรดเลิกคิ้ว ท่าทีของหญิงสาวตรงหน้าราวกับคนไม่เคย แถมร่องสวาทของคนตัวเล็กยังคับแน่น หรือจริง ๆ แล้วเธอไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน
“ทำอะไรคะ..รินเจ็บ” ปากเล็กเอ่ยบอกคนตัวสูงด้วยสติที่เลือนราง
“ทนหน่อย…จากนี้จะไม่เจ็บแล้ว”
สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม มือหนาก็เลื่อนมือออกจากนั้น ดึงกางเกงชั้นในลายลูกไม้ออกจากร่างของเธอทิ้งไป ในขณะเดียวกันก็เอื้อมมือมาปลดกางเกงของตัวเองบ้าง
ภายในห้องแอร์เย็นเฉียบ ตอนนี้เผยให้เห็นร่างชายหญิงสองคนเปลือยเปล่า
อัลเฟรดจ้องมองกลีบสีหวานที่ปิดสนิทของคนตัวเล็ก ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อได้สติ ร่างสูงขึ้นคร่อมคนตัวเล็กอีกครั้ง เขาไม่รอช้าส่งนิ้วหนาเข้าไปยังกลีบสีหวานที่ปิดสนิททันที
“อ๊ะ!…. รินเจ็บค่ะ”
“อืม อย่าเกร็งหลังจากนี้จะไม่เจ็บแล้ว” สิ้นคำพูดชายหนุ่มก็ขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ ส่งผลให้ร่างเล็กครางออกมาเบา ๆ
“อ๊ะๆ…”
คนตัวสูงไม่เอ่ยถามคนตรงหน้าว่ายังเจ็บอยู่ไหม เขาถือวิสาสะสอดนิ้วที่สองเข้าไปทันที คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เพราะยังเจ็บอยู่
“จ..เจ็บค่ะ..ทำอะไรคะ เอาออกไปค่ะ”
“เปิดทาง..” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดอย่างไม่แยแส ยังคงขยับนิ้วเข้าออกอยู่ช่องทางรัก จนคนตัวเล็กใบหน้าเหยเก
“อื้อ อ๊ะๆ…” ปากเล็กครางออกมา เธอรู้สึกถึงความแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอ มันรู้สึกเสียวซ่านบอกไม่ถูก
ร่างสูงขยับนิ้วเข้าออกจนร่างเล็กกระตุกน้ำสีหวานไหลเยิ้มออกมา ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้น้องชายของชายหนุ่มชูชันจนรู้สึกปวดหนึบ
ไม่รอช้ามือหนาจึงหยิบถุงยางอนามัยราคาแพงไซส์ 56 ขึ้นมาสวมใส่ แม้ชายหนุ่มจะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน แต่ที่เขาใส่เพราะป้องกันการเกิดปัญหาตามมาภายหลัง คือการที่เธอท้องกับเขานั่นเอง
อยากจะจับผู้ชายอย่างอัลเฟรดคงยากสำหรับเธอหน่อยนะ…