"ห้ามหันมานะ ห้ามมองกระจกหลังด้วย หลับตาไปเลย"
รถหรูที่เพิ่งออกมาจากมหาลัยชื่อดังมาด้วยความเร็วสูงเพราะเจ้าของรถทำตัวช้ากำลังจอดนิ่งสนิทรอให้คุณหนูเจ้าของรถลงไปอยู่หน้าบ้านราเซ แต่เธอกลับออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่กำลังจะลงมาเปิดประตูให้อยู่นิ่งๆ เพราะเธอจะเปลี่ยนชุด
"จะทำอะไร"
เขาหันมามองร่างบางที่นั่งอยู่ด้านหลัง แววตาที่นิ่งสนิทเริ่มส่งผ่านความดุออกมา เธอยังมีโทษที่ต้องสะสางอีกหลายข้อและนี้ยังจะมาสั่งให้เขาทำอะไรอีกทั้งที่ตัวเองชักช้าเกือบจะเป็นชั่วโมงทำให้เขาต้องวุ่นวายอยู่นาน
"บอกว่าอย่าหันมา"
เสียงเล็กเริ่มขอร้องเขา เธอแค่อยากจะใส่เสื้อผ้าที่มันสบายกว่าชุดเก่าและที่นี้ก็สะดวกที่สุดที่เธอจะใส่ชุดเกือบโป้ที่ลงไปได้เธอไม่อยากให้เขาขัดขวางเธอเลย
"พูดเพราะๆ ก่อน"
"พี่ธามค่ะ หลับตานะคะ หนูญาขอเวลาแป๊บหนึ่ง"
"ก็ได้"
เขาจำนนต่อคำหวานที่แสนฝืนใจของเธอรีบรี่ตาลงและแอบมองเธอเปลี่ยนชุดจากทางกระจกมองหลัง เขากลัวว่าเธอจะแอบทำอะไรที่มากกว่าเปลี่ยนชุด ญาลินยิ่งฉลาดเกินตัวอยู่ด้วย
เธอรีบถอดกางเกงขายาวที่แสนน่าเบื่อออกและรีบหยิบกระโปรงตัวสั้นที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมาใส่ตามที่ใจของเธอต้องการ
ธามแทบสะกดอารมณ์ไว้ไม่อยู่เมื่อเช้าเห็นสองเต้าอวบอิ่มก็เกินห้ามใจอยู่แล้วแต่พอมาเห็นโหนกนูนภายใต้ชั้นในสีดำแกนกายเขาลุกชันขึ้นมาตอบโต้ทันที ญาลินทำเขาให้อยากจะเป็นผัวของเธออีกแล้ว
"เสร็จหรือยัง"
เสียงใหญ่แหบพล่าเกินจะห้ามอารมณ์ชายที่พลุ่งพล่าน วันนี้เจ้านายของเขาทำตัวน่าจับกินสองรอบแล้วนะ
"เสร็จแล้ว"
ญาลินรีบดึงกระโปรงสีดำตัวสั้นที่ตัดกับสีผิวขาวเนียนของเธอลงแต่มันก็ลงมาแค่นิดเดียวเพราะติดสะโพกผายของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันเพราะก็ไม่ได้มีคนที่ต้องอายอะไรมีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น
"ใครใช้ให้เธอใส่แบบนี้ ฉันจะรายงานนายใหญ่"
สายตาดุที่ได้มองหญิงสาวอย่างเต็มตาจากกระจกมองหลัง กระโปรงเธอมันปิดอะไรไม่มิดเลยชั้นในสีดำยังคงเล็ดลอดออกมาให้เขาได้เห็นเต็มสองตา
"พี่ธามขอร้องนะ แค่ใส่ลงไปกินข้าวกับแม่แพรแป๊บเดียวเอง นะคะ นะ"
ธามชอบให้เธอพูดจาไพเราะกับเขา ทั้งที่ใจอยากจะต่อว่าเขาอยู่ตลอดเวลาเพื่อระบายอารมณ์ แค่เธอจะแต่งตัวแบบนี้ลงไปหาแม่แพรยังจะมาขัดขวางอีกไม่รู้เรื่องความสวยงามของผู้หญิงเอาซะเลยจะให้ใส่แต่กางเกงขายาวอยู่เรื่อยไปสินะ
"ดูความประพฤติของเธอก่อน ถ้าไม่นับรวมที่เธอพบผู้ชายคนเมื่อเช้าและก็ที่ลงมาจากอาคารเรียนช้าและก็แอบให้เบอร์ไอ้หน้าเบี้ยวคนใหม่นั่นไป"
เขาหันมามองเธออย่างเต็มตาอีกครั้ง เนินอวบอิ่มของเธอยังคงทักทายเขาอยู่เหมือนเดิม ถ้าไม่ติดว่ามาจอดอยู่หน้าบ้านราเซแล้วเขาคงทะเลาะกับเธออีกนานเพราะถ้าเขาเห็นคนเดียวมันก็ดีต่อเขา แต่นี่ต้องลงไปให้พวกบอดี้การ์ดในบ้านราเซเห็นอีกเป็นสิบลูกตา เธอคิดอะไรของเธอนะญาลินถึงอยากจะลงไปโชว์ให้ไอ้พวกนั้นมันเห็น
"ห้ามบอกพี่ต้นนะ"
ถ้าเขาพูดออกมาหมดทุกเรื่องเธอคงไม่ได้ออกไปไหนง่ายๆ เหมือนตอนนี้แน่ พี่ต้นของเธอคงเพิ่มบอดี้การ์ดขึ้นอีกจนเธอมีชีวิตร่วมกับคนอื่นไม่ได้แค่ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอแล้ว
"บอกแล้วว่าขอคิดดูก่อน รีบลงจากรถได้แล้ว พ่อแมกซ์กับแม่แพรรอนานแล้ว"
"พี่ธาม ไอ้คนใจร้าย"
เสียงเล็กพึมพำก่อนจะลงจากรถ เธออุตส่าห์หยอดวาจาแสนไพเราะให้เขาฟังแต่เขากลับใจแข็งใส่เธอซะงั้น
"สวัสดีค่ะ พ่อแมกซ์ แม่แพร"
ร่างเล็กเดินย่างกายเข้ามาในบ้านราเซด้วยความคุ้นเคย วันนี้เป็นเวรของเธอที่ต้องมาร่วมโต๊ะอาหารกับแม่แพรและพ่อแมกซ์
"ไหนมาแม่ขอกอดหน่อย"
แพรพลอยที่อายุเริ่มมากขึ้นเริ่มคิดถึงทุกคนในครอบครัวบ่อยๆ จนต้องมีการจัดเวรแวะเวียนมากินข้าวร่วมกันให้หายคิดถึงและพูดคุยตามประสาคนแก่
"คิดถึงแม่แพรจังเลย"
ร่างเล็กโผเข้ากอดหญิงสาวที่เธอรักและเคารพเหมือนแม่ด้วยความคิดถึง นานร่วมเดือนแล้วที่ไม่ได้แวะมาหาแม่แพร
"คิดถึงแต่ไม่เคยมาหาแม่แพรเลยนะ"
แพรพลอยเอื้อนเอ่ยอย่างน้อยใจถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าญาลินเรียนหนักจนแทบไม่มีเวลาว่างแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ตามประสาคนแก่
"หนูญาขอโทษนะคะ"
สองสาวต่างวัยกอดหอมกันจนอิ่มใจ ญาลินถึงแยกตัวมานั่งตรงที่ประจำของเธอคือตรงข้างแม่แพร
"ธามนั่งลงกินข้าวด้วยกันสิ"
แมกซ์แวลล์ที่มองสองสาวคิดถึงกันด้วยความสุขแต่สายตาเขากลับมองเห็นธามกำลังจะเดินออกไป
"ผมออกไปรอคุณหนูข้างนอกดีกว่าครับ"
เขาไม่ควรเข้ามาถึงในห้องอาหารนี้เลยด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่าขัดใจที่จะให้คุณหนูของเขาเดินโชว์เนื้อหนังมังสาขาวเนียนให้พวกบอดี้การ์ดข้างนอกดูเขาคงไม่เดินบังมาจนถึงที่นี้หรอก
"นั่งลง"
ประมุขใหญ่ของบ้านสั่งอีกครั้ง เด็กคนนี้ชวนกินข้าวทีไรต้องหาทางหลบเลี่ยงทุกที
"ผมเป็นลูกน้องไม่ควรนั่งร่วมโต๊ะเจ้านาย"
"แกมันก็หลานฉัน"
ทุกคนอาจเห็นธามเป็นแค่บอดี้การ์ดแต่สำหรับเขาเด็กคนนี้คือญาติพี่น้อง
"ขอบคุณครับ"
ชายหนุ่มยืนลังเลเขาไม่อยากจะนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้านายให้เป็นที่นิทราแต่พอสายตากวาดไปเห็นญาลินยิ้มมีความสุขกับอาหารตรงหน้าเขาก็รีบนั่งลงทันที
"ไปนั่งตรงนู้น"
เขานั่งลงข้างเธอ จนเธอต้องขยับตัวเบี่ยงไปหาแม่แพร ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามานั่งใกล้ชิดแบบนี้ใจเธอเริ่มสั่นไหวเหมือนเมื่อเช้าอีกครั้ง
"หรืออยากให้ฟ้องเรื่องเมื่อเช้า"
นอกจากนายใหญ่ของเขาจะหวงน้องสาวคนนี้เอามากๆ ก็ยังมีพ่อแมกซ์อีกคนที่หวงผู้หญิงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลราเซอย่างออกนอกหน้าและก็ไม่ต้องคิดว่าจะรอดถ้าเขาจะฟ้องเรื่องของเธอ
"ธาม"
ญาลินเผลอเสียงดังใส่คนข้างๆ ทั้งที่พยายามจะพูดกระซิบกันสองคนแต่เพราะเขายั่วโมโหเธอจนเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
"คุยอะไรกัน อาหารไม่น่ากินเหรอ"
แพรพลอยที่ถือเรื่องมารยาทมากถึงกับดุเด็กสองคนเบาๆ
"น่ากินมากๆ เลยค่ะ มีแต่ของชอบหนูญาทั้งนั้นเลยนะ"
"กินเยอะๆ นะหนูญา ตั้งแต่โตเป็นสาวพ่อเห็นกินน้อยจนแทบจะกลายเป็นดม"
"หนูญาจะกินให้หมดเลยค่ะ"
"ธามไม่ต้องเกรงใจนะ"
"ครับ แม่แพร"
"กินเป็นหรือเปล่าอาหารไทย"
ญาลินหันมาถามคนข้างกายเธอด้วยรอยยิ้ม ได้แกล้งเอาคืนบ้างก็คราวนี้แหละ กินไม่เป็นจะได้ลุกออกไปซะ
"ผมไม่ถนัดอาหารไทยเลยครับแม่แพร"
เขาทำได้ทุกอย่างเพราะคอนเนอร์ฝึกเขาให้มีความสามารถรอบด้านกับแค่อาหารไทยเขากินได้ แต่เพื่อยั่วโมโหเธอเขาต้องพึ่งพาแม่แพรคนที่อ่อนโยนกับทุกคน
"หนูญาแม่วานดูแลพี่เขาด้วยนะ"
แพรพลอยเอ็นดูธามไม่ต่างจากลูกหลานคนอื่นๆ ของเธอ และตามมารยาทเธอก็ควรจะหาคนดูแลแขกร่วมโต๊ะที่สามีของเธอเชิญให้นั่ง
"คุณหนูช่วยตักอาหารให้ผมด้วยนะครับ"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่ได้รับชัยชนะ ถึงเธอจะเริ่มเกมนี้ก่อนแต่เขาก็เป็นคนชนะปิดเกมนี้อย่างสวยงามจนได้
"ไอ้ธาม"
เธอแค่ต้องการให้เขาหน้าแตกไม่ใช่มาตักอาหารใส่จานให้ ทำไมทุกอย่างมันดูดีสำหรับเขาไปหมด
"ญาลิน"
แพรพลอยดุเด็กสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ญาลินชักจะเอาใหญ่ดื้อขึ้นมากเมื่อไปอยู่ไกลเธอนี้คงโดนคอนเนอร์ตามใจสะจนจะเสียเด็กแล้วล่ะมั้ง
"ขอโทษค่ะ"
ญาลินยกมือไหว้เพื่อขอโทษที่เธอเผลอเสียงดังและพูดจากไม่เพราะบนโต๊ะอาหาร เพราะเขาคนเดียวเลยเธอถึงทั้งโดนดุและโดนตำหนิทางสายตาจากผู้ใหญ่แบบนี้
"เรียกพี่ธามสิค่ะ เร็วสิ"
ใบหน้าใหญ่โน้มลงมาหาใบหน้าหวานที่เริ่มงองุ้มอย่างไม่พอใจ เขาคงต้องหาทางช่วยเธอบ้าง อย่างน้อยก็ให้ผู้ใหญ่ทั้งสองเลิกตำหนิเธอทางสายตายังไงญาลินก็เป็นคุณหนูของเขา
"พี่ธามกินต้มจืดนะคะ อร่อยมากเลย"
"ขอบคุณครับ แต่พี่อยากกินไก่ทอดด้วยครับ"
เขาเบียดร่างกายใหญ่โตเขามาใกล้เธอและพยายามจะตักไก่ทอดที่มันอยู่ใกล้ออกไปอย่างสุดแขนจนเนื้อตัวเขาเบียดไปกับผิดเนียนละเอียดของเธอ
"ตักเองสิ"
ญาลินเริ่มทนกับอาการแปลกไปของตัวเองไม่ไหวจนแอบเสียมารยาทขึ้นมาอีก
"อะไรนะครับ"
เขาเบียดร่างกายเข้ามาใกล้เธอจนลมหายใจเป่ารดต้นคออีกครั้ง พร้อมมือที่วางลงบนโคนขาอ่อนที่มีเพียงกระโปรงสั้นแค่คืบปกปิดอยู่
"เดี๋ยวหนูญาตักให้นะคะ"
ญาลินกลายเป็นคนดูแลธาม เธอคอยตักอาหารใส่จานให้เขาแทบจะทุกอย่างที่เขาอยากได้เพราะถ้าไม่ทำเขาจะขยับเขามาใกล้เธอและใจเธอก็จะสั่นจนควบคุมตัวเองไม่ได้
"อิ่มกันแล้ว พ่อมีอะไรจะให้ชิมนิดหน่อย"
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย แมกซ์แวลล์ส่งสัญญาณให้แม่บ้านไปหยิบอะไรบางอย่างมาเสิร์ฟให้ทุกคน
"อะไรคะ"
น้ำในแก้วสีม่วงอมดำถูกเสิร์ฟให้สำหรับทุกคน
"ไวน์นะ มาจากเมืองไทย"
"สีสวยจังนะคะ"
ญาลินยกแก้วนั่นขึ้นดู สีสันของมันชวนกินซะจริงสมแล้วที่พ่อแมกซ์เอามาเสิร์ฟปิดท้ายเพราะถ้าเสิร์ฟตอนแรกเธอคงได้ชิมจนอิ่มข้าวไม่ได้กินแน่
"หนูญาแค่ชิมก็พอนะลูก"
แพรพลอยเตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ถึงจะเป็นแค่ไวน์ผลไม้แต่ถ้าคนไม่เคยกินก็อาจเมาได้ในแก้วเดียว
"แพรก็เหมือนกัน แมกซ์เป็นห่วงนะ"
"ค่ะ"
สี่ชีวิตชิมไวน์รสดีที่ถูกส่งมาจากเมืองไทยพร้อมกัน และญาลินก็ทำเกินคำเตือนเธอดื่มรวดเดียวหมดแก้วด้วยความอร่อยในรสชาติ
"หนูญา"
"อร่อยดีนะคะ"
"ใครบอกให้กินหมดแก้ว รู้ไหมว่าเธออาจจะเมาได้"
ธามที่ใช้สายตาคอยจับจ้องมองหญิงสาวตลอดเวลาถึงกับตกใจในสิ่งที่เธอทำ ญาลินทำไมถึงไม่ฟังที่คนอื่นพูดบ้างนะ
"ไม่เมาหรอกนะ แค่ชิมเอง"
"ถ้าเมารีบบอกเลยนะ เข้าใจไหม"
"เข้าใจนะ"
ญาลินยังคงปกติ และขอชิมไวน์ขวดนั่นต่ออีกแก้วแต่ก็ได้รับอนุญาตเพียงแค่ครึ่งแก้วเพราะธามขัดขวางเอาไว้ถึงจะดื่มกินในบ้านราเซแต่เขาก็ไม่อยากให้เธอแตะต้องสิ่งไม่ดีพวกนี้
"ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้ว"
ร่างเล็กที่ปากพูดแต่ว่าไม่เมาถึงกับหลับพับบนรถมาตลอดทางจนเขาต้องปลุกให้เธอเดินเข้าบ้านไปเอง
"จะนอน"
ญาลินแกะมือใหญ่ที่พยายามจับเธอนั่งออก เธอจะไม่ไปไหนเพราะตรงนี้คือที่นอนของเธอ
"แค่แก้วเดียวเมาขนาดนี้ ถ้าถูกใครมอมเหล้าจะทำยังไง"
เขาเอานิ้วเขี่ยแก้มขาวของเธอเล่นไปมา เวลาที่เธอหลับไม่เถียงไม่ดื้อเป็นเวลาที่น่ารักที่สุดสำหรับเขา
ร่างใหญ่ต้องรีบห้ามใจพาเธอขึ้นห้องนอนก่อนที่นายใหญ่และนายหญิงจะลงมาเห็นพาลเขาจะโดนดุไปด้วยโทษฐานที่ไม่ห้ามเธอเรื่องดื่ม
"น่ากินจริงว่ะ"
เขาวางร่างเล็กลงบนเตียงนุ่ม มองผิวเผินทั่วไปเธอดูตัวเล็กแต่ถ้าได้ใกล้แบบเขาจะรู้เลยว่าร่างนอนอยู่ตรงหน้าอวบอั๋นแค่ไหน
ญาลินเริ่มดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อระบายความร้อนในตัว น้ำสีม่วงอมดำของพ่อแมกซ์กำลังออกฤทธิ์อยู่ในร่างกายเธอจนฝืนใส่เสื้อผ้าต่อไปไม่ไหว
เนินอกอวบอิ่มที่เคยมีเสื้อเชิ้ตสีขาวปกปิดกลับโชว์เด่นอยู่ใต้บราสีดำ ญาลินถอดเสื้อของตัวเองออกอย่างไม่รู้ตัว
ด้านล่างของหญิงสาวที่เคยมีกระโปรงสั้นแค่คืบของเธอปกปิดมันกับเปิดขึ้นมาหมดจนเห็นชั้นในสีดำครบทั้งตัว
ร่างใหญ่ยืนมองด้วยความตกตะลึง เธอสวยเกินห้ามใจจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้ตามเฝ้าเธอมาตลอดคงคิดว่าร่างนี้มีเจ้าของแล้ว สวยแบบนี้ไม่น่ารอดมาได้เลย
"ไม่ไหววะ เธอยั่วเองนะญาลิน"
ร่างใหญ่ย่อตัวลงนั่งคุกเขากับพื้นห้องนอน สองขาเล็กถูกยกขึ้นผาดบ่าของเขาจนญาลินน้อยที่หลับใหลโชว์เด่นตรงหน้า
"อื้ม"
เสียงครางฮึมในลำคอด้วยความพอใจเพียงเพราะจมูกโด่งเป็นสันกดลงกับชั้นในสีดำที่ปกปิดเนินอวบของเธอไว้ กลิ่นกายสาวของเธอช่างหอมถูกใจเขาจริงๆ
"แผล็บ"
เขาแหวกชั้นในตัวจิ๋วให้หลบทางจนกลีบอวบอูมโชว์หราตรงหน้า ลิ้นร้อนแตะชิมตรงปลายยอดสีชมพูเด่นอย่างไม่รอช้า
"อื้อ อื้อ"
เขาระรัวลิ้นร้ายด้วยความเร็วอย่างเอาแต่ใจจนหญิงสาวที่หลับใหลครางกระเส่าออกมาด้วยห้วงฝันที่มีแต่ความเสียวซ่าน
"อื้อ อื้ม"
ญาลินครางร้อนรุ่มอยู่ในลำคอป่านจะขาดใจทั้งที่ดวงตาทั้งสองของเธอยังปิดสนิท แต่เพราะสัมผัสจากเขาปลุกเร่าความต้องการที่ไม่เคยมีใครมอบให้มากก่อนลุกโชนในกายของเธอ
ลิ้นร้ายส่ายวนเลียรอบดอกกุหลาบงามอย่างห้ามใจตัวเองไม่ได้ ญาลินหอมหวานเหลือเกินกินใครมาก็ไม่อร่อยเท่าเธอ
เขาดูดกลืนกินน้ำหวานของเธอจนมันไหลออกมาไม่ทัน สองมือใหญ่ก็บีบเคล้นสะโพกมนอย่างเบามือเพียงกล่อมให้เธอหลับต่อ
ร่างเล็กได้แต่ส่ายวนท่อนล่างด้วยความทรมาน ในความฝันของเธอทำไมวันนี้มันเสียวซ่านแปลกประหลาดเหลือเกิน
"ญาลิน"
เขาพร่ำพูดชื่อเธออยู่ในลำคอจนกระทั่งต้องถอดปากออกมาจากหญิงสาว เสียดายที่เธอเป็นเจ้านายไม่งั้นเขาอยากจะเป็นผัวให้เธอซะตอนนี้
ธามรีบตัดใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มได้สติมากขึ้น แค่นี้เขาก็ทำผิดมากพอแล้วอย่าให้เธอต้องมารับรู้ด้วยเลยในความเลวที่เขาบ้าทำมันลงไปเพราะห้ามใจตัวเองไม่ได้
"พี่ธาม"
ญาลินพูดชื่อของคนที่กำลังห่มผ้าให้เธอ หญิงสาวยิ้มหวานผ่านใบหน้าที่หลับใหล ในฝันของเธอกำลังกกกอดกับเขาเพื่อร่วมรักแบบชายหญิงอย่างมีความสุขที่สุด
"ฝันดีนะหนูญา"
เขาล่ำลาเธออย่างฝืนใจ ไม่เคยอยากอะไรแบบนี้กับการจะก้าวขาออกจากห้องของเธอทั้งทีก็ขึ้นมาแทบจะทุกวัน ญาลินเธอกำลังทำเขาลำบากใจ