“เอ่อ! คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับคุณอเล็กซ์” ไซมอนรีบเข้าไปกระซิบเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เจ้าของเรือฟังคร่าวๆ
“เฮ้ย! นี่พวกแกกล้ามากนะที่ทำเรื่องแบบนี้บนเรือของฉัน ฉันจะจัดการกับพวกแกยังไงดีวะ” อเล็กซิสโวยวายเสียงดังขึ้นมาทันที เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากไซมอน
“เรื่องจัดการกับสองคนนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมดีกว่า เพราะยังไงสองคนนี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนในปกครองของผม” แก้วมุกดาออกตัวก่อน เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเข้ามาวุ่นวายมากกว่านี้ ที่สำคัญถ้าปล่อยให้อเล็กซิสเป็นคนจัดการ ก็เหมือนกับการทำบาปซะเปล่าๆ
“ได้ไงล่ะ เหตุมันเกิดในที่ของฉัน ฉันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบและจัดการเรื่องนี้ด้วยสิวะ ไม่ได้การละ ขอฉันคิดก่อนว่าจะจัดการกับสองคนนี้ยังไงดี” อเล็กซิสทำท่าครุ่นคิด เช่นเดียวกันกับแก้วมุกดาที่ตอนนี้กำลังคิดหนักว่าจะทำยังไงถึงจะกำจัดตัวซวยอย่างเขาออกไปจากตรงนี้ได้ แล้วจู่ๆ อเล็กซิสก็เสนอความคิดของตัวเองออกมาเสียงดัง “ฉันว่าจับพวกมันโยนให้หลามกินซะก็สิ้นเรื่อง หรือแกว่าไงวะดราโก”
“เมื่อกี้ หัวหน้าก็พูดเหมือนคุณอเล็กซ์เปี๊ยบเลยครับ อย่างกับนัดกันมา” ไซมอนตอบแทนหัวหน้าที่กำลังทำหน้าอิหลักอิเหลื่ออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“เหรอวะ เขาว่าคนที่คิดอะไรเหมือนๆ กัน มักจะเป็นเนื้อคู่กันใช่ไหมวะ” อเล็กซิสพูดออกมาหน้าตาเฉย ทำเอาคนที่ไม่อาจเฉยด้วยได้แต่มองกันตาค้าง
“หรือว่าคุณอเล็กซ์จะเป็นพวกชอบกินถั่ว แกคิดเหมือนที่ฉันคิดไหมวะอีวาน” ไซมอนหันไปกระซิบถามเบาๆ ก็จะไม่ให้คิดแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้แก้วมุกดาอยู่ในคราบของผู้ชาย ถ้าผู้ชายเป็นเนื้อคู่กับผู้ชาย ถ้าไม่ใช่รักร่วมเพศแล้วจะให้เรียกว่าอะไร
“ถ้าอยากรู้ แกก็ลองถามเขาดูสิ” อีวานบอกสีหน้าราบเรียบดังเดิม แต่คนฟังอย่างไซมอนกลับส่ายหน้าหวือพร้อมกับ ถามให้โง่น่ะสิ ถามก็เท่ากับรนหาที่ตายสิวะ
“ฮ่าๆๆ ฉันล้อเล่นหรอกน่า ดูทำหน้าเข้าสิ อย่างกับฉันไปข่มขืนแกอย่างนั้นแหละ ฉันไม่นิยมพวกเดียวกันหรอกน่า แต่ถ้าแกยอมก็ค่อยมาว่ากันอีกที” อเล็กซิสเข้าไปตบบ่าแก้วมุกดาเบาๆ พร้อมกับพูดให้เธอเบาใจได้ แต่ไอ้ประโยคหลังนี่สิ ที่ฟังยังไงก็เบาใจไม่ได้สักที
“ฮะ!” แม้กระทั่งผู้ช่วยทั้งสองอย่างอีวานและไซมอน ยังอุทานพร้อมกับจ้องคนพูดจนตาแทบถลนออกมา
“ฮ่าๆๆ ฉันรู้หรอกน่าว่าหัวหน้าพวกแกคงไม่ยอม แต่ถ้ายอมฉันก็เอา ฮ่าๆๆ” อเล็กซิสพูดทีเล่นทีจริง ทำเอาสองผู้ช่วยมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนจะเอามือป้องประตูหลังของตัวเองด้วยสีหน้าหวาดระแวง อ๊าก! ไม่น่าไว้ใจสุดๆ
“อย่ามัวแต่นอกเรื่องดีกว่า คุณคิดจะจัดการยังไงกับสองคนนี้ก็ว่ามาเลย ผมเองก็ต้องไปทำงานของผมแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ดี ผมว่าเรื่องจัดการสองคนนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกผมจะดีกว่า” แก้วมุกดารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวเผลอเอามือฟาดปากเขาไปแบบลืมตัว
“ถ้าแกอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ แกก็ส่งสองคนนี้ให้ฉันซะ ที่เหลือฉันจะจัดการเอง ตกลงไหม” อเล็กซิสยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ครั้นจะส่งสองคนนี้ให้คนแบบอเล็กซิสก็ดูจะใจดำเกินไป แต่ถ้าไม่ยอมผู้ชายคนนี้ก็คงไม่ยอมไปไหนแน่ เรื่องนี้จึงทำให้แก้วมุกดาลำบากใจอยู่ไม่น้อย
“แต่ความจริง เรื่องเล็กๆ แค่นี้ ปล่อยให้พวกผมเป็นคนจัดการเองไม่ดีกว่าเหรอครับ ไม่เห็นต้องถึงมือคุณอเล็กซ์เลย” แก้วมุกดาลองหยั่งเชิงอีกครั้ง เผื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ
“ไม่ได้ จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ฉันก็เห็นว่ามันสำคัญทั้งนั้น เพราะยังไงมันก็เกิดในที่ของฉัน และฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง จบไหม” อเล็กซิสสรุปตัดบทเอาแบบดื้อๆ ที่ทุกคนได้ยินแล้วคงไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก
“ครับ” แก้วมุกดารับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ต่างกับอีกฝ่ายเมื่อทุกอย่างได้ดังใจก็อารมณ์ดีขึ้นมาดังเดิม
“ดีมาก พูดกันง่ายๆ แบบนี้ ค่อยน่าคุยกันหน่อย เออ! ว่าแต่ ฉันสงสัยอยู่อย่างว่ะ ในเมื่อไอ้สองคนนี้มันโกง แล้วทำไมแกยังชนะมันได้อีกวะ” แก้วมุกดาได้ยินถึงกับผงะหน้าเหลอหลา กลัวจะถูกจับได้ ด้วยเขานั้นรู้ดีว่าเธอมีพลังจิตอะไรนั่น แต่ยังไม่ทันที่แก้วมุกดาจะหาข้ออ้างให้ตัวเองได้ เขาก็แทรกขึ้นมาซะก่อน
“เฮ้ย! หรือว่าแกมีของดี ไหนขอฉันดูหน่อยสิวะ” อ๊าก! สรุปว่าคิดได้แค่นี้ใช่ไหมเนี่ย และก่อนที่แก้วมุกดาจะทันได้ตั้งตัว เขาก็รุกประชิดเข้าถึงตัวเธอและพยายามรื้อค้นของดีที่ว่านั่น
“เฮ้ย!” อเล็กซิสอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ ในขณะที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับแก้วมุกดา จนกระทั่งคลำไปถูกหน้าอกของเธอเข้าพอดี ที่สุดทั้งเธอ เขา และผู้ช่วยทั้งสองคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ต่างก็พากันตกตะลึงอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“เอ่อ!” แก้วมุกดาอึกอัก ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ ไหนจะต้องโดนจับหน้าอก แล้วยังต้องหาข้อแก้ตัวมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีก จะให้หวังพึ่งผู้ช่วยทั้งสองคนตอนนี้น่ะเหรอ คงยาก ก็มัวแต่ก้มหน้าก้มตารอรับความผิด ฐานสมรู้ร่วมคิดโดยไม่ปริปากอะไร คงช่วยอะไรเธอได้หรอก แบบนี้เธอคงต้องหวังพึ่งตัวเองกับโชคชะตาอย่างเดียว แต่ยังไม่ทันจะได้ปริปากพูด เสียงเขาก็ดังแทรกขึ้นมา
“นี่แกเล่นกีฬาเพาะกายด้วยเหรอวะ ไม่น่าเชื่อเห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ แต่ดันมีกล้ามหน้าอกกับเขาด้วย เฮ้ย! เจ๋งว่ะ แกนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ว่าก็ว่าเถอะว่ะ ฉันว่ามันยังไม่เฟิร์มว่ะ จับแล้วมันนุ่มๆ นิ่มๆ ยังไงก็ไม่รู้ว่ะ เนี่ยแบบเนี้ย” อเล็กซิสยื่นมือไปพิสูจน์ให้ดูอีกครั้ง ส่วนคนโดนจับก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถโวยวายอะไรได้ ‘กรี๊ด...! ฉันจะฆ่าแก’
“อืม! แปลกจัง ทำไมมันไม่แข็งเหมือนของฉันวะ หรือเป็นเพราะว่าแกเพิ่งเริ่มเล่น ไหนขอพิสูจน์อีกทีซิ” ว่าแล้วอเล็กซิสก็ยื่นมือมาหวังจะพิสูจน์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลัไม่เหมือนเดิม
“เฮ้ย!” อเล็กซิสโวยลั่นเมื่อหน้าอกที่ตนจับอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ของแก้วมุกดา แต่เป็นของไซมอนที่เอาตัวเองมาบังไว้
“ทำบ้าอะไรของแกวะไซมอน โรคจิตรึไง” อเล็กซิสยังคงโวยวายอย่างต่อเนื่อง
“เอ่อ...ผมอยากให้คุณอเล็กซ์พิสูจน์ของผมบ้างครับ” ไซมอนบอกสีหน้าจืดเจื่อน
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ใครอยากจับของมึงวะ กูอยากจับของหัวหน้ามึงโน่น เฮ้ย! ดราโกมาให้ฉันจับพิสูจน์อีกทีสิวะ” อเล็กซิสพยายามยื่นมือจะไปจับแต่ทำได้ลำบาก เมื่อไซมอนยังคงยืนขวางอยู่อย่างนั้น
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” เมื่อมีไซมอนเป็นเกราะกำบังแก้วมุกดาจึงได้โอกาสหลบฉาก แต่แล้วเท้าทั้งคู่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของเขาอีก
“เรื่องขนาดฉันให้ผ่าน เพราะมันใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีมาก ติดก็แค่เรื่องความแข็งนี่แหละ คงต้องฝึกกันอีกเยอะ ไว้ว่างๆ ฉันจะเทรนให้แล้วกัน ลองถ้ามีครูฝึกดีๆ อย่างฉันล่ะก็ ของแกต้องแข็งปั๊กแน่ เพราะฉันจะจับเอ๊ยฝึกให้แกทุกวันเอง” อเล็กซิสทำมือประกอบท่าทางจนเธอผงะถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมกับเจริญพรอีกฝ่ายในใจไปด้วย ‘กรี๊ด...! ไอ้ผู้ชายหน้านม ฉันจะฆ่าแก’
“เอ้าเฮ้ย! แล้วนั่นแกสองคนเป็นอะไรวะ ทำไมยืนหน้าแดงกันแบบนั้น ทำอย่างกับฉันไปแสดงหนังสดให้แกดูอย่างนั้นแหละ ฉันกับไอ้ดราโกยังไม่ได้เสียกันนะโว้ย” ‘ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะครับ’ ไซมอนแทบจะตะโกนออกไป