ไป๋ซิ่วพุ่งตัวจะไปทุบตีไป๋ซู่ฮวา หยางหนิงเฉิงพุ่งออกมาก่อนจะสะบัดมือจนไปซิ่วกระเด็นไปไกลจากนั้นก็แกล้งหกล้มนอนอยู่บนพื้น อาหลี่ที่เห็นแม่ทัพที่ตนเองเสแสร้งทำท่าทางอ่อนแอก็กลอกตามองบน นายท่านนี่นะท่านข่าวเสแสร้งเก่งเสียจริงๆ
"เมียจ๋า คนดีของข้าเจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่ เมียจ๋าขาๆของข้าอืมเจ็บๆจัง"
ตาทึ่มนี่โง่หรือไงนะ พุ่งออกมาทำไมนางไม่กลัวคนเหล่านี้เสียหน่อย ถ้าไม่ติดว่าผู้นำหมู่บ้านอยู่ตรงนี้เจ๊ตีให้คลานเหมือนหมาไปแล้วไม่มานั่งรังสรรค์คำด่าหรอก ไป๋ซู่ฮวาพยุงเขาก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนใบหน้าให้หยางหนิงเฉิง หอมหน้าผากเขาเบาๆไม่สนใจสายตาผู้ใด
"สามี ท่านเจ็บหรือไม่วันหลังอย่าทำเช่นนี้อีกหากท่านเจ็บข้าย่อมปวดใจ ไปเข้าบ้านเถอะ ข้าต้มน้ำไว้เดี๋ยวข้าอาบน้ำให้ท่านนะจะได้สบายตัว เวลานอนด้วยข้าชอบคนสะอาดกลิ่นตัวหอมๆ ไปๆเข้าบ้านกัน ท่านปู่ข้าขอตัวนะเจ้าคะ ส่วนคนอื่นกลับดีๆล่ะไม่ส่งนะเจ้าคะ"
ชาวบ้านยืนงงหยางหนิงเฉิงคนนี้หล่อเหลานัก เสียดายที่ขาเป๋ตอนลื่นลงเขา ดูไป๋ซู่ฮวาประคองเขาอย่างกับหยกล้ำค่า ช่างเป็นผัวเมียที่รักกันจริงๆ ขนาดบาดเจ็บยังออกมาช่วยเมียตนเอง
"นางสารเลวมานี่ หากเจ้าท้องจริงๆข้าจะตีให้เด็กไหลออกมาเลยเชียว" สะใภ้ใหญ่ดึงหูบุตรสาว
"ท่านแม่ ท่านอย่าไปฟังนางข้ากับจางซิ่วไฉไม่เคยมีสัมพันธ์กัน" ไป๋ซิ่วเจ็บจากแรงกระแทก อีเด็กบ้านั่นกุเรื่องจนตอนนี้ชาวบ้านต่างรังเกียจนางที่แย่งคู่หมั้นน้องสาวแล้ว แต่ไป๋ซิ่วก็ยังไม่สำนึกว่านี่คือกรรมตามทันที่นางใส่ร้ายผู้อื่นก่อน
ไป๋ซู่ฮวาประคองหยางหนิงเฉิงมานั่งที่เตียงก่อนจะหาหมอนมาหนุนหลังให้เขาแล้วก็เริ่มบ่น
"เจ้าออกไปทำไม ขาเจ็บยังอวดดีหากเจ้าไม่หายข้าจะทำยังไงล่ะ"
"ก็พวกเขาจะตีเจ้านี่ เจ้าเป็นเมียข้าๆก็ต้องปกป้องสิ"
"เหอะๆๆๆหยางหยิงเฉิงใครกันทิ้งข้านอนตากฝน ใครกันด่าข้าแพศยา ใครกันบอกว่าตนเองมีคนรักอยู่แล้ว ทีอย่างงี้ทำห่วงใยข้า กลัวไม่มีคนรับใช้เจ้าก็บอกมาเถอะ"
" ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเจ้าถูกใส่ร้ายเจ้าไม่ได้ไปขอเป็นอนุผู้ใดจึงอยากขอโทษเท่านั้น"
ไป๋ซู่ฮวาเดินไปในครัวหยิบน้ำร้อนมาผสมก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำแล้วยื่นให้เขา หยางหนิงเฉิงไม่รับจนน่าหงุดหงิด
"เจ้าขาเจ็บไม่ใช่เป็นง่อยสักหน่อยเช็ดเองไม่ได้หรือไง"
"ตอนไปช่วยเจ้าข้าลืมตัวเลยหกล้มหน้าบ้านแขนเลยชาๆเจ็บๆน่ะ"
"หึ ภาระจริงๆมาๆ"
ไป๋ซู่ฮวาคว้าผ้ามาก่อนจะปลดสายรัดเอวเขาออกเผยให้เห็นหน้าอกแกร่ง แม่เจ้าซิกแพ็คแปดลูกของแท้ อิจฉาแม่หนูคนเดิมชะมัด ได้กินของดีซะด้วย ไป๋ซูฮวากลืนน้ำลายดังเอื้อก หยางหนิงเฉิงนึกขำนาง ใบหน้านางแดงจนถึงใบหูแล้ว หยางหนิงเฉิงเลยแกล้งนางเขาทำเป็นเซนั่งไม่อยู่จนนางต้องโอบเขาไว้
"นั่งดีๆสิ อยู่เฉยเป็นไหมยุกยิกอยู่ได้ นี่ท่อนล่างข้าไม่เช็ดนะ"
"ทำไมล่ะทำยังกับไม่เคยเห็น มิใช่เจ้าสัมผัสแล้วหรือ เต็มไม้เต็มมือดีหรือไม่เมียจ๋า"
"หยาง หนิง เฉิงเจ้ามันไอ้โรคจิต อย่ามาเมียจ๋ากับข้านะ อึ๊ยขนลุกอีตาบ้าข้าไม่อยากเสวนาด้วยแล้ว"
ไป๋ซู่ฮวาไม่สนใจเขานางไปหาเด็กทั้งสองก่อนจะปูเตียงให้ใหม่และนำผ้าห่มผืนใหม่ออกมาให้ จากนั้นก็ไปหาน้องชายจัดการปูเตียงห่มผ้าให้เช่นกัน ตกดึกไป๋ซู่ฮวาได้ยินเสียงหยางหนิงเฉิงละเมอจึงลุกมาดู นางใช้มือแตะหน้าผากหยางหนิงเฉิงคว้าข้อมือนางออกแรงตามสัญชาติทันทีไป๋ซู่ฮวาเจ็บจนน้ำตาร่วง เจ็บชะมัดหยางหนิงเฉิงลืมตาเห็นเป็นนางจึงปล่อยมือ
"นี่ตาทึ่มเจ้าเป็นอะไร เอ๊ะทำไมตัวร้อนขนาดนี้ เป็นไข้ได้อย่างไรกันรอแป๊บนะ"
ไป๋ซู่ฮวาไปคว้าเอาสุราที่นางซื้อมาไว้ดื่มต้องมาผสมเช็ดตัวให้เขาเสียดายก็เสียดายเมื่อถอดเสื้อเขาออก
นางเห็นบาดแผลจากด้านหลังก็เหมือนเป็นรองหัวลูกธนู บาดแผลนี่กระมังที่ทำให้เป็นไข้ ไป๋ซู่ฮวาใช้สุราเพียวๆฆ่าเชื้อแผลนั่นก่อนจะป้อนยาแก้ไข้ที่หมอเทวดาทิ้งไว้ให้ หยางหนิงเฉินหนาวสั่นตลอดเวลา ไป๋ซู่ฮวาจึงต้องนำผ้านวมผืนใหม่ของตนมาให้เขา
เจ็บใจเสียจริงๆของตัวเองแท้ๆต้องมาเสียสละ เห็นเขาเป็นไข้หนาวสั่นไป๋ซู่ฮวาจึงปีนขึ้นเตียง นางถอดเสื้อตนเองกับเขาออกก่อนจะกอดเขาจากด้านหลัง หยางหนิงเฉิงรู้สึกอบอุ่นและหายหนาวเล็กน้อยจากนั้นก็ผล็อยหลับไป
ยามอิ๋นหยางหนิงเฉิงรู้สึกตัว เขารู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นด้านหลัง มือหนาไต่ไปตามมือบางก็เห็นว่านางนอนหลับกอดเขาอยู่ นางถอดเสื้อเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา เมื่อเห็นนางยุกยิกจะตื่นเขาจึงแกล้งหลับต่อ ไป่ซู่ฮวาค่อยๆขยับออกจากนั้นก็ใส่เสื้อปกติ หากตาทึ่มนี่ตื่นขึ้นมาจะหาว่านางปีนเตียงเขาอีก
หยางหนิงเฉิงหลี่ตามองร่างบางที่กำลังใส่เสื้อ ดอกบัวคู่งามนั่นยั่วยวนให้เคล้าคลึงเสียจริง เขาอยากดูดดื่มมันเหลือเกินความหวานคืนนั้นเขายังตราตรึง ให้ตายสิไอ้ลูกชายตัวดีกับตื่นขึ้นเริ่มขยายแข็งขึง หยางหนิงเฉิงทำเป็นละเมอขยับตะแคงตัวเข้าด้านในเตียงเพื่อปกปิดอาการตื่นของไอ้ลูกชายตัวดีที่อยากปล้ำเมียสาวตรงหน้า
เห็นหยางหนิงเฉิงขยับไป๋ซู่วาก็รีบลงจากเตียงไปทำอาหารในครัวทันที ขืนตื่นขึ้นมาเจอนางนั่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนเตียงเขาเดี๋ยวโรคหลงตัวเองจนโง่ของตาทึ่มนี่ก็กำเริบอีก
ไป๋ซู่ฮวาคว้าตะเกียงเดินเข้ามาในครัวเพิ่งจะยามอิ๋น( 03.00-04.59)จึงลงมือก่อนเตาไฟ ยังดีที่ทะลุมิติมาก็รีดไถเอ้ยก็หาเงินได้ทันที ไม่ต้องปีนป่ายหาโสมหาเห็ดหลินจืออะไรพวกนั้น มิตงมิติจะมีเหมือนในนิยายไหมว้า
เออช่างมันเถอะเรื่องหาเงินเดี๋ยวค่อยคิด
เพิ่งจะมาถึงได้สองวันเอง ที่นี่แคว้นฉินก่อนประวัติศาสตร์กี่ปีไม่รู้หรืออาจไม่มีก็ได้มั้ง นางมาอยู่ที่หมู่บ้านไป๋ฮวาทางทิศตะวันตกของแคว้น ห่างจากเมืองหลวงหนึ่งพันแปดร้อยลี้ นับว่าไกลไม่น้อย
ชาวบ้านมีทั้งดีและไม่ดี หมู่บ้านไป๋ฮวามีกว่าสี่ร้อยชีวิต เมื่อวานใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว คนที่ไปดูเรื่องสนุกก็เป็นพวกแม่บ้านว่างงาน เหมือนจะได้ยินเสียงบรรดาสะใภ้ถูกแม่สามีทุบตีออกมาจากหลายๆบ้านที่เสียเงินให้นางและยังต้องเสียเสบียงอีก
ไป๋ซู่ฮวาเป็นหลานคนที่สามของสกุลไป๋ คนโตคือไป๋ซีฮวนบุตรชายลุงใหญ่อายุสิบแปดปีตอนนี้ทำงานเป็นนักบัญชีที่ตัวอำเภอ แต่งงานกับบุตรสาวร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่งเมื่อปีกลาย เขามักไม่อยากกลับบ้านเพราะรังเกียจที่บ้านแต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจะรีบมาขนเสบียงทันที เหอะปีนี้อย่าหวังว่าจะได้ไอ้หน้ายาว
อีกคนคือไป๋ซิ่วอายุสิบเจ็ดหน้าตานับว่าดีเสียแต่นิสัยไม่ค่อยดี ไปซู่ฮว่าเป็นหลานคนที่สามอายุสิบหกและไป๋ซูหยางอายุเก้าขวบเป็นหลานคนที่สี่ทั้งคู่เป็นบุตรของไป๋จิงถิงกับโจวซิ่วเหมยบุตรชายคนรองที่ไปทำการค้าแล้วถูกโจรปล้นจากนั้นก็ถูกฆ่าตายเมื่อสองปีก่อน
อาสามไป๋เจินอายุยี่สิบเป็นคนใจดีมักมีขนมมาฝาก แต่ท่านปู่กับท่านย่าลำเอียงรักบ้านใหญ่มากว่าอาสามเลยหนีไปทำงานข้างนอก ส่งเงินมาให้เดือนละสามร้อยอีแปะ แต่ก็ยังถูกด่าอยู่ดีไป๋จิ้งกับบุตรชายมีเงินเดือนคนละหนึ่งตำลึงครึ่ง ให้สองผู้เฒ่าแค่เดือนละหกร้อยอีแปะกลับบอกว่ากตัญญูคนบ้าอะไรลำเอียงจัด เดินข้ามสะพานไม่เอียงจนตำน้ำตายหรือ ไง ส่วนอาเล็กเกิดมามีปมอายุสิบสามก็มีปุ่มเต็มหน้าตอนนี้อายุสิบเก้ายังไม่ออกเรือน บิดามารดาไล่ไปอยู่เพิ่งท้ายบ้านติดกับคอกหมู
"ครอบครัวปัญญาอ่อนเอ๊ย มีในนิยายทะลุมินิทุกเรื่องหรือว่าเจ๊ทะลุมิติมาในนิยายวะ ว่าแต่เจ้ทะลุมิติมาเรื่องไหนล่ะไม่เคยอ่านจริงจังนี่หว่า เฮ้อชีวิตน่าสงสาร เพื่อนรักกันแท้ๆแค่อยากปีนหัวฉันถึงกลับลงมือผลักกันเลยหรือ หน้าผาสูงต้องสองพันเมตร ร่างฉันไม่เละเป็นโจ๊กแล้วหรือ"
ไป่ซู่ฮวาเดินไปหยิบกระดูกหมูออกมาหนึ่งท่อน เช้านี้ต้มโจ๊กก็แล้วกัน เดี๋ยวสายๆค่อยเจียวน้ำมัน นางนำหมูติดมันมาสับละเอียด เตรียมปั้นใส่ในโจ๊กนวดแป้งสาลีเพื่อทำหมั่นโถว
เคี่ยวกระดูกหมูเตาหนึ่งต้มข้าวเตาหนึ่ง ครอบครัวหยางหนิงเฉิงเพิ่งจะย้ายมาได้สามปีกว่า พวกเขาขอซื้อบ้านหลังนี้หลังจากล้อมรั้วอิฐซ่อมแซมบ้านแล้วก็ไม่มีเงิน