"เข้างานได้แล้ว"
ร่างใหญ่โอบกอดร่างเล็กที่ดูจะกลัวเขาทำให้เธอตายเดินเข้างานไปอย่างสงบ เวลาญาลินกลัวอะไรเธอน่าปกป้องเสมอและก็น่าอยู่ใกล้เพื่อตักตวงกลิ่นหอมจากกายของเธอมากที่สุดถึงจะต้องการอย่างอื่นที่เธอให้ไม่ได้มากกว่าก็ตาม
“บราวนี่”
ร่างเล็กที่เดินเคียงคู่มากับบอดี้การ์ดของตัวเอง ที่ดูคล้ายคู่รักเดินโอบกอดกันมามากกว่ารีบเผยรอยยิ้มสดใสทันทีและสะบัดร่างใหญ่ให้ออกห่างจากตัวเธอ บราวนี่เพื่อนสาวที่แสนจะรักและสนิทมากที่สุดกำลังเดินออกมาเพื่อต้อนรับเธอเข้างานและเธอก็ไม่อยากให้ภาพความเป็นคุณหนูที่มีบอดี้การ์ดคอยดูแลต้องการมีการเข้าใจผิด
“ญาลิน นึกว่าเธอจะไม่มาซะแล้ว”
หญิงสาวในชุดราตรีสีชมพูยาวลากพื้นตัดกับผิวสีน้ำผึ้งชวนมอง สวมกอดเพื่อนสาวด้วยความคิดถึงและดีใจที่ได้เจออีกครั้งหลังจากที่ไม่เคยได้เจอเลยตั้งแต่จบไฮสคูลและญาลินก็ลาไปเรียนต่อสัตวแพทย์คนละมหาลัยกับเธอ
“มาสิ ยังไงปีนี้ฉันก็ต้องมา”
“แล้วนี่ใคร แฟนเหรอ”
ร่างใหญ่ยืนนิ่งฟังเธอกับเพื่อนคุยกันอย่างเงียบๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเพื่อนของเธอจะพาแฟนมาเปิดตัว เธอถึงกับต้องเสียมารยาทถามต่อหน้าคนทั้งสอง
“บอดี้การ์ดไง เธอจำไม่ได้เหรอ”
ญาลินยิ้มปนขำให้เพื่อนสาว บราวนี่ไม่เคยพลาดที่จะจดจำใครทำไมวันนี้ถึงพลาดตกม้าตายได้ทั้งที่เคยเจอบอดี้การ์ดของเธอมาตั้งหลายครั้งแล้ว
“พี่ธามเหรอคะเนี้ย บราวนี่จำแทบไม่ได้เลย”
“ไม่เจอกันแค่ปีเดียวคุณบราวนี่สวยขี้นจนพี่เองก็จำแทบไม่ได้เหมือนกัน”
เขาจำเธอได้ดี ผู้หญิงแสนเรียบร้อยอ่อนหวานที่เป็นเพื่อนรักของญาลิน ไม่ว่านานแค่ไหนที่ไม่ได้เจอเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนนอกจากจะโตขึ้นตามอายุเท่านั้น
“บราวนี่ก็เหมือนเดิมนะคะไม่ได้สวยขึ้นอะไร พี่ธามสบายดีนะคะ”
จากที่ทักทายเพื่อนกลับหันมาคุยกับคนที่เธอนับถือในฐานะพี่ชายแทน ไม่เจอพี่ชายคนนี้นานเธอก็มีคำถามมากมายอยากจะถาม
“ครับพี่สบายดี”
“บราวนี่แขกของเธอเดินเข้างานมาอีกแล้วไปต้อนรับก่อนเถอะ เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันต่อ”
ญาลินทนฟังสองคนนี้คุยกันต่อไปไม่ได้ ยังไงเธอก็ต้องหยุดคนทั้งสองให้ได้ไม่รู้ว่าเหตุผลเพราะอะไรแต่มันรำคาญในทนฟังต่อไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปสนิทสนมกันมากมายขนาดนี้มาตอนไปถึงได้มองตาคุยกันอยู่ตั้งนานสองนาน
“จริงด้วยสิ เดี๋ยวเจอกันนะ”
บราวนี่หันมากอดลาเพื่อนรักอีกครั้งก่อนจะขอตัวเดินไปต้อนรับแขกคนสำคัญที่เดินเข้างานกันมาอย่างรู้มารยาท
“คุณหนูบราวนี่สวยขึ้นเป็นกองเลยนะ”
เจ้าของความสวยที่เขากำลังชมเดินจากไปแล้ว คงเหลือแต่เด็กดื้อที่เขาต้องคอยดูแลยืนฟังอยู่ด้วย ใบหน้าหวานของญาลินที่ถูกแต่งแต้มสีสันกำลังงองุ้มอย่างน่ารักสงสัยจะโมโหที่เขาไปชมคนอื่นเหมือนอย่างเคย งานนี้คงต้องแกล้งซะให้เข็ดจะได้ไม่อยากออกมานอกบ้านในเวลากลางคืนแบบนี้อีก
“ทำไมไม่เดินตามไปดูแลเขาละ จะได้ไปชมความงามของเขาให้เต็มตา”
ร่างเล็กที่ไม่มีใครคอยมาโอบกอดรีบเดินหนีเข้างานไปเพียงลำพัง ไม่อยากทนยืนฟังเขาชมคนอื่นทั้งที่กอดเธอเดินเข้างานมายังไม่มีคำชมหลุดออกมาจากปากสักคำ
“จะไปไหนญาลินหยุดนะ”
สองเท้ารีบก้าวเดินตามหญิงสาวที่กำลังเดินหนีเขาเข้าไปในงานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา
“ไม่มีทางหยุด หนูญาออกจะน่ารักไม่เคยชมสักคำไปชมคนอื่น ไอ้บ้าธาม โอ๊ย”
ร่างเล็กก้าวเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อรู้ว่าเขาตาม ความคิดที่จะหนีเขามีอยู่เต็มหัวด้วยความน้อยใจ แต่ร่างเล็กของเธอกลับไปชนกับร่างของใครอีกคนจนล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น
“ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนไหมครับ”
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังเดินกลับมาเอาของที่รถ เขาไม่ทันระวังตัวจนไปชนกับร่างนุ่มนิ่มของใครบางคน ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่
“ไม่เป็นอะไรคะ ขอโทษนะคะที่เดินไม่ระวังจนไปชนคุณเขา”
ร่างบางรีบลุกขึ้นและรีบปัดมือเขาออกจากตัว ผู้ชายคนนี้ไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด ไม่รู้จักกันทำไมถึงกล้าเขามาถูกเนื้อต้องตัวเธอได้ ธามอยู่ไหนทำไมไม่พาเขาออกไปให้ห่างจากตัวเธอ
“คุณหนูเป็นยังไงบ้างครับ”
ธามที่วิ่งตามเขามาช้าไปเพียงก้าวเดียวไม่ทันจะช่วยคุณหนูของเขาไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้นได้ แต่เขาก็มาทันพาเธอออกมาให้ห่างจากผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น
“ไม่เป็นอะไรแน่นะครับ”
ร่างเล็กตรงหน้าเขาช่างงดงามอย่างกับภาพวาดที่มีชีวิตออกมาเดินได้ เธอไปอยู่ที่ไหนมาทำไมเขาถึงเพิ่งจะได้เจอเธอทั้งที่เขาก็รู้จักผู้คนมากมายไม่น่าจะพลาดคนสวยน่ารักแบบเธอไปได้
“ขอตัวนะครับ”
เขากอดเอวบางของเธอเอาไว้แน่นแล้วพาเดินเข้ามาในงาน เพื่อหาที่นั่งสำรวจว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าล้มลงไปแรงขนาดนั้น เขาไม่ไว้ใจเลยกับคำบอกของเธอที่พูดว่าไม่เป็นไร
“น่าสน”
เอริกยังคงยืนมองทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวจนลับสายตาเขาไป ไม่มีทางที่เขาคิดอะไรแล้วจะไม่สมหวัง อยากได้อะไรก็ต้องเอามาครอบครองให้ได้ ญาลินต้องเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเขาในเร็ววันนี้แน่นอน
“ปล่อยได้แล้ว หนูญาเดินเองได้”
“นั่งลงตรงนี้ แล้วอย่าดื้อ”
เขาไม่ได้ปล่อยเธอออกจากวงแขนตามคำขอร้องแต่กลับลากเธอเดินมาจนถึงโซฟาตัวยาวที่ยังไม่มีคนนั่งในมุมที่ห่างไกลแขกคนอื่นๆ ของงาน
“จะดื้อ ก็ไม่ได้สวยเหมือนคนอื่นเขานิ”
ร่างเล็กนั่งลงกับโซฟาและเธอก็รีบขยับไปนั่งอีกมุมหนึ่งให้ไกลจากเขา คนที่ไม่น่าอยู่ใกล้ด้วยแม้แต่น้อย
“น้อยใจ หรือว่าหึง”
ร่างใหญ่โตรีบดึงเอาหญิงสาวร่างบอบบางขึ้นมานั่งบนตัก ตัวเล็กแค่นี้คงคิดว่าจะหนีเขาพ้นถึงได้ไปนั่งซะไกล
“โอ๊ย เจ็บนะ”
“ไหนบอกว่าไม่เป็นอะไรไง แล้วร้องทำไม”
เขาสำรวจเรือนร่างอรชรของเธอจนทั่วและหยุดลงตรงข้อศอกที่มีเลือดไหลซึมออกมา เธอมันโกหกไม่เคยเก่งเลย หลักฐานคาตาแบบนี้ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีก
“โอ๊ย บอกว่าเจ็บไง”
เขาเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาเช็ดเลือดที่แผลให้เธอ แต่มือเขาหนักจนเธอเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ไม่ไหวต้องร้องออกมา
“มีแผลตรงไหนอีกหรือเปล่า”
ธามหมุนร่างเล็กที่นั่งอยู่บนตักเขาไปมาหลายรอบเพื่อจะดูให้ละเอียดและแน่ใจว่าเธอไม่ได้มีบาดแผลตรงไหนอีก
“สนใจด้วยเหรอ”
“ไม่สนใจคุณหนูแล้วจะไปสนใจใครละ ไหนบอกมาสิ”
“ก็บราวนี่ไง เธอสวยนะวันนี้ ฉันพอจะดูแลตัวเองได้นายไปคุยกับเธอต่อเถอะ”
“ทำไมถึงไล่กันแบบนี้”
จบการสำรวจบาดแผลใบหน้าหล่อคมก็รีบซบลงกับไหล่เล็กของเธอเพื่อตอบคำถามให้แผ่วเบาที่สุดเพื่อจะได้ยินกันสองคน
“ไม่ว่านายเจอบราวนี่กี่ครั้งก็มีเรื่องให้ต้องคุยกันมากมายไม่ใช่เหรอ”
“อยากรู้จริงๆ ใช่ไหม”
“ปล่อยนะ คนมองกันใหญ่แล้ว”
“ฉันไม่เคยอยากจะคุยกับใครนานเท่ากับเจ้านายตัวเองหรอกนะ อย่าคิดเองเออเองอีก เดี๋ยวจะโดนจับตีก้นนะคะ ยาหยี”
“ใครจะไปอยากคุยกับนาย ปล่อยได้แล้ว”
“ทำตัวดีๆ ก่อนแล้วจะปล่อย”
“พี่ธามค่ะ ให้หนูญาลงไปนั่งข้างล่างนะคะ น๊ะพี่ธามปล่อยหนูญานะคะ”
“ก็เท่านั้น พูดเพราะก็เป็นแล้วทำไมถึงต้องโดนบังคับก่อนถึงจะพูด”
“ก็นายมันชอบยั่วโมโหฉันนิ ใครจะไปอยากพูดจาดีด้วย”
“ดื้ออีกแล้วนะ เดี๋ยวจะจับขึ้นมานั่งอีก”
“ไม่นะ”
เขายอมปล่อยเธอให้นั่งอีกฝั่งของโซฟาตัวยาวที่เอาไว้รับแขกนี่โดยมีเขานั่งมองอย่างไม่คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว และก็ไม่มีใครย่างกรายเดินผ่านใกล้เข้ามาเพราะต่างรู้ดีว่าถ้าใครกล้ายุ่งกับคุณหนูญาลินจะได้รับผลตอบแทนยังไงจากพี่เขยของเธอ
“กินน้ำไหม”
“มีแต่ของมึนเมา พี่ต้นสั่งห้ามเอาไว้”
“นั่นไงน้ำผลไม้ เดินมาทางนี้พอดี”
เขาควักมือเรื่องบริกรให้เดินเข้ามาเสิร์ฟน้ำผลไม้ที่ใส่ถาดถือมาเพียงแก้วเดียว ใครจะไปใจร้ายให้คุณหนูของตัวเองนั่งเฉยๆ มาร่วมชั่วโมงเพื่อรออวยพรวันเกิดเพื่อนโดยไม่ได้กินอะไรเลยเขาคงทำไม่ได้ถึงแม้จะอยากพาเธอกลับบ้านไปซะตอนนี้ก็ตาม
“ไหนบอกจะให้กินไง แล้วนายกินเข้าไปก่อนทำไม”
“จะได้รู้ยังไงว่าน้ำผลไม้จริงไหม”
เขากลืนน้ำในแก้วที่มีสีสันสวยงามลงคอไปสองสามอึกเพื่อชิมดูว่ามันมีอะไiแปลกปลอมปะปนมาไหม งานใหญ่โตแบบนี้อาจมีคนไม่หวังดีกับคุณหนูที่แสนจะน่ากอดของเขา
“คนบ้า”
“ด่าใคร เดี๋ยวโดนอุ้มขึ้นมานั่งตักอีกนะ”
“เอามาหิวแล้วนะ”
สองมือเล็กรีบหยิบแก้วน้ำจากมือเขามาเป็นของตัวเอง เธอยกกินดื่มรวดเดียวหมดแก้วในส่วนที่เหลือจากเขาด้วยความกระหาย และความหมั่นไส้ที่เขาเองก็หิวแล้วยังกล้ามาแย่งของเธอกินแบบนี้ไม่มีทางเหลือเอาไว้ให้เป็นอันขาด
“คายน้ำนั่นออกมา”
เพียงไม่กี่อึดใจที่เขากินน้ำผลไม้นั่นเขาไปและเธอก็กินตามจนหมดแก้วต่อหน้าเขา มันก็มีอะไรบางอย่างในร่างกายเขากำลังตื่นตัวอย่างรวดเร็ว
“ทำไม”
“มันมียา”
ร่างใหญ่เริ่มร้อนดั่งมีไฟกำลังลุกอยู่ในตัว เขาตื่นไปทั้งตัวและอยากหาที่ระบายมันออกไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในน้ำผลไม้นั่นมียาปลุกเซ็กผสมใส่มาด้วยและมันก็เป็นชนิดรุนแรงที่ออกฤทธิ์แบบทันทีเขาถึงได้มีอาการก่อนเธอแบบนี้
“ยาอะไร นายอย่ามาแกล้งกันนะ คนกินเข้าไปแล้วจะคายออกมาได้ยังไง”
“ใครมันกล้าทำแบบนี้วะ”
ร่างใหญ่ที่ยังพอมีสติดีมองไปรอบด้านเพื่อหาคนที่มันกล้าทำแบบนี้ พร้อมกับระวังภัยจากคนที่อยู่ในงาน
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงร้อนแบบนี้”
ร่างเล็กร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอย่างแปลกประหลาด มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ ความต้องการมากมายหลายอย่างกำลังแทรกเข้ามาในตัวเธอจนอยากจะถอดเสื้อผ้าออกในตอนนี้
“รีบกลับบ้านกันก่อน “
ถ้าจะอยู่ที่นี่กันต่อและขอความช่วยเหลือจากคนอื่นคงมีแต่คงไม่หวังดียื่นมือเขามาช่วย จนคุณหนูของเขาต้องได้รับอันตรายแน่ ถึงจะไม่ไหวแค่ไหนเขาก็ต้องพาเธอกลับบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัยและค่อยหาทางแก้ไขเอาใหม่
“ช่วยหนูญาด้วย”
เสียงเล็กครางกระเซ่าเร่าร้อนอ้อนวอนขอความช่วยเหลือและต้องการให้ธามช่วยต่อเติมความต้องการของเธออย่างคนขาดสติ เธอกำลังจะขาดใจเพราะความต้องการ
“กอดฉันไว้นะ”
เขาพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นยื่น เขารู้ว่ามันยากลำบากเพราะตัวเขาเองก็มีไอ้ยานรกนั่นอยู่ในตัวแต่ก็ต้องทำให้สงบแล้วดูแลหญิงสาวให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
“หนูญาร้อน พี่ธามช่วยหนูญาด้วย”
ญาลินกอดร่างหนาเอาไว้แน่น ถึงตอนนี้จะแทบไม่มีสติแต่ภายในใจของเธอก็สั่งออกมาว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่ดูแลเธอได้ไม่ว่าเธอจะต้องเจอเรื่องร้ายมากแค่ไหน เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอให้ต้องเผชิญมันเพียงลำพัง
“อดทนนะ”
เขาโอบกอดเธอเอาไว้แน่นให้ร่างบางของเธอแนบร่างใหญ่ของเขาและพาเดินออกจากงานปาร์ตี้บ้าบอนี้ให้เร็วที่สุดโดยไม่ได้ล่ำลาใคร เพราะลำพังตัวเขาเองก็แทบจะคุ้มสติไม่ไหวและไหนยังต้องคอยดูแลร่างเล็กที่กำลังโดนยาปลุกเซ็กชนิดรุนแรงเข้าไปมากกว่าเขา