คำสัญญา

1896 คำ
หยางหนิงเฉิงกอดคนตัวเล็กอย่างรักใคร่ เขาเกลียดสตรี พวกนางชอบวุ่นวายเรือนเสด็จพ่อมีสนมมากมายที่เสด็จปู่ประทานมาให้ ตบตีแย่งความโปรดปรานกันจนน่ารำคาญ เสด็จพ่อไม่ได้มีเสด็จแม่คนเดียว เขารู้ดีว่าเสด็จพ่อมิไยดีเสด็จแม่เท่าไหร่นัก เขารักใคร่อยู่กับหลิงเซียงอดีตฮูหยินของใต้เท้าสุย หลังจากสูยกว่างผิงตายเสด็จพ่อก็ไม่สนใจคำวิจารณ์ กลับรับนางเข้าตำหนักแต่งตั้งเป็นชายารอง ไทเอาเองก็เอ่ยไม่ได้เพราะคนที่แต่งเสด็จแม่มาให้เสด็จพ่อของเขาก็คือไทเฮาเอง เสด็จย่าเป็นคนพรากคู่รักของเขา จนพอสามีนางตายลงเสด็จพ่อก็กลับไปหารักแรกทันที เสด็จแม่ทุกข์ใจจนล้มป่วย ฮ่องเต้รู้ว่าเขาเกลียดบิดาจึงแต่งตั้งเป็นอ๋องตั้งแต่อายุสิบห้า พระราชทานตำหนักคังหมิงให้ เขาปลูกไผ่ปล้องม่วงเต็มไปหมด จึงตั้งชื่อว่าตำหนักไผ่ อยู่ห่างจากเมืองหลวงสิบลี้ตอนนี้ให้เสด็จแม่ประทับอยู่กับแม่นม หยางหญิงเฉิงเสนอตัวเป็นแม่ทัพไปชายแดน ชายารองคนนั้นของบิดาเร่งเร้าอยากหากพระชายาให้เขา นางเอาหลานสาวตนเองมาเสนอ เขาส่งหลานสาวนางไปค่ายทหารเป็นนางบำเรอของกองทัพตั้งแต่วันแรก ทำให้ทะเลาะกันกับหยางเยี่ยนอ๋องยกใหญ่ จนถึงขั้นไม่เหยียบเมืองหลวง ไป๋ซู่ฮวาหลับอยู่ในอ้อมกอดเขา นางเป็นคนสดใสยิ้มเก่ง ที่ดินติดกับบ้านของเขาทุกวันจะลงมาทำนาทำไร่ บางครั้งก็ถูกพี่สาวกลั่นแกล้ง น้องชายขี้โรคต้องพึ่งหมอแต่มักถูกทุบตีเสมอ เคยอยากยื่นมือช่วยแต่ด้วยติดที่ต้องหลบซ่อนหนิงจินกับหนิงหรงไว้จึงไม่อาจเปิดเผยตัวตนมากนัก เรื่องคืนนั้นเขารับรู้ว่านางถูกวางยาได้แต่สงสารแต่ก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้จึงรังแกนางทั้งคืน เดิมยินดีที่จะแต่งงานกับนางหากไม่เพราะจางชุนทุบตีนางแล้วเอามาโยนหน้าบ้านกล่าวหาว่านางไปขอเป็นอนุของเขา หยางหนิงเฉิงมีปมในใจเกี่ยวกับชายารองของเสด็จพ่ออยู่แล้ว จึงเกลียดนางโกรธจนทิ้งให้นางนอนตากฝนทั้งคืน คิดแล้วก็อยากลงโทษตัวเองที่ไม่รอบคอบ ไป๋ซู่ฮวารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองก็ลืมตา เห็นใบหน้าหล่อเหลาอยู่แค่คืบ นางยกมือลูบสัมผัส หยางหนิงเฉิงจูบนางดูดดื่มก่อนจะเริ่มบทรักอีกครั้งจนไปว่าฮวาต้องร้องขอให้เขาหยุด "อื้อ ท่านพี่พอเถอะไม่มีแรงแล้ว ขาสั่นหมดแล้ว" "เจ้าหวานนัก เสี่ยวฮวาข้าไม่เคยคิดว่าตนเองจะรักใครได้แต่เหมือนว่าข้าจะหลงรักเจ้า" "เราเพิ่งอยู่ด้วยกันแค่ห้าวัน ค่อยๆเรียนรู้กันเถอะเจ้าค่ะ อย่าหึงหวงมากไปก็พอคนเราควรมีชีวิตส่วนตัวบ้าง" "ได้ ข้าจะยอมทำตามข้าเคยเกลียดสตรีถึงขั้นที่บีบคอด้วยมือข้างเดียวมาแล้วเจ้ากลัวไหม" "ท่านไม่ใช่บัณฑิตแก่เรียนหรือเหตุใดโหดร้ายนัก" "คนพวกนั้นไม่ใช่คนดี" ไป๋ซู่ฮวาลุกขึ้นมองหน้าเขาลูบแผงอกเบามือ มีรอยแผลไม่น้อย เล็กใหญ่ทั้งใหม่และเก่า "ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่บัณฑิต แต่จะไม่ถามว่าท่านเป็นใคร ขอแค่ตอนอยู่ด้วยกันมีข้าคนเดียว หากอยากกลับไปหาคนรักของท่านก็ต้องตัดขาดกับข้า ข้าใจกว้างกับตนเองแต่ไม่ใจกว้างกับคนอื่น" หยางหนิงเฉิงมองหน้านาง ทรวงอกงามนั้นยั่วยวนจนเขาหลงลืมเรื่องขุ่นมัวในใจ ก้มลงดูดดื่มแล้วจากนั้นก็รักนางจนถึงยามอิ๋นถึงพลิกกายลงตะแคงแล้วกอดนางก่อนจะหลับไปด้วยกันเขากระซิบข้างหู "เจ้าเป็นรักแรกของข้า วางใจเถอะชั่วชีวิตข้าจะมีเพียงเจ้า" ยามเหมาไป๋ซู่ฮวาตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าครัว เมื่อวานขอให้หมอหยุนตรวจอาการหยางหนิงเฉิงกับไป๋ซูหยาง เขาจัดยาบำรุงมาให้แล้วบอกว่าสุขภาพเสี่ยวหยางไม่ต้องกินยาแต่ต้องกินอาหารที่บำรุงร่างกาย วันนี้นางจะขึ้นเขาเพื่อดูว่ามีสมุนไพรหรือพอจะหาเนื้อได้หรือไม่ ไม่อยากเข้าตัวเมืองบ่อยๆ "พี่ใหญ่ แค่กๆ ท่านจะขึ้นเขาหรือขอรับ บนเขาอันตรายพี่ต้องระวังนะ ข้าเป็นห่วง" "อย่ากังวลเลย พี่จะไปดูสมุนไพรบางชนิดด้วย อาเล็กเองก็ต้องใช้มัน หากคนบ้านนั้นมาหาเรื่องก็ไม่ต้องออกไปปิดประตูรั้วให้ดีๆ" "พี่สะใภ้ เมื่อวานข้าเก็บเห็ดได้เยอะเลยพี่สะใภ้ไม่ขึ้นเขาได้ไหมบนเขามีหมาป๋าด้วย อาหลี่บอก" "พี่ไปใกล้ไม่ไกลหรอก หนิงหรงวันหลังก็เรียกพี่อาหลี่ พี่เสี่ยวจิ้งรู้หรือไม่ กินข้าวเถอะพี่จะยกข้าวไปให้พี่ชายเจ้า" เขาเห็นไป๋ซู่ฮวายกถาดไม้เข้ามาหยางหนิงเฉิงก็สงสาร เขาสั่งหยุนซานแล้วให้บอกนางว่าอีกเดือนเดียวน่าจะลงจากเตียงได้ เขาไม่ควรให้หยุนซานโกหกว่าปีนึงเลย ไม่คิดว่าตนเองจะหลงรักเด็กอายุสิบหก เขาปีนี้จะยี่สิบเจ็ดแล้ว เฮ้อ "ท่านพี่ ข้าอยากขึ้นเขาสักหน่อยมีอาหลี่กับเสี่ยวจิ้งคอยดูท่านแล้วข้าก็เบาใจ" "บนนั้นอันตราย อย่าไปเลยรอข้าหายดีก่อนนะ" "ข้าอยากขึ้นไปดูสมุนไพร เสี่ยวหยางกับท่านต้องบำรุง ถ้าท่านกังวลข้าพาอาหลี่ไปด้วยก็ได้" เห็นเขาเงียบไปไป๋ซู่ฮวาจึงขึ้นไปนั่งบนเตียงเอนตัวพิงอกของหยางหนิงเฉิง เขากอดนางเอาไว้ ไป๋ซู่ฮวารับรู้ถึงความไม่ปกติ จึงลุกขึ้นมองหน้าสามี "เป็นอะไรไปเจ้าคะ เช่นนั้นข้าไม่ไปก็ได้" หยางหนิงเฉิงจูบนางเนิ่นนาน เขาต้องจัดการอุปสรรคทุกอย่างที่นี่ให้นางก่อนที่จะออกเดินทาง ไม่รู้ว่านางจะเข้าใจไหมจากนี่เข้าวังมีแต่อันตราย ให้นางอยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า "เด็กดี อีกหกเดือนข้าต้องไปทำงานสำคัญระหว่างทางไม่ปลอดภัยเจ้าอยู่ที่นี่รอข้าได้หรือไม่" ไป๋ซู่ฮวามองหน้าเขามือบางลูบเคราที่เพิ่งจะขึ้นแล้วถอนหายใจ "ข้ารู้ว่าฐานะท่านไม่ธรรมดา และบางทีข้าอาจไม่คู่ควรกับท่านแต่แรกในเมื่อเป็นของท่านแล้วข้าก็อยากใช้ชีวิตเช่นสตรีทั่วไป ท่านพี่หากวันใดต้องเลิกร้างอื้อๆๆๆ" หยางหนิงเฉิงไม่ยอมให้นางพูดคำเหล่านั้นที่ไม่น่าฟังออกมา จึงจุมพิตนางไม่หยุดสุดท้ายจบลงที่คนตัวเล็กกอดแผ่นหลังเขาแน่น สะโพกหนาขยับไม่หยุดจนสองร่างกระตุกเกร็งพร้อมกัน หยางหนิงเฉิงปัดปอยผมให้นางรั้งเข้ามากอดด้วยความหวงแหน "เสี่ยวฮวา ข้าไม่มีวันเลิกร้างกับเจ้า ชีวิตข้าหยางหนิงเฉิงมีเจ้าเท่านั้น ท่านพ่อข้ามากรักสตรี ตอนข้าสิบห้าเขาก็รับสตรีที่เป็นรักแรกเข้ามาไม่สนใจคำค้านผู้ใด ตั้งแต่วันนั้นท่านแม่ก็มีแต่น้ำตามาตลอด ข้ารู้ว่าท่านแม่นางรักท่านพ่อแต่ท่านพ่อเล่าในใจไม่เคยมีนางสักนิด ข้ารักเจ้าแม้จะอยู่ด้วยกันไม่กี่วันแต่ข้าเห็นเจ้าในแปลงนานั้นทุกวัน ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้าเสียใจเหมือนที่ท่านพ่อทำกับท่านแม่ ชีวิตนี้ข้าหยางหนิงเฉิงสาบานว่าจะรักและมีเพียงไป๋ซู่ฮวาคนเดียวตลอดชีวิต" "เพราะเหตุนี้หรือ ท่านจึงคิดว่าข้าหน้าด้านไปขอเป็นอนุจางชุนเลยรังเกียจข้าทิ้งให้ข้านอนตากฝนอยู่หน้าบ้าน ท่านคิดว่าข้าเหมือนเมียน้อยบิดาท่านคนนั้นหรือเจ้าคะ" "ขอโทษนะคนดี ข้าไม่ควรตัดสินเจ้าแบบนั้น ข้ารู้สึกผิดจริงๆ หากเจ้าเป็นอะไรไปคงเป็นบาปในใจข้าไปตลอด" ไป๋ซู่ฮวารู้ดีว่าเรื่องนี้เจ็บปวดเพียงใด คุณพ่อมีเมียน้อยโดยที่ไม่มีใครรู้ น้องสาวคนละแม่อ่อนกว่านางแค่ปีเดียว จนเรื่องแดงตอนมหาลัยบังเอิญได้เข้าเรียนที่เดียวกัน เด็กคนนั้นเดินมาหาแล้วบอกตรงๆว่าพวกเรามีพ่อคนเดียวกัน จากนี้ถ้าเจอกันก็ทักทายหน่อยในน้ำเสียงมีความเยาะเย้ย เธอจึงเข้าใจหัวอกผู้ชายตรงหน้าดี "ท่านพี่ไม่ต้องสาบานหรอก ข้าเชื่อท่านอย่าคิดถึงอดีตเหล่านั้นอีกเลยหากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยท่านพาข้าไปเยี่ยมมารดาท่านดีหรือไม่เจ้าคะ" หยางหนิงเฉิงกระชับอ้อมกอดกดคางกับศีรษะของนางก่อนจะพลิกตัวขึ้นด้านบน "ข้าหิวอีกแล้ว อยากกินเจ้าอีกครั้งขึ้นเขาพรุ่งนี้เถอะได้ไหมหืม" ไป๋ซู่ฮวาคล้องคอเขาแล้วพยักหน้า ผู้ชายคนนี้เจ็บปวดเหมือนที่นางเคยเจ็บคุณแม่ร้องไห้ทุกวันจนเธอเรียนจบมีงานทำ มีรายได้มากมายไม่ง้อคุณพ่อออกตระเวนทำวิจัยอายุยี่สิบแปดคุณแม่อยากให้แต่งงานแต่ท่านก็จากไปก่อนด้วยโรคร้าย ก่อนจะมาที่นี่ทางองค์กรกำลังจะเลื่อนคนขึ้นตำแหน่งหัวหน้าภาคหลังจากที่ลงเขาเรียบร้อย เพื่อนรักของเธอเอลิก้าเองก็เป็นตัวเต็งครั้งนี้ ตอนตกเขาเธอรู้สึกถึงแรงผลักจากด้านหลัง ชาติที่แล้วมีทั้งพ่อทรยศกับเพื่อนทรยศชาตินี้เธอจะขอรักษาผู้ชายตรงหน้าคนนี้เอาไว้ ไป๋ซู่ฮวารับความรักจากหยางหนิงเฉิงครั้งแล้วครั้งเล่า มีแต่เสียงครางแสนหวานนางกระตุกเกร็งจนนับไม่ถ้วน อาหลี่กับเสี่ยวจิ้งพาเด็กสามคนไปเล่นข้างนอก ท่านแม่ทัพบอกแล้วว่ามีเรื่องจะคุยกับฮูหยิน หยางหนิงเฉิงรักนางจนไป๋ซู่ฮวาหมดแรงเขาจึงยอมหยุดอย่างเสียดายกอดคนตัวเล็กนอนหลับไปด้วยกัน กระซิบข้างหูเบาๆ "ข้ารักเจ้าจะมีแค่เจ้าชั่วชีวิตข้าสัญญา" เขามั่นใจว่าหลงรักนางตั้งแต่วันที่ต้องทำอาหารแต่ทุกอย่างกลับกินไม่ได้ นางสงสารเด็กทั้งสองจึงมาช่วยทำให้เวลาที่ต้องมาดายหญ้าหรือพรวนดินในที่ดินของตนเอง นางก็มักจะถามเขาว่ากินข้าวหรือยัง หยางหนิงเฉิงไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจากไปแสนไกลแล้วที่อยู่ในอ้อมกอดคืออีกหนึ่งดวงวิญญาณที่ชะตาลิขิตให้ต้องมาใช้ชีวิตแทนนาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม