EP.1 มาร์คัส&ณิชา
คฤหาสน์มาร์คัส
ห้องวาดภาพ
“นายครับ”
“…”
“สูทที่นายให้สั่งตัดเมื่อวาน ห้องสูทตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” เจเซอร์ เขาคือมือขวาคนสนิทของ มาร์คัส วิลสัน เจ้าพ่อมาเฟียลูกครึ่งเอเชียยุโรป ผู้มีอิทธิพลใหญ่ในระดับหนึ่ง ที่ใครๆก็ต่างรู้จักเขาเป็นอย่างดี
มาร์คัส วิลสัน ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน เขามีอายุย่างเข้าเลข3ปีนี้ ทว่าใบหน้าของเขายังคงความหล่อเหลาเอาไว้ที่เลข2ต้นๆ
ตอนนี้เขาต้องดูแลธุรกิจแทนบิดาของตน เนื่องจากบิดาล้มป่วยกะทันหัน ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องขึ้นแท่นเป็นประธานโดยปริยาย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยากทำนกับก็ตาม เพราะลำพังงานที่ตัวเองทำอยู่ก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว
“ไปรอรับของหรือยัง” เสียงเข้มเอ่ยถามมือขวาในขณะที่มาเฟียหนุ่มยังคงสะบัดพู่กันลงบนกระดาษตรงหน้า
“อีวานไปแล้วครับ ส่วนงานคืนนี้เริ่ม2ทุ่ม” อีวาน มือซ้ายคนสนิทอีกคนของมาร์คัส และงานที่เจเซอร์หมายถึงก็คือ งานที่มาเฟียหนุ่มจะต้องไปร่วมเปิดงานในคืนนี้ในฐานะผู้สนับสนุนหลักที่บิดาของเขาร่วมลงทุนไว้
คลืด!
ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างๆจานสีก็ได้สั่นขึ้น ก่อนจะปรากฏชื่อเจ้าของเรียกเข้า มือหนาโบกไล่มือขวาด้านหลังก่อนจะกดรับสายผู้ที่โทรเข้ามา
“…”
“มาร์คัส”
“…”
“เปิดบ้านให้กูหลังหนึ่ง”
“…” มาเฟียหนุ่มยังคงนิ่งเงียบใส่ปลายสายเช่นเดิม เพราะรอให้อีกฝ่ายบอกเหตุผล ที่ต้องการจะใช้บ้านในโครงการที่บริษัทของเขาเป็นเจ้าของ
“เช่าเก็บของชั่วคราว”
“กูได้อะไร” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามคนในสาย
“ส่วนแบ่ง5%”
“…”
“10%” ความเงียบของมาร์คัสทำให้ปลายสายต้องเพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งให้เขา
“เดี๋ยวให้เจเซอร์จัดการ”
“ขอบใจ คืนนี้มาร้านไหม”
“ไม่” เขาตอบปลายสายอย่างไม่ไยดี และจะกดวางอย่างไม่ลังเล ใบหน้าหล่อหันกลับมาโฟกัสภาพวาดบนกระดาษอีกครั้งอย่างตั้งใจ
กิจกรรมผ่อนคลายสมองของมาร์คัสคือการวาดภาพลงกระดาษแผ่นใหญ่ทุกๆวัน เขาเลยได้รางวัลวาดภาพสวยระดับประเทศตอนอยู่มัธยมปลาย แต่นั่นก็คือเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาหลาย10ปีแล้ว
ส่วนบุคคลที่โทรเข้ามาเมื่อกี้คือ ฮัลเตอร์ นอร์ เพื่อนสนิทที่ร่วมลงทุนด้วยกันมา10ปีแล้ว และยังมีเพื่อนคนอื่นๆอีก 4 คน
Part ณิชา
โรงอาหารมหาวิทยาลัย
“พักพิง มัวแต่เล่นอะไรอยู่ไม่กินข้าวสักที”
“จะเสร็จแล้วๆ โพสต์เรียบร้อย!” ณิชา จารุภา ตอบใบข้าว เพื่อนสนิทพร้อมกับวางโทรศัพท์ลงและเริ่มทานอาหารกลางวัน
ณิชา จารุภา หรือ น้ำชา เด็กสาวจอมแก่นวัย 23ปี เธอคือลูกสาวคนเดียวของบ้าน พ่อแม่ของเธอเป็นพนักงานบริษัททั่วไปที่มีเงินเดือนเพียงหลังหมื่น แต่ก็สามารถส่งเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนในคณะวารสารศาสตร์ตามที่เธอใฝ่ฝันได้
อาชีพเสริมของเธอคือการไปทำข่าวเพื่อนำไปเสนอให้สำนักงานข่าว หาเงินแบ่งเบาค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในบ้าน และยังมีลงข่าวสารในเพจของตัวเองโดยไม่เปิดเผยตัวตนอีกด้วย เพจของเธอมีผู้ติดตามมากถึง3ล้านคน ทว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอคือเจ้าของเพจนั้นรวมไปถึงเพื่อนๆของเธอ
“ค่อยๆกินสิณิชา เดี๋ยวก็ติดคอหรอก!” ใบข้าวเอ่ยเตือนขึ้นอีกครั้งพร้อมกับดันแก้วน้ำให้กับเธอ
“ฉันลืมไปเลยว่าเราต้องไปหาอาจารย์ ไม่รู้นัดไปทำไม” ญิชาบอกเพื่อนของเธอเมื่ออาจารย์นัดไว้เมื่อเช้า
“งั้นกินข้าวเสร็จไปกันเลยไหม เผื่ออาจารย์มีเรื่องสำคัญ”
“โอเคเดี๋ยวกินเสร็จไปเลยแล้วกัน”
ห้องพักอาจารย์
“ขออนุญาตค่ะอาจารย์”
“เข้ามาสิเด็กๆ อาจารย์มีเรื่องจะให้เราช่วย”
“อะไรเหรอคะอาจารย์” ใบข้าวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พอดีนักศึกษาที่ต้องไปทำข่าวที่งานเปิดตัวคืนนี้ไม่สบาย อาจารย์เลยจะวานให้เราสองคนไปช่วยทำข่าวแทนหน่อยจ้ะ”
“ได้ค่ะ ตอนไหนเหรอคะ”
“เห็นว่างานเริ่ม2ทุ่มจ้ะ”
“ได้ค่ะอาจารย์ หนูกับข้าวอยากออกไปเปิดหูเปิดตาพอดี ใช่ไหมยัยข้าว”
“หาพวกเลยนะคุณน้ำชา~”
“โอเคเด็กๆ งั้น1ทุ่มครึ่งอาจารย์จะไปรับเราสองคนที่บ้านนะคะ เดี๋ยวอาจารย์จะขออนุญาตพ่อแม่ให้เอง”
“รับทราบค่ะอาจารย์”
โรงแรมหรู 5 ดาว
งานเปิดตัวโครงการใหม่สร้างหมู่บ้านใหม่
ตอนนี้เด็กสาวทั้งสองได้มาถึงงานที่เธอจะต้องมาเก็บข่าวสารแล้ว โดยมีอาจารย์ผู้ปรึกษามาด้วย
“3ทุ่มมารออาจารย์ที่ทางเข้านะคะ เราจะเอาแค่ข่าวตอนเปิดงาน”
“ได้ค่ะอาจารย์” เด็กสาวส่วนสูง155ตอบกลับอาจารย์ก่อนจะเดินไปดูงานรอบๆ โดยมีเพื่อนสนิทของเธอเดินตามหลังมาด้วย
เวลาล่วงเลยผ่านมาจึงเวลาเปิดงาน ตอนนี้เด็กสาวทั้งสองได้ยืนประจำหน้าที่ของตัวเองแล้วและกำลังรอประธานขึ้นกล่าวเปิดงาน
“ขอเชิญคุณ มาร์คัส วิลสัน ขึ้นกล่าวเปิดงานโครงการคืนนี้ครับ” เสียงประกาศจากนายพิธีดังขึ้น ก่อนที่จะมีชายหนุ่มหุ่นดีมีภูมิฐานเดินขึ้นมาบนเวที ทำเอาเด็กสาวที่เห็นรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตไปชั่วขณะ ความหล่อที่ปนเปื้อนไปด้วยความดุดันและเข้มขรึม ทำเอาเธอรู้สึกว่าเขาหล่อและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
“โห คุณคนนี้หน้ายังดูเด็กอยู่เลย เป็นถึงประธานแล้วเหรอ” ใบข้าวพูดขึ้นเมื่อเธอเห็นผู้เปิดงานมีใบหน้าที่ดูเด็กมากๆ
“ก็ว่างั้น สงสัยพอแม่จะรวยแหละ”
“ใบเคยได้ยินแต่ชื่อ พึ่งเคยเห็นหน้าครั้งนี้นี่แหละ”
“อืม สนใจทำงานเถอะน่า อย่าไปสนใจเขามาก!”
เด็กสาวทั้งสองหันกลับมาทำงานอย่างตั้งใจ ทว่าสายตาของญิชามักจะมองไปที่ชายหนุ่มอยู่เป็นประจำ จนเธอและเขาเผลอสบตากัน ทำเอาใจดวงน้อยของเด็กสาวกระตุกวูบ เมื่อได้สบตาเข้ากับดวงตาเยือกเย็นคู่นั้น
21:00 น.
“3ทุ่มแล้วชา ไปรออาจารย์หน้าประตูกัน”
“เดี๋ยวๆ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม ข้าวไปรอก่อนเลย”
“อืม โอเค”
เด็กสาวเดินแยกออกมาเข้าห้องน้ำนอกห้องเปิดงาน ที่ตอนนี้ยังไม่มีผู้คนเดินไปมา จึงทำให้จุดนี้เงียบสงบ เมื่อเด็กสาวทำธุระของตัวเองเสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกมาจากห้องน้ำทันที ก่อนจะต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคุยกันของใครบางคน ที่อยู่ในซอกซอยก่อนถึงหน้าห้องน้ำหญิง
“ได้ของหรือยัง”
“อีวานบอกว่าของมาไม่ครบครับ ขาดตัวยาที่ทำให้คนกินเคลิ้ม”
“กูไม่ต้องการฟังคำตอบนี้”
“ขอโทษครับ ผมจะแจ้งนายอีกทีหลังงานเรียบร้อยแล้ว”
“ถ้าตุกติก ก็ฆ่าพวกมัน” น้ำเสียงเยือกเย็นของใครบางคนทำให้ไรขนอ่อนของเด็กสาวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะต้องตกใจขึ้นเมื่อชายหนุ่มที่ยืนคุยกันอยู่เดินออกมา ทำให้ร่างเล็กต้องรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูราวกับกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
ร่างเล็กยืนนิ่งหัวใจเต้นโครมคราม เธอถูกมองด้วยสายตาเรียบนิ่งทว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรออกมา ณิชาจึงต้องสร้างเรื่องราวการคุยโทรศัพท์กับคนในสาย ไม่งั้นเธออาจจะซวยที่แอบยืนฟังคนอื่นคุยกัน
“กำลังกลับแล้วค่ะ หนูพึ่งจะทำงานเสร็จ” เด็กสาวชุดนักศึกษารีบสาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว โดยที่ยังถูกสายตาเยือกเย็นนั้นจ้องมองอยู่
Part มาคัส
หลังจากที่มาเฟียหนุ่มตำหนิลูกน้องของตัวเองเสร็จ เขาจึงเดินออกมาจากทางหนีไฟก่อนจะเห็นเด็กสาวชุดนักศึกษากำลังยืนทำหน้าเลิกลักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู
“กำลังกลับแล้วค่ะ หนูพึ”งจะทำงานเสร็จ”
“เธอแอบฟังหรือเปล่าครับนาย” มือขวาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาเห็นเด็กสาวคนนั้นมีท่าทีแปลกๆ
“ตามไป”
“ครับ”
Prat ณิชา
สาวน้อยเดินออกมาหาเพื่อนและอาจารย์ด้วยความรวดเร็ว โดยไม่กล้าหันกลับไปมองว่ามีใครตามมาหรือเปล่า
“ณิชามาแล้วค่ะอาจารย์”
“งั้นไปกัน อาจารย์จะไปส่งเราสองคนที่บ้าน”
“ค่ะ~” ตลอดทางกลับบ้านเด็กสาวเอาแต่นั่งคิดในสิ่งที่เธอได้ยิน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องของเธอ แต่ถ้าหากนักธุรกิจใหญ่ที่เธอเจอในวันนี้ทำเรื่องไม่ดี เธอก็พอที่จะเขียนข่าวไร้นามส่งไปที่สำนักงานข่าวเพื่อหาเงินเข้าบ้านได้
“เป็นอะไรณิชา ทำหน้าแปลกๆตั้งแต่กลับออกมาจากห้องน้ำแล้ว” ใบข้าวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทมีสีหน้าเคร่งเครียด
“เปล่า~ อาจารย์คะ คนเปิดงานที่ชื่อมาร์คัสอะไรนั่น เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่เหรอคะ”
“ใช่จ้ะ คุณมาร์คัส วิลสัน อายุ31 ตอนนี้ขึ้นเป็นประธานบริษัทใหญ่แทนบิดา เขาเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อีกหลายที แล้วก็เป็นเจ้าของโครงการอีกหลายโครงการด้วยนะ แต่เขาไม่ค่อยออกงานหรอก อาจารย์ก็พึ่งเห็นงานนี้แหละ”
“โห~ มหาเศรษฐีที่แท้จริง” ใบข้าวทำตาลุกวาวเมื่ออาจารย์บรรยายเกี่ยวกับความรวยของมาร์คัสให้ฟัง
“อาจารย์ว่าคนพวกนี้ เขาจะทำเรื่องไม่ได้ไหมคะ แบบพวกของผิดกฎหมายในหนัง”
“อาจารย์ก็ไม่รู้หรอก แต่อย่าไปยุ่งกับเขาก็พอ เขาสามารถทำให้อาจารย์หรือไม่ก็พ่อแม่เธอตกงานได้เลยนะ โดนแบล็กลิสได้ทุกบริษัทในเครือ เหมือนว่าบริษัทที่พ่อแม่ของเธอทำอยู่ก็เครือของคุณมาร์คัสเขานะ”
“…” คำเตือนของอาจารย์ทำให้เด็กยิ่งปักใจเชื่อว่ามาร์คัสที่ว่า จะต้องทำเรื่องผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
“ทำหน้าอย่างนี้แสดงว่าเมื่อกี้ไปได้ยินอะไรมาใช่ไหม” ใบข้าวกระซิบกระซาบจากเบาะหลังแนบหน้าฝั่งกระจกเพราะกลัวอาจารย์ได้ยิน
“ฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ฟังแล้วแปลกๆ”
“งั้นก็อย่าไปยุ่งเรื่องของเขาเถอะ ไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกเหรอว่าเขาเป็นเครือบริษัทที่พ่อแม่ชาทำงาน”
“...” ณิชายิ่งเงียบราวกับกำลังใช้ความคิด