บทที่ 2
เนื้อคู่ (2)
“ยัยณิน! แกโอเคไหม เป็นอะไรหรือเปล่า”
“อะ…โอเค ฉันโอเค แล้วทำไมฉันถึง…”
“เฮ้ย! คนเจ็บอยู่นี่ ไม่คิดจะช่วยกันหน่อยหรือไงวะ!”
ทั้งฉันและเข็มสะดุ้งโหยงจนตัวโยน เสียงตะคอกดังลั่นส่งผลให้ฉันรีบหันไปยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาและหมวกกันน็อกสีดำเต็มใบ มอเตอร์ไซค์หรือที่คนเขาเรียกว่าบิ๊กไบค์ที่ใช้ขับเคลื่อนก็เทกระจาดอยู่ที่พื้น แถมร่างกายของเขาคนนั้นก็นอนล้มแนบชิดไปกับพื้นปูนที่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังบาดเจ็บ
“เฮ้ย…คุณ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฉันขอโทษ” ฉันรีบวิ่งปรี่เข้าไปหาเขาคนนั้นด้วยท่าทางร้อนรน มือสองข้างพร้อมกับแรงของเพื่อนสนิทก็ช่วยกันพยุงร่างของเขาเอาไว้ ก่อนจะประคองตัวรถให้กลับมาตั้งบนพื้นถนนดังเดิม
เจ้าตัวพร่ำบ่นด้วยคำพูดหยาบคายที่ฉันฟังจับใจความไม่ได้ เขาสะบัดตัวจากการเกาะกุมพลางใช้มือที่มีรอยถลอกถอดหมวกกันน็อกออก ก่อนจะตวัดสายตาคมมองมาที่ฉันที่ตอนนี้กำลังหยุดยืนอยู่ตรงหน้าซึ่งมีระยะห่างไม่ถึงหนึ่งเมตร
“เป็นบ้าอะไรของคุณวะ อยู่ ๆ ก็ทะเล่อทะล่าเดินออกมาทำไม!”
โอ้โห…ราวกับโลกหยุดหมุน ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวไม่เว้นแม้กระทั่งลมหายใจของฉันที่หยุดชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาเมื่อเป็นอิสระจากการบดบังส่งผลให้ฉันนิ่งงันไปในทันที
ให้ตาย…หล่อชะมัด!
“เฮ้ย! ฟังอยู่ไหมวะเนี่ย!”
“อึก…อะ…อะไรนะคะ เอ้ย! ฟังอยู่ค่ะ ฟังอยู่” แรงตะคอกพร้อมกับแรงสะกิดยิก ๆ ของเข็มเรียกสติของฉันให้กลับคืนมา
ฉันจับใจความท้ายประโยคได้บ้างถึงได้ตอบกลับไป พลางสูดลมหายใจเพื่อให้ตัวเองเป็นปกติมากที่สุด
“คือเพื่อนฉันมันสะดุดอะ มันไม่ได้ตั้งใจขวางทางสักหน่อย คุณเองก็ขับมาเร็ว นี่มันทางชุมชนนะ จะว่าเพื่อนฉันอย่างเดียวก็ไม่ได้ป้ะ”
“อ้าวเฮ้ย! นี่โยนความผิดให้ผมเหรอวะ!”
“ไอ้เข็ม ใจเย็นดิ…เอ่อ ฉันขอโทษนะคะ ฉันผิดเองจริง ๆ นั่นแหละ ฉันขอโทษทุกอย่างเลย ฉันยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง” ฉันรีบแทรกและจับแขนของเข็มเอาไว้ก่อนที่จะได้เห็นฉากทะเลาะกัน เพราะนอกจากจะทำให้พ่อหนุ่มสุดหล่อคนนี้หงุดหงิดแล้ว ความประทับใจแรกที่ได้พบเจอมันก็คงติดลบเข้าไปใหญ่
“ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหรอก แต่ผมแค่อยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณเป็นคนผิด แบบนี้มันอันตรายนะคุณ”
“ขอโทษค่า ขอโทษจริง ๆ แต่ฉันยินดีรับผิดชอบทุกอย่างนะ อย่างน้อยก็พาคุณไปโรงพยาบาลก็น่าจะดีอะ นะคะ ไปเถอะนะ”
“ไม่ต้อง…”
“นะคะ ให้ฉันรับผิดชอบเถอะนะ ฉันคงไม่สบายใจไปจนตายแน่ ๆ เลยอ่า นะ ๆ ฉันขอร้อง” เมื่อล่วงรู้ว่าคนหล่อโดนใจกำลังจะปฏิเสธ มันก็ทำให้ฉันรีบเอ่ยแทรกและส่งสายตาหวานเชื่อมกลับไปให้แทบจะทันที ตามมาด้วยคำพูดอ้อน ๆ ที่ขุดมาจากมารยาในหนังสือฉบับยัยณินคนแรด เพื่อหวังให้หนุ่มหล่อคนนี้ตอบตกลงตามที่คาดหวังไว้
“อีแรด! เห็นคนหล่อไม่ได้เลยนะ!” เสียงกระซิบลอดไรฟันดังข้างหูก่อนที่แรงหยิกจะเกิดขึ้นจนฉันถึงกับต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปโรง’บาลแล้วกัน” เสียงเข้มตอบรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ฉันยกยิ้มดีใจจนเกือบจะกระโดดโลดเต้นออกมา แต่ทว่าก็ต้องสงวนท่าทีเอาไว้ดังเดิม
“โอเคเลยค่ะ! เดี๋ยวฉันพาไปนะ ไปตรวจดูหน่อยเผื่อกระดูกหักไรงี้ มาค่ะ ฉันช่วยพยุง”
“ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวผมไปเอง คุณก็ขับตามผมมาแล้วกัน ผมขับไหว” มือหนาโบกไหวเป็นการปฏิเสธ คนหล่อเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองก่อนจะสวมหมวกกันน็อกเสร็จสรรพ
“แต่ว่า…”
“จะเอาไงวะเนี่ย รีบ ๆ ตามมาเหอะน่าผมรีบ!”
“อะ…โอเคค่ะ คุณนำไปได้เลยเดี๋ยวฉันขับตามไป ระวังด้วยนะคะ” น้ำเสียงกระแทกหงุดหงิดทำให้ฉันจำต้องรีบตอบรับ ก่อนจะรีบวิ่งไปยังรถยนต์ตามที่อีกฝ่ายต้องการ
“คนอะไรวะ ขี้หงุดหงิดสุด ๆ ขี้เก๊กด้วย!” เข็มออกปากบ่นเมื่อขึ้นนั่งประจำที่ฝั่งคนขับเรียบร้อย ผิดกันกับฉันที่ตอนนี้เอาแต่ฉีกยิ้มกว้างยกใหญ่ แถมสายตาก็เอาแต่จดจ้องมองแผ่นหลังกว้างของคู่กรณีที่เพิ่งมีเรื่องกันได้ไม่นาน
ให้ตาย…หล่อตรงสเปคสุด ๆ!
“เจริญ! เห็นคนหล่อไม่ได้เลยนะ รู้หรอกว่าเขาหล่อตรงสเปค แต่ปากหมาแบบนี้ฉันก็ไม่ไหวนะไอ้ณิน”
“แกอย่าว่าเขาสิ เขากำลังโมโหอยู่นี่นา แล้วแกก็รีบขับตามไปได้แล้ว เดี๋ยวจะคลาดกัน” ปากก็เอ่ยห้ามปรามเพื่อนสนิทที่กำลังต่อว่าคนหล่อโดนใจ แต่ทว่าสายตาของฉันกลับเอาแต่จดจ้องมองไปที่เขาคนนั้นราวกับถูกต้องมนตร์บางอย่างที่ไม่อาจละความสนใจได้
“ขาว ตี๋ สูง แม่ง…อย่าบอกนะว่าไอ้นี่คือเนื้อคู่ของแกอย่างที่แม่หมอทักไว้อะ!” เข็มตะโกนบอกจนฉันสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ แต่พอลองทบทวนถึงคำพูดของแม่หมอก็ทำให้ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้าง ก่อนจะหันไปสบประสานกับเพื่อนสนิทข้างกายด้วยความตื่นตะลึง
ใช่เลย…เขาคนนั้นตรงตามสเปคทุกอย่าง!
“เชี่ย! ใช่เลยว่ะ! กรี๊ด คุณเนื้อคู่ขา…มาไวจริง ๆ เลยน้า ไอ้ณินคนนี้จะไม่ปล่อยให้หลุดมือเลยคอยดู!”