บทที่ 8 ฉันชอบเธอ
เมื่อร่างสูงใส่ถุงยางอนามัยราคาแพงเสร็จแล้ว ไม่รอช้าจับขาทั้งสองข้างของคนตัวเล็กให้แหวกออก
“อ้ากว้างๆ” ปากหนาเอ่ยบอกมิชรินทร์ที่นอนตาปรือมองเขาอยู่
จากนั้นเขาจึงแทรกกายกำยำเข้าไปยังหว่างขาสวยเพื่อนำปลายหัวหยักแข็งเข้าไปจดจ่อเข้าที่รูกลีบสีหวาน นิ้วหนาไม่รอช้าที่จะแหวกกลีบชมพูไร้ขนเพื่อที่จะสอดใส่ความใหญ่โตของตัวเองเข้าไป ซึ่งทันทีที่สิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่พยายามสอดใส่เข้ามา ส่งผลให้มิชรินทร์ร้องออกมาเสียงหลง
“กรี๊ดดด…!” เรียวปากสีหวานกรีดร้องออกมา สติที่พร่าเลือนค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง เมื่อถูกคนตัวสูงกดปลายหัวบานแข็งเข้ามาในร่องสีหวาน
ทว่า….ปลายหัวหยักเข้าไปได้เพียงครึ่งเดียวกลับถูกมือเล็กพยายามผลักหน้าท้องของเขาออก
“อยู่นิ่ง ๆ อย่าเกร็ง” ปากหนาเอ่ยเสียงเรียบบอกคนตัวเล็กที่นอนดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่าง
“รินเจ็บ…ค่ะ ไม่เอา..ไม่ทำได้ไหมคะ” ปากเล็กเอ่ยขอร้องเสียงหวาน พยายามขยับหนีคนตัวสูง
“เธออ่อยฉันเองนะ”
“……” มิชรินทร์เงียบไม่รู้ว่าไปอ่อยเขาตอนไหน ได้สติอีกทีก็ถูกคนตัวสูงแทรกกายเข้ามาในร่องสีหวานของเธอเสียแล้ว
อัลเฟรดมองใบหน้างามของคนตัวเล็กนิ่ง สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความไม่ยินยอม ทำให้เขาจำใจต้องถอนแกนกายออกมา
“s**t!” ปากหนาสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเองไม่ได้อยากมีสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ยินยอม จึงได้แต่ปล่อยเธอไป
“ออกไป!” เสียงอันเยือกเย็นของอัลเฟรดเยือกเย็นยิ่งกว่าแอร์ภายในห้องเสียอีก
ร่างเล็กได้แต่ค่อย ๆ ลุกพาร่างกายช่วงล่างที่บอบช้ำ เดินออกมายังห้องของตน มันเจ็บ และแสบมากด้วย
ภายในห้องนอนของอัลเฟรด เขาได้แต่มองร่างเล็กเดินออกไปอย่างเรียบนิ่ง เธอตั้งใจจะมาอ่อยเขา ทว่ากลับไม่ยอมเสียอย่างนั้น ทำให้ตอนนี้หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย วันนี้ยอมเธอไปก่อนอีกสองวันเธอไม่รอดพ้นมือของเขาแน่ มาคอยดูกันว่าการหลอกของเขาจะแนบเนียนแค่ไหน
มิชรินทร์หลอกคนอื่นมาเยอะ ต้องให้สำนึกเสียบ้างว่าโดนคนอื่นหลอกเป็นยังไง
อยู่ ๆ ความรู้สึกบางอย่างภายในของอัลเฟรดที่ก่อนหน้าก็มีอยู่แล้วนั้น กลับพลุ่งพล่านขึ้นมา ทำเอาชายหนุ่มเริ่มหัวเสียขึ้นมาอีกครั้ง และเขารู้ดีว่ามันคือ...ความรู้สึกอะไร….
โธ่เว้ย…
ทายาทตระกูลดังสบถ ก่อนจะค่อย ๆ ถอดถุงป้องกันที่สวมใส่อยู่โยนทิ้งลงยังถังขยะที่อยู่ไม่ไกลพลางเดินเข้าไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองต่อไป
เช้าต่อมา
มิชรินทร์เดินถ่างขาเล็กน้อย ค่อย ๆลงบันไดมา เพราะความรู้สึกที่แสบบริเวณช่วงล่างยังไม่หายไป เธอตื่นแต่เช้าเนื่องจากความหิว
เมื่อวานนี้ไม่ได้กินอะไรเลยด้วยซ้ำ คนตัวเล็กไม่คิดเลยว่าแค่ไวน์ครึ่งขวดจะทำให้เธอเมาจนไม่ได้สติ แถมยังเข้าห้องผิดอีกต่างหาก
หากความเจ็บไม่ได้เข้ามาแทรก ป่านนี้มิชรินทร์คงได้ตกเป็นคู่นอนของคุณชายตระกูลดังไปเสียแล้ว
“นับแต่นี้คงต้องหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต” ปากเล็กพึมพำ
ทันทีที่ได้มาถึงห้องครัว ดวงตาคู่งามก็ได้เห็นคนตัวสูงที่เมื่อคืนเกือบร่วมรักกับเธอ เขามองใบหน้างามด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง ราวกับว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากคนตัวเล็กพลันนึกถึงเรื่องเมื่อคืนทีไร ใบหน้ากลับร้อนผ่าว เพราะความอาย
“นั่งสิ” ปากหนาเอ่ยพูดกับมิชรินทร์ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ นัยน์ตาสีนิลแสดงถึงความหยิ่งยโสไม่น้อย
“คะ?…ค่ะ” เรียวปากสีหวานตอบพลางพยักหน้า จากนั้นเดินไปนั่งเก้าอี้ในครัวตรงข้ามกับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา
“กินข้าว..” อัลเฟรดพูด มือหนาอีกข้างก็ยื่นจานข้าวที่แม่บ้านได้เตรียมไว้ให้ ส่งให้มิชรินทร์
“ไม่เททิ้งแน่เหรอคะ…แบบเมื่อวาน..” ปากเล็กเอ่ยกับทายาทตระกูลดัง เธอจำฝังใจเมื่อวานเขายื่นให้เธอแบบนี้แล้วทิ้งลงถังขยะ วันนี้เธอกลัวว่าเขาจะทิ้งข้าวลงในถังขยะอีก จึงต้องถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่อยากหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ
“ไม่ทิ้ง…กินสิ” คนตัวสูงยืนยัน
มิชรินทร์มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ วันนี้เขาจะมาไม้ไหนกับเธออีก จากนั้นเรียวปากบางเอ่ยถามต่อว่า
“เพราะอะไรเหรอคะ…”
“เพราะฉันชอบเธอ…” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เขาจงใจโกหกว่าชอบเธอ เพราะเธอนั้นหัวอ่อน เชื่อคนง่าย
หลังจากนี้เมื่อได้เธอแล้ว ก็สลัดทิ้ง นั่นคือบทเรียนของหมอดูตัวเล็กคนนี้
“คะ?…ตะ…แต่นี่ยังไม่ถึงสามวันเลย…” ปากเล็กพึมพำ
“ฉันชอบเธอไปแล้ว เรื่องเมื่อคืนที่ฉันทำเพราะว่าฉันชอบเธอ ฉันเชื่อแล้วว่าคำทำนายของเธอมันถูก” ทายาทตระกูลอัลเอ่ยออกมาหน้าตาย ยังคงป้อนคำโกหกออกมาให้คนตัวเล็กได้ฟัง
“คุณเชื่อรินแล้วใช่ไหมคะ” มิชรินทร์คลี่ยิ้ม
“อืม”
~~โครก คราก~ ในที่สุดท้องเล็กของใบหน้างามก็ส่งเสียงร้องออกมาประท้วง
ร่างเล็กใบหน้าหุบต่ำลง ก้มหน้าอย่างเหนียมอาย ท้องร้องทำเอาเสียมารยาทอีกแล้ว
“ขอโทษนะคะ…พอดีว่ารินหิวค่ะ” เธอกล่าวขอโทษคนตัวสูง เพราะคนตัวเล็กรู้ว่าเขาชอบความสงบ กลัวว่าตรงหน้าจะไม่พอใจเธอ
มิชรินทร์ทนต่อความหิวไม่ไหว จึงค่อย ๆ ใช้มือเรียวเล็กหยิบช้อน ตักข้าวเข้าไปในปาก ทันทีที่ข้าวได้เข้าปาก คนตัวเล็กตาเบิกโพลงฉีกยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“หื้อ…อร่อยจังค่ะ” เรียวปากสีหวานเอ่ยชมไม่หยุด มือเล็กก็ตักข้าวเข้าปากเป็นคำที่สอง
“อร่อยที่สุดเลยค่ะ….คุณกินบ้างสิคะ”
ร่างสูงได้แต่มองมิชรินทร์นิ่ง ๆ แค่กินข้าวจะดีใจอะไรนักหนา แม้จะไม่พอใจ แต่เขาทำได้เพียงนิ่งขรึมเอาไว้ เพราะแผนการของเขามีมากกว่านั้น จะมัวแต่คิดเล็กคิดน้อยโมโหคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้
“ริน” อัลเฟรดเอ่ยเรียกมิชรินทร์อย่างสนิทสนม ทำให้ร่างบางชะงัก เอียงคอถามอย่างสงสัย เพราะอะไรอัลเฟรดถึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกแบบนี้
“มีอะไรเหรอคะ”
“เรียกฉันว่าพี่เฟรดสิ เรียกคุณดูห่างเหินไป..” คนตัวสูงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง เขาจงใจสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้คนตัวเล็กถอนตัวไม่ได้
“พี่..พี่เฟรด” มิชรินทร์พูดออกมาอย่างแผ่วเบา ยังคงมีความเขินอายอยู่หน่อย ๆ ส่วนอัลเฟรดเมื่อเห็นท่าทีของคนตัวเล็กก็เดาออกทันทีว่าเธอเขินอาย และจงใจพูดเสริมความไว้ใจของคนตรงหน้าขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวจากนี้ก็จะชิน เพราะรินจะได้เรียกทุกวัน…”
“……” ใบหน้างามร้อนผ่าว เขินจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่จ้วงจานข้าวตรงหน้ากินเพื่อกลบเกลื่อน
“ริน…”
“คะ? พี่เฟรดมีอะไรเหรอคะ”
“เป็นของพี่ได้ไหม”
“พี่หมายถึงอะไรเหรอคะ” คนตัวเล็กถามด้วยความไม่เข้าใจ
“แบบเมื่อคืน…”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดออกมาหน้าตาเฉย ต่างจากร่างเล็กที่ชะงักงัน อ้าปากเหวอ เขาขอกันดื้อ ๆ แบบนี้เลยหรือ
“อะ..เอ่อ รินว่ามันจะเร็วไปไหมคะ…” มิชรินทร์เอ่ยถามอย่างแผ่วเบา
“รินไม่ชอบพี่งั้นเหรอ” ปากหนาเอ่ยถามอย่างเรียบนิ่ง แววตาสีนิลจ้องมองคนตัวเล็กเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
“ริน…รินชอบค่ะ ตั้งแต่แรกพบเลย และชอบมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าพี่คือเนื้อคู่ของริน…แต่รินคิดว่ามันยังเร็วไปหน่อยที่เราจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ส่วนเรื่องเมื่อคืนรินผิดเองค่ะ” ริมฝีปากสีหวานอธิบายยาวเหยียด
อัลเฟรดเลิกคิ้ว ลุกจากเข้าอี้เดินมานั่งใกล้ ๆ มิชรินทร์ จากนั้นโน้มตัวเข้าไปกระซิบเสียงต่ำใกล้ ๆ หูของเธอว่า
“ริน…รู้ไหมคนชอบกันเขาทำกันแบบนี้แหละ…”
เสียงต่ำกระซิบใกล้หูส่งผลให้มิชรินทร์รู้สึกอ่อนโอนไปตามลมปาก ลมหายใจอุ่น ๆของคนตัวสูง รินรดมาที่หูของเธอ ทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
~เคร้ง~ เสียงช้อนในมือของมิชรินทร์หล่นลงบนจาน ทำให้ได้สติ จะกลับไปโต้ตอบคนที่อยู่ด้านข้าง
ในขณะที่หันกลับไปนั้น ทำให้ใบหน้าสวยชนเข้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพอดิบพอดี สายตาทั้งสองสอดประสานกัน
จากนั้นริมฝีปากหนาเข้าจู่โจมปากเล็กทันที………….